หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

“ลุงป้อง น้ำในบ่อที่นครนายกลดแล้ว จะไปทดสอบชะโดกันไหม” น้าหนุ่มโทรมาหาผมตอนเช้าวันจันทร์ที่ 4 ธค. 49 ผมนึกในใจว่ามีเหรอผมจะปฏิเสธ ผมก็เลยตอบรับน้าหนุ่มไปว่าจัดไป โดยนัดกันไปเจอที่บ้านน้าหนุ่มที่รังสิตเพราะพวกผมทั้งหมดอยู่รังสิตกัน ยกเว้นผมคนเดียวที่อยู่ฝั่งธน
เช้าวันต่อมาแล้ว ผมตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งขับรถจาก ถ.ราชพฤกษ์ไปบ้านน้าหนุ่ม พอดีช่วงเช้าน้าหนุ่มต้องไปส่งผู้มีอุปการคุณก่อน บอกให้ผมไปรอที่บ้านน้าหนุ่มก่อน จน 8 โมงเช้าน้าหนุ่มหลังจากที่ส่งผู้มีอุปการคุณเสร็จ แล้วแวะรับคนที่เหลือ ก่อนจะมาแวะมารับผมเป็นคนสุดท้าย แล้วพวกผมก็เดินทางไปจ. นครนายกระยะทางราว 50 กม. จากรังสิต ระหว่างทางมีปัญหานิดหน่อยเพราะยางรถน้าหนุ่มฉีกเพราะเป็นยางอะไหล่ที่เอาแทนยางที่แตกไป ต้องเสียเวลาแวะเปลี่ยนยางใหม่ กว่าจะมาถึงหมายก็ราว 10 โมง ผมกับน้าหนุ่มคว้าคันตีเหยื่อปลอม โดยน้าหนุ่มใช้ TEAM Daiwa Z ส่วนผมใช้ Zest Banax สาย 15 ปอนด์ ตีไปประมาณ 10 กว่าไม้ พรายน้ำลู่เป็นทางยาว แล้ว “ตูม” เหยื่อใบพัดผมหายไปใต้น้ำ ผมเซ็ทฮุคปั๊ก เข้าให้ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ก็อัดเจ้าตัวใต้น้ำซึ่งเป็นชะโดขนาด 2.8 กิโลขึ้นมาได้ (เพราะบ่อไม่กว้างเท่าไร) แต่น้าหนุ่มก็โดนชาร์ทไป 3-4 ครั้งแต่ไม่ได้ตัว น้าหนุ่มบอกว่า ลุงอะฟลุ๊กอากาศแบบนี้ได้มายังไง (ก็ฟลุ๊กอะดิ) เลยเอามาให้สุพจน์ช่วยเป็นนายแบบถ่ายรูปให้สักหน่อย (แบบว่าผมอายกล้อง)

แล้วพวกผมก็มานั่งหลบร้อนรอเย็น ๆ ค่อยไปตีเหยื่อปลอมอีก นั่งเฝ้าคันกัน เพราะว่าชะโดกินมันจะลากสายออกไปช้า ๆ ถ้าสะดุด มันจะปล่อยเหยื่อทันที พวกผมเลยต้องเปิดฟรีสปูนไว้ แล้วคอยส่งสายให้เลยต้องมานั่งดูแบบที่เห็นแระ

สักพักสายก็ลากออกไปแล้วหยุด ลากแล้วหยุดน้าหนุ่มเลยส่งสายไป แล้ววัดปังเข้าให้ คันโค้งเลยแต่ปรากฏลากเข้ามาเป็นรากบัว (ฮา)  เจ้าเนตรได้ทีเลยอำน้าหนุ่มว่า ไม่มีฝีมือนี่หว่า คราวนี้ปลากสายอีก น้าหนุ่มเลยบอกให้เนตรลองดูบ้าง เนตรก็ส่งสายให้สัก 1 เมตรแล้วอัดปัง ปรากฏว่าวืดเหมือนกัน ปรากฏว่าเกิดอาการแบบนี้ อยู่ 2-3 คัน โดยไม่ได้วัดสักที ผมเลยลองเปลี่ยนเหยื่อให้เล็กลง เอาละซิ ยังไม่ทันไร วางคันได้สัก 5 นาที สายไหลออกจากสปูนเรื่อย ๆ จาก Penn 320GTi สายขนาด 25 ปอนด์ (ที่ต้องใช้เอ็นใหญ่รอกใหญ่เพราะหมายที่มีรากบัวที่พื้นน้ำ และชายฝั่ง ต้องอัดอย่างเดียวไม่งั้นหลุดหมด) ผมส่งสายให้เมตรนึง แล้วอัดสวนปังเข้าให้เอาละซิหนัก ๆ ปลายสาย เจ้าเนตรได้ทีอำ สงสัยรากบัวอีกแระ แต่ปรากฏสายวิ่งไปซ้าย ขวาได้ ได้ทีผมเลยอำเจ้าเนตรกลับ รากบัวโคราชซิ ว่ายน้ำได้ (เจ้าเนตรเป็นคนโคราช) สุดท้ายปรากฏเป็นช่อนขนาดโลกว่า ๆ เลยให้สุพจน์เป็นนายแบบเอามาถ่ายรูปคู่กับ Daiwa SL30 ของสุพจน์เอง

