ภาพที่ 1หลังจากน้ำท่วมลด นาแถวบ้านน้ำก็ลดลง หาหมายที่จะตกช่อนก็ยากเต็มที ( เริ่มติดไวรัสตีเหยื่อปลอมเข้าให้แล้วครับ ) วันก่อนมีสมาชิกใจดีแนะนำหมาย ก็เลยลองเข้าไปดู ไปถึงเช้า โอโหช่องน้อยจริงๆ เหลี่ยมที่พอจะแทรกตัวตีก็ดันมีกอหญ้าซะ อีกเหลี่ยมก็ดันมีกิ่งไม้บัง ( เสียวตอนเหวี่ยงเหยื่อนี่แหละ เกิดมันไปติด มีเอ็นเข้านิ้วแน่ๆ *** เคยมีประสบการ์ณ นานมาแล้วตกปลาเกล็ด ลองใส่สาย Dymeena 30 lb เล็งจุดที่ปลาขึ้นกลางบ่อ เหวี่ยงเต็มเหนี่ยว ข้างหลังตะกร้อเบ็ดไปเกี่ยวมุ้งสีฟ้าที่เค้าไว้กันปลาออกเวลาหน้าฝน ผลสายจมนิ้วชี้เลย ตั้งแต่นั้นมาก็หันมาใช้แต่เบท เพิ่งกลับมาใช้สปินก็ตอนที่หัดตีเหยื่อปลอมนี่แหละ )
เลยจัดให้ ได้เตรียมพร้าติดรถมาด้วย ถางๆออกไปบ้าง พอได้มีช่องตีโดยไม่เสียวนิ้ว เสร็จเรียบร้อยก็ตีกบก่อนเลย ตีไปได้ 10 ไม้เจอเลยครับตัวนี้
ภาพที่ 2เกี่ยวติดเหงี่ยงเดียวด้วย ( ก่อนจะกัดติด ไม้ที่ 8 ตีไปกรอกลับมีป๊าปไม่ติด กรอมาได้เมตรกว่าๆกัดอีกป๊าป ก็ไม่ติด แต่มีวิ่งมากบดานตรงหน้าเลยฟองพรายน้ำขึ้นเหมือนกินหนอนเลย ) พอไม้ที่10 กัดป๊าปติดครับ เล่นมุดลงพื้นเลยงัด 2 ครั้งถึงจะยอมขึ้นมามอบตัว
ภาพที่ 3อีกมุมหนึ่งเหงี่ยงเดียว
ภาพที่ 4ถ่ายรูปกับอุปกรณ์ครับ ( สังเกตุเอ็นครับ ต่อสายหน้า PE3 เคยใช้ PE3 เพียวๆ แพ้สายPE ครับนิ้วชี้หนังเป็นขุยยังกับทำงานยกอิฐบล็อกเลย เลยลองเปลี่ยนดู ปรากฎว่าใช้ได้ดี ตีลื่น ***ต่อสาย PE ได้ความรู้จากน้าบึกครับ แน่นดี ที่สำคัญประหยัดสาย PE ไปเยอะ เพราะสาย PE ตีไป ตีไป มันเสื่อมเรื่อยๆ เคยติดสวะดึงขาดกลางร่วม 10 เมตร เสียดายก็เลยม้วนเก็บ มีโอกาสนี่แหละที่เอามาต่อได้ )
ภาพที่ 5ชัดๆกับอุปกรณ์ที่ใช้ครับ
ภาพที่ 6ลงถังก่อน
ภาพที่ 7พิกัด 1.4 Kg ครับ ( รอลูกคนเล็กกลับจากเรียนมาถ่ายให้ )
ภาพที่ 8ภาพปริศนาครับ ดูดีๆๆๆๆ ต้องคนตาดีถึงจะเห็นนะนี่
ภาพที่ 9เอาไปดูอีกมุมหนึ่ง น้าๆที่เข้าหมายรกๆระวังไว้หน่อยก็ดีครับ ของผมนี่ถ้ามันยังไม่ตายแล้วเกิดมันเป็นงูที่มีพิษคงเสร็จมันไปแล้ว
ภาพที่ 10ตัดสินใจหาเถาวัลย์มัดหัว ลากไปทิ้งดงหญ้าก่อนถึงบ่อครับ ( ทิ้งไว้มีขึ้นอืดแน่ๆ อย่างเหม็นเลย งูเน่านี่ )