ภาพที่ 1ความเป็นมา
เนื้อของปลาตะลุมพุกนั้นมีลักษณะพิเศษมากคือเนื้อจะนิ่มมากเมื่อต้มหรือนึ่ง แต่ถ้าต้มเคี่ยวไปนานๆ เนื้อจะจับกันเป็นก้อนแข็งเหมือนพวกปลาโอและปลาทูน่าไม่เปื่อยยุ่ยเหมือนปลาเนื้อนิ่มพวกกะพงหรือปลาเก๋า แม้จะมีก้างมากมายมหาศาล แต่ด้วยรสชาติที่มันอร่อยและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของปลาตะลุมพุก ประกอบกับมันหาได้ยากจึงทำให้มันมีราคาแพงมาก ปลาตะลุมพุกขนาดกลางน้ำหนักประมาณหกถึงแปดขีด ราคาต่อกิโลเกินหนึ่งร้อยบาท และถ้ามีขนาดใหญ่เกินตัวละหนึ่งกิโล ราคาจะยิ่งแพงขึ้นอีก เพราะปลาตัวใหญ่จะก้างใหญ่ มองเห็นได้ง่าย ทำให้กินได้ง่ายขึ้น
ผมเคยพบปลาตะลุมพุกในตลาดเพียงสองที่คือที่ตลาดระนอง และตลาดเก่าเยาวราช ที่ตลาดระนองเป็นปลาที่จับได้จากพม่า ปลาส่วนใหญ่จะมีขนาดหกขีดถึงหนึ่งกิโล ราคาขึ้นต่ำกิโลละ 150 บาท ส่วนที่ตลาดเก่าเยาวราช ผมไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากไหน มันมีขนาดใหญ่มากจนไม่กล้าถามราคา เพราะถ้าหากมันกิโลละ 300 บาท ปลาขนาดนั้นก็น่าจะมีราคาเกือบๆ พันบาท (คนที่เคยซื้อของที่ตลาดเก่าเยาวราชจะรู้ดีว่าของที่นั่นมีแต่ของดีๆ ราคาสูงๆ ทั้งนั้น แต่จะเรียกว่าแพงก็คงไม่ได้)
ปลาตะลุมพุกมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า ปลาชิกคัก คนจีนนิยมเอามานึ่งกินมากที่สุด เพราะเนื้อจะหอมมันหวานอร่อยมาก แต่ถ้าสู้รบปรบมือกับก้างมีมากที่สุดในทุกส่วนสัดไม่ไหว ก็มักจะเอาปลาขนาดที่ย่อมหน่อยมาขอดเกล็ดหั่นเป็นท่อนๆ ต้มเค็มๆ หวานๆ แบบปลาตะเพียนต้มเค็ม แต่จะเคี่ยวไว้นานๆ จนเนื้อแข็งเป็นก้อนๆ และก้างละลายหายไปหมด
ผมเคยกินทั้งสองแบบ ยืนยันได้เลยว่า แม้ว่าตะลุมพุกต้มเค็มจะหอมมันเคี้ยวเต็มคำและไม่มีก้างกวนใจ แต่ปลาตะลุมพุกนึ่งอร่อยกว่าอย่างเทียบไม่ได้ จนอยากจะบอกว่า ผมยอมเสี่ยงก้างติดคอดีกว่าเอาตะลุมพุกไปต้มเค็ม
ส่วนผสม
สำหรับคนที่ได้ตะลุมพุกมาแล้วกึ่งกล้ากึ่งกลัวก้าง ลองทำตามสูตรนี้ดูคือ เอาปลาตะลุมพุกขอดเกล็ด หั่นเป็นท่อนๆ ลงต้มในกับผักกาดดองในน้ำที่ปรุงด้วยมะขามเปียก ซีอิ๊วขาว โดยมีหอม กระเทียม และพริกแห้งคั่วเป็นเครื่องชูกลิ่น ต้มใส่น้ำมากๆ หน่อยไม่นานก็ตักมากินได้ จะได้เนื้อนิ่มหวานมันหอมอร่อยมาก และได้ซดน้ำเป็นน้ำแกง แต่ถ้ากินแล้วสู้ก้างไม่ไหว ก็ต้มต่อไปเรื่อยๆ ก้างจะเปื่อยละลายหายไป น้ำก็จะเข้มข้นขึ้น กลายเป็นต้มเค็มที่ปลาไม่มีก้างแทน/..
วิธีทำ
อื่นๆ