ภาพที่ 1หลังจากที่น้าหนุ่มกับเนตร ได้อินทรีมาเกือบ 40 ตัว จากที่ออกไปกับเรือพี่อำนาจเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จนวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2549) หลังจากที่ต้องยกเลิกเพราะคลื่นจัดมาแล้ว 3 ปี ครั้งนี้ก็รอจนนาทีสุดท้ายเหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้ก็มีแต่ข่าวคลื่นจัด จนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2549 บ่าย ๆ น้าหนุ่มก็โทรมาบอกผมว่า พี่อำนาจโทรมาบอกแล้วว่า คลื่นลมไม่แรง วันเสาร์นี้ออกได้แน่นอน เตรียมของได้เลย โอ !!! ในที่สุดเราก็ได้ออกจนได้
วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2549 พี่แฉะ ออกเดินทางจากนครนายก มาแวะรับ น้าหนุ่ม เนตร สุพจน์ ที่รังสิต แล้วก็มารับผมที่บ้านแถวจอมทองตอนราวบ่ายโมง จากนั้นก็ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง มาถึงปราณบุรีราว 5 โมงกว่าหน้าบ้านพี่อำนาจ (เจ้าของเรืออำนาจเจริญ ) โดยพวกผมต้องรอเรืออำนาจเจริญที่ออกไปโสกหาปลารัง มาทำเป็นเหยื่อลอยอินทรี
ภาพที่ 2อุปกรณ์พร้อมกับเบ็ดนรกลอยอินทรี น้าหนุ่มบอกว่าแบบนี้แระ ตกแบบอนุรักษ์ โดยผูกเบ็ด 2 ตัวไว้เกี่ยวเหยื่อ กับเบ็ดสามทางตัวปลา กับลีดลวดเป็น
ภาพที่ 3แล้วพวกผมก็เดินทางเอาสัมภารก ...มาที่ทางเพื่อเตรียมขึ้นเรืออำนาจเจริญ 3 ตอนราวหกโมง หลังจากไต๋หนึ่งโทรมาบอกว่าเอาเรือเข้ามาจากการโสกหาปลาเหยื่อ แล้วลงน้ำแข็ง
ภาพที่ 4หกโมงกว่านิด ๆ เรืออำนาจเจริญ 3 มาแล้ว !! ตอนเอาของขึ้นเรือ ไต๋หนึ่งก็แซวพวกผมว่า จะย้ายบ้านกับหรือครับ แหมก็พวกผมแวะซื้อเสบียงเฉพาะของกินเล่นกับน้ำอัดลม หมดไปพันกว่า ๆ นี่น่า ก็เยอะหน่อย แหมก็ในทะเลไม่ได้มี 7 11 เปิดขายนี่ไต๋ .. เวลาอยากกินไม่มีกิน มันทรมานนะ ! จากการที่ผมเห็นไต๋หนึ่ง ผมก็พอใจท่าทางการต้อนรับของแกแล้ว เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย พวกผมมักถือคติว่า ไปตกปลา เป็นการไปพักผ่อน ดังนั้นไต๋เก่งหรือไม่เก่งเป็นเรื่องรอง แต่ขอให้อัธยาศัยดีเป็นหลัก
ภาพที่ 5ชุดคันเบ็ดร่วม 20 คัน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดกลางกัน เพราะเราหวังไปลอยอินทรีแล้วก็ตกปลาจมกัน แล้วที่สำคัญคือพวกผมไม่มีปัญญาซื้อชุดใหญ่ ๆ กัน แหะ แหะ !! จาระไนกันไม่ไหว ส่วนใหญ่ก็ซื้อจากร้านพี่อาทิตย์ (ชิงหลิว) ที่พวกผมสนิทด้วย คันก็ขนาด 6-7 ฟุต มี FC Monster, Browning, Arcadia, Jig Shake ส่วนรอกก็ Penn 320 GTi, Penn 113, Avet, Diawa SL30SH (โดยเป็นรอกอรรถประโยชน์ที่พวกผมชอบมาก ทริฟนี้มี 3 ตัว), Shimano Tekota 600, Shimano Tekota 500, Tica แล้วก็ Abu Garsia รุ่นต่าง ๆ สายที่พวกผมใช้กันจะนิยมขนาด 0.40 mm เป็นสายสีเขียวหรือขาวเป็นหลักพวก Trilene, Asso ขนาด 25 ปอนด์เป็นหลัก
