ภาพที่ 1แกงตอนสงกรานต์ ลูกๆ อยู่กันพร้อมหน้า นานๆ ทำที จำไม่ค่อยได้ ค่อยๆคลำเอา พอได้
เครื่องปรุง 1. พริกแกงเผ็ด ประมาณ 1 ขีด (10 บาท) แต่ถ้ามีเวลา จะตำเอง เครื่องแกงมีดังนี้
พริกแห้งแช่น้ำ ประมาณ 5-6 เม็ด,ตะไคร้ 2-3 ต้น,รากผักชี 2-3 ต้น,หอมแดง,กระเทียม,เกลือป่น,ผิวมะกรูด กะปิ อย่างละพอประมาณ
มะขามเปียก แช่น้ำไว้ 5-6 ฝัก น้ำปลา น้ำตาลปีบ น้ำปลาปรุงรส ใบมะกรูดฉีก โขลกเครื่องแกงให้แหลกพอประมาณ ตักพักไว้
หัวกะทิ ครึ่งกิโล ขอหางเขามาด้วย ไว้ใส่ตอนแกงเดือด
ภาพที่ 2ผมขี้เกียจตำเครื่องแกง ปวดมือ เลยซื้อมา 1 ขีด แต่เอามาผสม ปอกผิวมะกรูด หั่นฝอย โขลกรวมรากผักชี พอแหลกดีแล้ว เอาโขลกผสมกับพริกที่ซื้อมา
มีข้อควรจำว่า พริกแกงสำเร็จรูป ส่วนมากจะเค็ม เพราะเขาตำเก็บไว้ขาย ใส่เกลือมาก จะได้ไม่เสียเร็ว เวลาปรุงรส น้ำปลา หรือเกลือ อย่าเพิ่งใส่ ให้ชิมก่อน
ยิ่งแกงกับหัวปลาเค็มด้วย น้ำปลาแทบไม่ต้องใส่เลย
ภาพที่ 3ตำแหลกดีแล้ว (จะใส่กะปิเพิ่มลงไปซักหน่อยหนึ่งก็ได้) ลูกมะกรูด เอามาผ่าครึ่ง แคะเม็ดออก เอาไว้ใส่ตอนแกง
ภาพที่ 4ผัดเครื่องแกงให้หอม ระวังจะไหม้ ค่อยๆใส่หัวกะทิลงไปผัดให้แตกมัน ปรุงรส ใส่มะขามเปียก เอาให้เปรี้ยวนำไว้ก่อน น้ำตาลปีบ น้ำปลา หรือเกลือ
อย่าเพิ่งใส่ ให้ชิมดูก่อน
ภาพที่ 5ชิมรสได้แล้ว เอาหัวปลาใส่ บางท่านไม่ทานปลา ใช้หมูสามชั้น หั่นชิ้นพอประมาณ ก็ได้ ใส่หางกะทิ มะกรูดลูก เดือดดีแล้ว ใส่หัวกะทิที่เหลือ ชิมรสอีกที
ให้เปรี้ยวนำ หวาน เค็ม
ภาพที่ 6รอแกงเดือด ชิมรสอีกที อย่าเพิ่งใส่ผัก ไว่ใส่ทีสุดท้าย ไม่งั้นจะเหนียว ทานไม่อร่อย
ภาพที่ 7ใส่ผัก บางท่านจะมาชิมตอนนี้อีกที ก็ได้ ให้รสเปรี้ยวนำ หวาน เค็ม ตาม เดือดดีแล้วปิดไฟทันที เดี๋ยวผักเหนียว ไม่อร่อย
ภาพที่ 8หน้าตาก็ประมาณนี้ ที่บ้านก็หมดในมื้อที่สอง ไม่ครบวันซะที จะมีไข่เจียวแนมอีก ก็ไม่ผิดกติกา ทานข้าวเที่ยงกับครับ