ภาพที่ 1เกริ่นนำ
เมนูครั้งก่อนได้ทำน้ำยากะทิปลายี่สกเสนอไป
ทีนี้น้ำยาบ่อยๆก็ไม่ไหว เลยคิดเมนูขึ้นมาว่า
ปลายี่สกตัวใหญ่ๆนั้นจะทำอะไรกินได้อีกนอกเหนือจาก
ต้มยำน้ำใส นึ่งน้ำปลาผักกาดขาวกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว หรือทำน้ำยากะทิ
เครื่องแกงซิ!!!! อืมมมน่าสน
และความที่คลางแคลงใจมานานว่า เครื่องแกงรสเผ็ดเข้มข้น
ทำไมจึงเรียกว่า ผัดพริกขิง ทั้งที่ไม่มีขิงเป็นส่วนประกอบ
ลองมาดูกันครับว่า ยี่สกฟู ผัดพริกขิง หน้าตาจะเป็นอย่างไร
ขั้นแรกก็ไปหาวัตถุดิบกันก่อน...
ภาพที่ 2เมื่อได้วัตถุดิบมาแล้วก็ทำการ ขอดเกล็ด ควักไส้ทิ้ง
ตัดหัว บั้งปลา วิธีบั้งปลาที่มีก้างแซมเนื้อเป็นตัว Y เช่น ยี่สกนั้น
อย่าบั้งลึกจนถึงก้างใหญ่(ก้างปลา Y จะขาดเป็น3ท่อนกินยาก)
เอาแค่มีดชนก้างก็ยกมีดขึ้น ก้างปลา Y จะอยู่ครบ เวลานึ่ง หรือต้ม
ก็สามารถหยิบหรือดึงก้างออกจากเนื้อโดยง่าย ทีนี้ก็
ล้างปลาด้วยเกลือ และตามด้วยล้างน้ำไหลอีกครั้ง
เมื่อปลาสะอาดดีแล้วก็เอาไปต้มในน้ำเดือดๆ แนะนำให้ต้มโดยใช้กระทะ
เพราะจะสะดวกในการพลิกตัวปลา เอาแค่พอสุกเนื้อปลาแข็งๆไม่ต้องสุกมากปลาจะเละ
ระหว่างรอปลาสุกก็มาเตรียมเครื่องแกงกันครับ....
ภาพที่ 3เครื่องแกงก็ตามนี้เลยครับ
ข่าซอย ตะไคร้ ผิวมะกรูด เกลือ หอมแดง กระเทียม
พริกเหลือง พริกขี้หนูแดง พริกขี้หนูแห้ง กะปิ
โขลกเครื่องแกงโดยเริ่มจากข่าหั่นละเอียด ตะไคร้ซอย
ผิวมะกรูด และเกลือ และกุ้งแห้ง ตำให้ละเอียด
ใส่หอมแดง กระเทียม พริกทั้งหมดตำให้เข้ากัน
ภาพที่ 4ภาพที่ 5ภาพที่ 6ภาพที่ 7ภาพที่ 8ระหว่างผัดพริกแกงก็ปรุงรสไปด้วย
โดยเติม น้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรสนิดหน่อยอย่าเยอะ
น้ำปลาไม่ต้องนะครับ เพราะใส่เกลือในพริกแกงไปแล้ว
ชิมรสชาดดูว่าขาดรสริน เจ้ยยขาดรสชาดอะไร ก็ใส่ๆปรุงๆเติมๆตามใจปาก
ภาพที่ 9ภาพที่ 10ภาพที่ 11ภาพที่ 12ภาพที่ 13ภาพที่ 14แล้วเจอกันอีกในเมนูครั้งหน้านะครับ
ขอลาด้วยภาพนี้นะครับ
ขอขอบคุณ SFC ที่ให้พื้นที่ บอกกล่าวเล่าเรื่อง
ขอขอบคุณน้าป้าทุกท่านที่เม้นและโหวตให้