ภาพที่ 6แล้วการเดินออกจากปากน้ำปราณก็เริ่มขึ้น โดยทริฟนี้ผมตั้งใจเป็นมือกล้อง น้าหนุ่มเจ้าของทริฟคนซ้ายสุด ก็เริ่มนอนเป็นงานหลัก น้าหนุ่มบอกว่าเวลาว่างที่มีประโยชน์ที่สุดคือการนอน ส่วนพี่แฉะเจ้าของรถ ก็นั่งหน้าให้ถ่ายรูปชัด ๆ แบบไม่ต้องใช้แฟลช ส่วนสุพจน์ชายสี่บะหมี่เกี้ยวก็โพกหัวซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะเวลาออกทะเล ส่วนเนตรชอบอำ ก็นั่งตาปรือเตรียมตัวนอน ตามน้าหนุ่ม แล้วเราก็ออกเดินทางเพื่อไปตกหมึกกันในแนว ชั่วโมงครึ่ง
ภาพที่ 7อำนาจเจริญ 3 เข้าหมายตกหมึกราวสองทุ่ม ซึ่งเป็นหมายที่เราจะลอยอินทรีกันในช่วงเช้า ๆ โดยไฟที่ใช้ในการไดน์หมึกทางปราณจะใช้ไฟนีออนสีเขียวเป็นหลัก ซึ่งในแต่ละที่ ก็จะใช้ไฟไม่เหมือนกัน โดยทางตราดก็จะใช้ไฟสีเขาวเป็นหลัก ซึ่งพวกผมก็มีทริฟจองเรือไต๋เปียไว้ตอนสิ้นปี คืนแรกพวกผมกับไต๋ก็ช่วยตกหมึกกันไว้เป็นเหยื่อตกปลาจมแล้วก็ลอยอินทรี แต่น้ำที่ปราณค่อนข้างแรง ไต๋หนึ่งบอกครอบไม่ได้แล้วที่สำคัญแหของเรือค่อนข้างเล็ก น้าหนุ่มตกหมึกได้เป็นคนแรก (หลังจากนั้นน้าหนุ่มก็ตกไม่ได้อีกเลย จนกลับ ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าหมึกตัวนี้เป็นโทรฟี่เพียงตัวเดียวของน้าหนุ่ม) หลังจากนั้นน้าหนุ่มก็คอยทำหน้าที่เดินเหยื่อให้กับเจ้าเนตร โดยเนตรจะทำหน้าที่หลักในการโสกหมึก
ภาพที่ 81 คืนที่เราโสกหมึกกันอย่างเดียวก็ได้หมึกมาราว 50 ตัว ก็เพียงพอแล้วรวมกับปลาเหยื่อที่ไต๋หนึ่งโสกไว้ก่อนหน้า แต่ผมเสียดายเพราะหมึกที่ได้ขนาดกำลังคนกินมากกว่า ซึ่งคืนแรกก็ปล่อยสายตกปลาสาก ไว้สองสามสาย ซึ่งตอนกลางคืนพวกผมมักนอนกันเป็นหลัก แหะแหะ แต่ผมก็ได้ปลาสากไซร้ 3 โลกว่ามา 1 ตัว มาเป็นเหยื่อคนในวันต่อมา
ภาพที่ 9เช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน 2549 ก็เริ่มขึ้น โดยที่พวกผมปล่อยสายลอยอินทรีกัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่มีปลามาชาร์ทเหยื่อเลย โดยหมายนี้มีเรือเข้ามา 4 ลำ เจ้าเนตรรอไม่ไหวก็เลยนอนดีกว่า
ภาพที่ 10ไต๋หนึ่งเลยบอกว่าย้ายหมายไปเฝ้ากุเรา กับโฉมกันดีกว่า ที่หมายแบลกโฮล โดยไต๋หนึ่งขยายความว่า เป็นแนวปะการังที่มีลักษณะงุ้ม ๆ เวลาดูในซาวน์เดอร์จะเหมือนกับรถแบลกโฮล ซึ่งเราต้องเดินทางไปอีกราวชั่วโมงครึ่ง ไปทางสามร้อยยอด
ภาพที่ 11แล้วก็มาถึงหมายราว 10 โมง ก็ปล่อยทั้งสายลอยอินทรี กับสายจม แล้วเจ้าเนตรก็สอยกุเราตัวเกือบโลขึ้นมา ด้วย Penn 320 ซึ่งปล้นมาจากผม
ภาพที่ 12ส่วนสุพจน์ก็ไม่น้อยหน้าอัดกุเราน้อย ขึ้นมาด้วย Abu Garsia ซึ่งใช้หมึกแล่ กะว่าจะตกปลาเล็ก แต่กุเราชะตาขาดกลับมากิน
ภาพที่ 13จากสายลอยเหยื่อหมึก ที่ปล่อยท้ายเรือ ด้วย Penn พี่แฉะก็ตบเด็ก เอาช่อนทะเลเด็กขนาด 2 โลขึ้นมา