เอาละซิคราวนี้ไม่สนชะโดแล้วหันมาตกช่อนกัน (ฟองพรายน้ำก็ขึ้นเยอะนะ แต่เจ้าชะโดไม่ค่อยสนเลย) รู้แล้วว่าทำไมวัดไม่ติด เพราะเหยื่อมันใหญ่เกินไปนี่เอง เลยหันมาเปลี่ยนเป็นเหยื่อเล็กลง ได้ผลแหะ น้าหนุ่มเลยสอยขึ้นมาอีกตัว

จากนั้นแมนหลานเจ้าเนตร ก็พาช่อนตามาติด ๆ

สุพจน์ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ในที่สุดก็ อัดปลาเอง แล้วมาถ่ายรูปไม่ต้องยืมปลาที่ผมได้แล้ว

ในที่สุดน้าหนุ่มก็สอยเจ้าชะโด ขึ้นมาจนได้ หลังจากที่ได้ช่อนขึ้นมา  สุพจน์กับเนตรก็ช่วยกันสอยเจ้าช่อนมาคนละตัวสองตัว ซึ่งก็มีการลากสายให้เราตื่นเต้นอยู่เรื่อย ๆ ไม่เหงา จนบ่ายสี่โมงกว่า ๆ แดดร่มลมตก ผมกับน้าหนุ่มก็คว้าเหยื่อปลอมไปตีชะโดกัน ก็ได้ชะโดป๊อกมาอีกคนละ 2 ตัว จนหมดแสดงผมก็กลับมาที่ เต้นท์ปรากฏว่าที่นั่งเฝ้าคันได้ปิดท้ายช่อนขนาดโลนิด ๆ มาอีกตัว แล้วก็ชะโดขนาด 2.8 โลมาอีกตัวเป็นการปิดทริฟครั้งนี้

ตัวเปิดทริฟด้วยเหยื่อปลอม และตัวปิดทริฟด้วยเหยื่อจริง นายแบบโดยแมน

สุพจน์ขอเป็นนายแบบอีกทีกับตัวเปิดและปิดทริฟ

รอกเจ้าเนตร Shimano Tekota 600 กับ Abu Garsia

เหมือนเดิมกับทุกทริฟที่ไป เจ้าเนตรต้องกลับมานอนก่อนที่บ้านญาติน้าหนุ่มที่นครนายก จอมหลับจริง ๆ

สรุปเจ้าช่อน 6 ตัวในทริฟนี้ ขนาดกำลังแป๊ะซะพอดีเลย

ปลารวมครับปลารวม ชะโด 9 ตัง ช่อน 6 ตัว

แล้วทั้งหมดก็อยู่ในลังน้ำแข็ง เตรียมเดินทางกลับรังสิต พอถึงบ้านน้าหนุ่มที่รังสิต ผมกับน้าหนุ่มเอาช่อนกลับคนละตัว ส่วนที่เหลือก็ให้เนตร สุพจน์และเจ้าแมนไปแบ่งกัน สรุปทริฟนี้ผมตีเหยื่อปลอมได้ชะโดมา 4 ตัว ช่อนอีก 2 ตัว อย่างว่าได้ทีเลยข่มเพื่อน ๆ น้อง ๆ หลาน ที่ไปร่วมทริฟนี้ซะเลย แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปแอคชั่นไว้ ให้สุพจน์เป็นนายแบบให้แทน ทริฟนี้ถือว่าไม่กินแห้วเท่าไร ก็ได้อัดปลาทุกคน แม้ว่าจะไม่ใหญ่นัก อย่าลืมนะครับนักตกปลาทุกท่านไปตกปลาที่ไหนก็ตามช่วยกันรักษาความสะอาดของสถานที่ด้วยนะครับ จะได้มีที่ไว้ให้เราตกปลาอีกนาน ๆ หลายที่ที่ปิดไม่ให้ตกก็เพราะพวกเราไม่ค่อยรักษาความสะอาดให้กับสถานที่นั่นเอง แล้วสิ้นปีนี้เจอกันที่ตราดกับไต๋เปีย ยอดไต๋คนนึงแห้งทะเลตราด