ภาพที่ 1 หมู่นี้มันร้อนมากมายเสียเหลือเกินนะขะรับ...ร้อนจนตับไตไส้พุงมันแทบสุก...ยิ่งยามบ่ายแล้วยิ่งร้อนทรมาณนักละขะรับ มันสวิงสวายงุ่นง่านดีพิลึก...ว่าแล้วก็เดินไปหยิบไอ้น้ำสีชาที่แอบไว้มาเปิด...ควานหาเศษน้ำแข็งใส่แก้วเข้า...รินไอ้น้ำสีชาลงผสมมันด้วยน้ำเปล่านี่ละ...ไม่ต้องโซดงโซดาให้เปลืองตุ้งตังในกระเป๋าอันแบนฟีบ...นิ้วคนๆเข้าแล้วยกขึ้นดื่ม...อ่าาาาาาา...มันช่างชุ่มชื่นอกแห้งๆนี่เสียกระไร...ครั้นจะกินแต่ไอ้น้ำสีชาอย่างเดียว...เดี๋ยวชาวบ้านร้านตลาดมันจะดูหมิ่นดูแคลน...หันรีหันขวางเปิดตู้กับข้าว...ที่เอาตู้เก็บเอกสารมาดัดแปลง เจอ น้ำพริกกระปิ ที่ทิดโบ้ตะแกตำไว้ กับ เนือผัดพริกใบโหระพาอยู่ด้วยหนึ่งหน่วย...เลยนึกขึ้นได้ว่า...มาลองทำอาหารสูตรชาววังกินดูมันน่าจะหรูหราฟุ่มเฟือยดีพิลึก นะขอรับ...
ภาพที่ 2 ไอ้อาหารชาววังที่ว่า เค้าเรียกกันมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้วว่า "แกงรัญจวน" ซึ่งไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรและทำไมชื่อแกงมันถึงติดเรทอาร์ยังไงก็ไม่รู้...เป็นสูตรของ ท่านหม่อมเจ้าหญิงสะบาย นิลรัตน์...ต้นเครื่องในวังพระวิมาดาเธอฯ พระอัครชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้านะขะรับ...
ภาพที่ 3 การทำก็ไม่มีอะไรยาก เอาหม้อใส่น้ำ กะดูตามจำนวนน้ำพริกถ้วยเก่าที่เหลือ ถ้าเหลือเยอะก็น้ำสักลิตร ปอกหอม ปอกกระเทียม บุบๆ แล้วโยนลงหม้อ ใครไม่มั่นใจก็จะใส่ผงปรุงรส หรือผงชูรสลงไป ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ
ภาพที่ 4 ระว่างลงน้ำเดือด ก็เด็ดก้านพริกถ้าได้พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กๆด้วยละก็เด็ดนัก ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเอาไอ้พริกที่หาได้มาทำแทนก็พอไหว แต่มันจะไม่หอมเหมือนพริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กๆ เด็ดก้านทิ้งแล้วก็บุบๆพอแตก หันมะนาวเข้า
ภาพที่ 5 เสร็จก็บีบมะนาวและใส่พริกตามความชอบนะ...ขะรับ...แต่อย่าให้ถึงขนาดนั่งส้วมตอนเช้าร้อนรูก้นรูกอยก็แล้วกัน...
ภาพที่ 6 พอน้ำเดือดก็ใส่น้ำพริกลงไป...ตามด้วยผัดเนือโหระพาที่เหลือ...
ภาพที่ 7 รอจนแกงเดือดอีกครับตักใส่ถ้วย...หรือจะยกไปกินทั้งหม้อก็ไม่มีใครว่าอะไร...เว้นแต่นังยักษ์มันจะยืนมองตาเขียว
ภาพที่ 8เสร็จละขะรับ...
ภาพที่ 9 ที่นี้ก็เชิญครับจะกินกับข้าว...หรือจะกินกับไอ้น้ำที่ท่านชอบก็ตามใจ...แต่ผม "กับไว้กินกับเหล้า ...ข้าวไว้กินกับเกลือ..." เอ้ายกแก้วขะรับ...
แก้ไข 20 ก.ย. 61, 08:03