ภาพที่ 14ตกบ่ายสอง น้าหนุ่มที่นอนหลับเฝ้าเบ็ดที่ปล่อยสายจมก็สะดุ้งตื่น จากเสียงรอก Daiwa SL30SH ที่แผดร้องแสบแก้วหู กับคันบิวจากร้านพี่อาทิตย์ที่โค้งงอจากการลากของเจ้าตัวใต้น้ำ ก่อนที่เจ้าเนตรจอมปล้นจะมาปล้นได้ทัน น้าหนุ่มก็ตั้งหน้าตั้งตาอัดปลา (ตัวเดียวที่น้าหนุ่มได้จากทริฟนี้) โดยมีไต๋หนึ่งคอยให้กำลังใจกับเด็กเรือ
ภาพที่ 15แล้วเจ้าตัวใต้น้ำที่ทำให้น้าหนุ่มสะดุ้งตื่น ก็เผยโฉม มันคือโฉมงามขนาด 6 โลที่มาขัดเวลานอนของน้าหนุ่ม
ภาพที่ 16ส่วนผมก็อัดกุเรา ขนาดโลกว่าขึ้นมาเป็นตัวที่สามด้วยรอก Daiwa SL30SH กับคัน Acadia ปลากุเราเป็นปลาที่ผมชอบกินมากที่สุด โดยเป็นปลาที่เมื่อผมออกทะเลทีไร ก็ต้องร้องขอไต๋ให้พาไปตกกุเรา เสมอ ๆ
ภาพที่ 17หลังจากนั้น อีกไม่นานรอก Avet (ของเจ้าเนตร) ประกบกับคัน FC Monster ท้ายเรือที่ปล่อยสายลอยไว้ก็แผดเสียงดังสนั่น ไต๋หนึ่งที่คอยดูแลความเรียบร้อยของเรือ ก็เข้าไปคว้าคันให้แล้วอัดกับเจ้าตัวใต้น้ำ พอดีจังหวะที่ผมไปท้ายเรือไปยิงกระต่ายพอดี ส่วนคนอื่น ๆ หลบแดดอยู่กลางเรือ ผมเลยถือโอกาสปล้นซะเลย แก้แค้นเจ้าเนตรที่บังอาจมาปล้นกุเราผมก่อน ไต๋หนึ่งเห็นผมเลยจับคันมายัดให้ผม (ต้องบอกได้เลยว่าไต๋แล้วก็ลูกเรือลำนี้ดีมาก ดูแลคันให้พออัดปลาจะฮุคให้ก่อน แล้วจะให้ลูกค้าอัด ไม่เหมือนเรือบางลำที่อัดเองเลยไม่ให้ลูกค้า) ผมก็เลยได้อัดซะ แล้วไต๋หนึ่งก็เอาตะขอสับเจ้าอินทรีขนาด 4 โลกว่า มาแอ็คท่าถ่ายรูปซะเลย
ภาพที่ 18พอตกเย็น Shimano Tekota 600 ของเจ้าเนตรก็แผดเสียงเรียกเจ้าของของมัน เนตรก็วิ่งเข้าไปอัดก่อนที่จะถูกผมปล้นอีก เนตรต้องค่อย ๆ อัด เพราคิดว่าอินทรีเข้าโจมตี เกือบ10 นาที สุดท้ายอินทรีที่เนตรคิดแปลงร่างกลายเป็นแชกำขนาด 4 โลกว่า
ภาพที่ 19ก่อนหมดแสงตะวัน พวกผมก็สอยแชกำ สาก อั้งเกย กับกุเราได้มาอย่างละตัว แล้วก็ต้องพักรบ เพราะน้ำไหลแรงมากขนาดตะกั่วเกือบโลยังไม่ถึงหน้าดิน เลยต้องนอนพักผ่อนเอาแรง
ภาพที่ 20ตกกลางคืนไต๋หนึ่งก็เปิดไฟไดน์หมึก แต่ก็ไม่ได้ตกหมึกหรือตกปลากันเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะน้ำแรงมาก จนประมาณตีสาม น้ำเริ่มอ่อน พี่แฉะกับสุพจน์ ก็อัดเอาฉักฮือมาคนละตัว ตีสี่สุพจน์ก็ตบเด็ก เป็นปลาสากขนาดโลขึ้นมาอีกตัว แล้วก็ปลาสากขนาด 3 โล อีกตัว แล้วก็ตกหมึกกันถึงรุ่งสางได้หมึกมาอีกร่วม 30 ตัว โดยที่ผมสอยปลาสากขนาด 3 โลขึ้นมาช่วงสว่างพอดี หลังจากนั้นก็ไม่มีปลามาฉวยเหยื่อเลย เพราะเช้านี้ (12 พฤศจิกายน 2549) ลมแรงมาก คลื่นก็เริ่มจัด ซึ่งเหมือนกับที่ฟังประกาศจากวิทยุในเรือ ว่าคลื่น 2-3 เมตร ไต๋หนึ่งเลยบอกว่าคงต้องเข้าฝั่งแล้ว เพราะขากลับต้องสวนคลื่นและน้ำกลับ ต้องใช้เวลามากกว่าตอนเรามา (เดินทางอีก 6 ชั่วโมง) ก็เป็นอันว่าปิดทริฟสำหรับครั้งนี้โดยปริยาย แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังในการลอยอินทรี แต่พวกผมก็ได้สนุกทุกคน สิ้นปีนี้คงได้มาเล่าให้ฟังหร้อมกับรูปอีกสำหรับทริฟตราดฉลองปีใหม่กับไต๋เปีย