ภาพที่ 1ที่มาที่ไป
-เริ่มจากสายๆวันเสาร์ที่1ก.ค.นี้ (วันหวยทาน)
-เกิดจากการมีเวลาว่างมากเกินไป
-เกิดอาการคันไม้-คันมือ(แบบว่าอยากตีม๊าก มาก)
-อยากเปลี่ยนรสชาด จากการนั่งเฝ้าหลังคัน เป็นถือคันออกล่า(เปลี่ยนจากรับเป็นรุก)
-สะสมประสบประการณ์ให้ทีมงาน ตอยกะจืน
-อาศัยช่วงหัวหน้าทีมไม่อยู่(อ.จ.น.แอบหนีไปเที่ยวกาญจน์) ลูกทีมเลยหนีไปตีเหยื่อปลอมซะเลย 55555 ฮิ๊ว
-ขับรถเลาะตามริมคลองจิกช้าๆ สายตาสอดส่องมองเมียชาวบ้าน เฮ้ยไม่ใช่ สายตามองหาทำเลเพื่อลงตีเหยื่อปลอม
-เข้าไปได้สักกิโลกว่าๆ จอดรถลงประกอบคัน วัดดวงกัน ตีได้สัก10นาที ฮ่าๆๆๆ แห้วครับ
-เก็บเบ็ดขึ้นรถ ขับต่อไปเรื่อยๆ มาอีกประมาณกิโลได้ก็จะเอ๋ครับ ไอ้ช่อนเพื่อนเรากำลังหยอกล้อกับบรรดาลูกปลาอยู่ริมคลองพอดี เลยจอดรถลงไปทักทายกันทันที แต่พี่ช่อนแกไม่ยอมทักทายกับเหยื่อปลอมเราเลย
-คิดในใจว่าสงสัยได้เก็บผักบุ้งกลับไปผัดไฟแดงซะมั๊ง แต่ก็ทนหน้าด้านเดินเลาะหาตัวที่จะใจดีทักทายเราบ้าง จะมีก็แต่เข้ามาทักแบบไม่เต็มปากเต็มคำ เหมือนไม่ตั้งใจทักกัน
ภาพที่ 2-เดินตีเหยื่อได้สักพัก พี่ช่อนตัวแรกก็เข้ามาทักทายเหยื่อของ ไก่ ตอยกะจืน แบบเต็มๆ ปาก (แหมนึกว่าต้องกินผักบุ้งซะแล้ว)ไซด์กำลังดีเลย
ภาพที่ 3-อีกประมาณครึ่งชั่งโมงถัดมา ความพยายามของรักษ์ ตอยกระจืนก็ประสบผลสำเร็จ ด้วยคุณพี่ช่อนอีกตัวเข้ามาทักทาย เหยื่อป๊อกๆของเขา ขนาดไร่เรี่ยกับตัวแรกมาก
ภาพที่ 4และแล้วความอดทนของเราก็สิ้นสุดเมื่อทั้งแดดเผา-บวกกับยังไม่ได้กินเข้าเช้าของทีมงาน ทำให้ต้องเก็บคันกลับก่อนเวลาอันควร
-กลับถึงแหล่งซ่องสุมของตอยกะจืน จัดการขึ้นตาชั่งเปรียบเทียบน้ำหนัก ตัวแรก1.1Kg น้ำหนักใช้ได้กับผลงานปลาช่อนตัวแรกของ ไก่ ตอยกะจืน
ภาพที่ 5นี่ก็เป็นตัวแรกของรักษ์ ตอยกะจืนเหมือนกัน กับไซด์ 1.0Kgพอดิบพอดีเลย
ภาพที่ 6เปรียบเทียบกับปลาปลอม
ภาพที่ 7-ใส่กะละมังขังไว้ก่อน รอแดดร่ม-ลมตก ค่อยปล่อย(ลงหม้อ)
ภาพที่ 8-มือชำแหละ ครับ ตกเอง-ทำเอง-กินเอง รักษ์ ตอยกะจืน
ภาพที่ 9วันนั้นจัดการแปรรูปไปหนึ่งตัว ผัดฉ่ากับต้มยำ แซบๆๆ(เสียดายแบตกล้องหมดก่อน เลยไม่ได้เก็บภาพมายั่วน้ำลายบรรดาเซียนหม่ำเล่นๆ)
ภาพที่ 10ลูกหลาน ตอยกะจืน รอหม่ำๆๆๆๆๆ
ภาพที่ 11-อีกตัวแปรรูปในเย็นวันอาทิตย์ จัดการเอาลงน้ำ(มัน)ชำระล้าง แต่ต้องลงทีละท่อนแบบว่ากระทะที่บ้านมันเล็กเกินไป
ภาพที่ 12-ส่วนที่เหลือก็รอเหงือกแห้งไปก่อน
ภาพที่ 13ได้เวลาลงบ้างแว้ววววว
ภาพที่ 14ขึ้นจากกระทะก็ผึ่งลมให้ตัวแห้งซะก่อน
ภาพที่ 15 -ชโลมด้วยโลชั่นสมุนไพร(พริกป่น,ต้นหอม,น้ำปลา,น้ำตาล,มะขามเปียก,ข้าวคั่ว) ใช้ใบโหระพาปิดไว้หน่อยกันหนาว
ภาพที่ 16-หลังจากนั้นผ่านไปได้ 5นาที กลับมาดู หางหาย-พุงหาย โอ้โฮ ปาฏิหารย์มีจริง ยังโชคดีอาจารย์หนูหัวหน้าทีมกลับมาจากกาญจน์ มาทันท่อนหัวหัวพอดี แกกำลังหัวเสียมาเลย ไม่เรื่องอะไรหรอก ก็เรื่องที่แกไปกาญจน์แล้วดันได้กินแห้ว กลับมาบ้านก็ดันเหลือแต่หัวไว้ให้แกอีก แต่สงสัยแกจะโมโหจัด ก็แกซัดซะกระดูกหัวปลาเป็นกองเลยยย 5555555555 ไปหล่ะ โอกาสหน้ามารายงานใหม่ครับ
ไก่ ตอยกะจืน