ภาพที่ 1กะมงพร้าวหางเหลือง ตกได้ด้วยการทรอลลิ่งบริเวณ หินล่อ หมู่เกาะ พีพี ลากโดยเหยื่อปลอม ราพาล่า ซีดี 11 สีเขียวท้องขาว ใช้ความเร็วในการทรอลลิ่งประมาณ 1-2 ไมล์ ลากช้า ๆ ห่างจากหินประมาณ 30-40 เมตร น้ำลึกประมาณ 30-40 เมตร ตกโดยคัน คูแนน 20 ปอนด์ สายแม็กซีม่า สีเขียว 20 ปอนด์ รอก เพนน์อินเตอร์ 12 ที ช่วงแรกที่คว้า ใกล้เที่ยงวัน
หัวน้ำขึ้น ตอนแรก อมเหยื่อเข้าเต็มที่เบ็ดทั้งสองพวง สู้กันได้ประมาณ 15 นาทีเข้ามาใกล้เรือตกใจกระโดดเอาหางฟาดเบ็ดหลุดไป 1 ช่อ ที่เหลือก็เกี่ยวอยู่แค่เงี่ยงเดียว ต้องเสียเวลาสู้กันใหม่อีกครึ่งชั่วโมง ไม่กล้าอัดแรงเพราะกลัวจะหลุด พอเข้าใกล้เรือก็หมดแรงยอมแพ้ เอาขึ้นเรือโดยไม่ต้องเกี่ยว ชนิดนี้จะชุกชุมน้อยกว่าชนิดหางดำ ตัวจะคล้ำมากกว่านี้ ครีบก็ดำ และจะมีลำตัวอ้วนมากกว่าชนิดหางเหลือง บริเวณหินล่อ หากใช้ความเร็วเหมาะสมในการทรอลลิ่งจะมีโอกาสมาก พอเอาขึ้นเรือถ่าย
รูปเสร็จ ช่วยปฐมพยาบาล แต่ปรากฏว่าไม่ไหว เพราะสู้กันนานเกินไป คงจะช๊อค พอจะปล่อยลงน้ำอีก ทำท่าลอยคอ เลยจำเป็นต้องนำกลับมาเป็นอาหารที่บังกะโล พีพี ชั่งบนเกาะได้น้ำหนัก สิบสอง กิโลกับ หกขีด
อภินันทนาการแก่เพื่อน ๆ นักตกปลาทุกท่านคับ
อัศวิน
ข้อควรระวัง
กะมงชนิดนี้หรือจำพวกนี้ จุดอันตรายอย่างยิ่งในขณะที่ยังแข็งแรง ห้ามไปจับต้องบริเวณโคนหางเป็นอันขาด(ขอย้ำ)เพราะ
บริเวณโคนหาง คมยิ่งกว่ามีดโกน เคยสะบัดฟาดลวดขาดต่อหน้าต่อตามามากแล้ว อย่างกระดูกนิ้วมือเรานี่ขาดเหมือนด้ายเปี่อย ๆ ห้ามทุกคนยกเว้นหมดสภาพแล้ว
เนื้อจะอร่อยถ้าเผาสดอย่าแช่น้ำแข็ง หากทิ้งไว้ฟ่าม เนื้อจะหยาบและจืดชืด ต้องทอดอย่างเดียว หัว เหงือก พุง แกงส้มให้เครื่องถึง ๆ หน่อย ยิ่งใส่หน่อไม้ดองกันคาวสักนิด ถือเป็นเมนูเด็ดได้
พบทั่วไป ในทะเลอันดามัน ย่าน พีพี หินล่อ เกาะห้า ตรัง แถวเกาะรอก หินแดง หินม่วง สตูล แถวช่องราวี หัวตะรุเตาผมเองก็เคยได้คับ
อุปนิสัย ชอบอยู่เป็นฝูง เวลาขึ้นจับลูกเหยื่อ หากตัวใหญ่ เสียงดังยังกับตีกลอง รอบตัวเรา ตกด้วยเหยื่อปลอมก็ได้ ยิ่งเหยื่อเป็น
หากมีหมึกกล้วย จะโปรดมาก ลูกหลังเขียว หรือลูกปลาทูก็ชอบ
สู้เบ็ดได้ฉกาจฉกรรจ์ วิ่งรุนแรง บางทีชอบเอาหางฟาดสายลีดเดอร์ สู้ยันหน้าดินถึงผิวน้ำ เวลาจะเอาตัวขึ้นเรือแนะนำให้ใช้ตะขอเกี่ยวบริเวณใกล้ท้อง หากเกี่ยวแถวโคนหางถ้าเป็นตัวใหญ่บางทีเกี่ยวไม่เข้าคับ
อัศวิน