ภาพที่ 1 หลังจากผมได้ความรู้จากคนอื่นๆจากเวปแห่งนี้มามากมาย ก็ถึงเวลาที่ผมจะแบ่งปันคนอื่นๆบ้างแล้ว จากการผ่ารอกที่ตัวเองมีอยู่เพื่อเป็นการตอบแทนความรู้ที่ผมได้จากเวปแห่งนี้ จึงลองๆหารอกที่ตัวเองมีและไม่น่าจะเป็นรอกที่ซ้ำๆกับคนที่เคยผ่ามาแล้ว มองๆไปก็สะดุดเจ้าตัวนี้ทันที มันเป็นรอกเบทตัวแรกของผมเลยที่เดียว จำได้ว่าเมื่อประมาณ 3 4 ปีที่แล้วผมได้มันมาในราคา 4990 บาทจากร้านค้าแห่งหนึ่งย่านสายสอง ก็คือเจ้า 6600 LD นี่เอง
ภาพที่ 2ด้วยความที่อยากได้รอกที่ไม่เหมือนใครในตอนนั้น (อยากเท่ห์) เลยสะดุดเจ้าตัวนี้ขึ้นมาทันที กับระบบเบรคที่ไม่เหมือนใคร ในสมัยนั้น
ไม่ฟอยแล้วดีกว่าเข้าเนื้อๆเลยดีกว่า การถอกฝาข้างฝั่งมือหมุนเหมือนรอกabuทั่วๆไปครับ ดูรูปคงจะเข้าใจสำหรับคนที่พอจะคุ่นเคยกับการถอดรอกabuมาบ้าง
ภาพที่ 3จากรูปจะต้องถอดจากขวาไปซ้ายครับ
ภาพที่ 4จะเห็นคานโยกระบบเบรคลีเวอร์แดคแบบชัดๆ
ภาพที่ 5มาดูทางด้านฝั่งเสียงกันบ้าง ระบบเสียงเหมือน c3 ทุกประการ แต่จะแตกต่างที่เห็นได้คือเฟืองตัวเกี่ยสายตัวนี้จะติดกับโครงรอกครับ และตรงสติกเกอร์แทนที่จะติดมากับฝารอกแต่ตัวนี้จะเป็นเบ้าติดกับโครงเช่นเดียวกันเพราะจะต้องทำหน้าที่เป็นเบ้ารองรับลูกปืน เนื่องจากรอกรุ่นนี้จะใช้ลูกปืนหล่อลื่นที่หัวแกนสปูลแทนที่จะเป็นในสปูลเหมือนรุ่นทั่วๆไป
ภาพที่ 6กลับมาฝั้งมือหมุนครับ เมื่อถอดตัวปรับหน่วงออกมาจะพบกับสปริงสองชั้นตามรูปครับ
ภาพที่ 7ภายในจะพบกลับลูกปืนหล่อลื่นที่หัวแกนสปูลอีกด้านและแหวนรองทองแดงครับ
ภาพที่ 8เมื่อผมเปิดฝามาครับผมถึงกับตกใจ! ครับสยามซูลืมใส่เฟืองมาให้ผมเอาละซิทำไงดี ซวยแล้วครับด้วยความกระวนกระวายผมรีบเก็บของเพื่อที่จะไปโวยวายที่ร้านที่ผมซื้อมาเพื่อถามหาความรับผิดชอบเพราะซื้อมายังไม่ทันข้ามวัน ในใจคิดว่า .. ซื้อมาหลายพันนะเฟ้ยยย มาทำกับ ... อย่างนี้ ผมรีบเก็บชิ้นส่วนใส่กล่องเลยครับกะจะไปโวยเต็มที่ เท่านั่นละครับผมขำตัวเอง ก๊ากกกกก ใหญ่ในความโง่ 55555
ภาพที่ 9แป๋ววววววว รุ่นนี้มันติดกับฝาครับ 5555 ดันโง่ไม่สังเกตุ มัวแต่ตั้งใจจำชิ้นส่วนที่ถอกมาครับเลยไม่สังเกตุ 5555 ฮา...กันทั้งบ้านเลย (โวยวายไปเยอะ)
ภาพที่ 10ลูกปืนฝั่งมือหมุนครับรูตรงกลางจะไม่เท่ากันกับฝั้งเสียงนะครับ
ภาพที่ 11ทีเด็ดครับ ไอ้เจ้าน๊อตตัวขวาสุดจะทำหน้าที่ยึดเฟืองติดกับฝารอกครับ( พิมพ์ไปยังขำไปเลยครับควางโง่ผมเอง555)
ภาพที่ 12เอาอีกแล้วสยามซูลืมใส่ผ้าเบรคมาให้อีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่โวยวายครับตั้งสมาธิแล้วค่อยๆหา ต้องเข้าใจผมในสมัยนั้นนะครับ รอกbaitตัวแรก กระแดะเอามาแกะซะละ และรับบลีเวอร์แดกในสมัยนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าไร
ภาพที่ 13แล้วก็เจอครับ ระบบเบรคของรุ่นนี้จะอยู่ที่สปูลเลย ในภาพจะเห็นจานกดเบรค
ภาพที่ 14เบรคของรุ้นนี้ครับ เป็นไม้ก๊อกอัด
ภาพที่ 15ระบบหน่วงครับ
ภาพที่ 16เมื่อถอดชุดเฟืองกรีดเสียงออกจะเห็นบูททองแดงในสปูล ซึ่งผมว่าจุดนี้ทางอาบูน่าจะทำให้เป็นลูกปืนจะทำให้ตีสายลื่นขึ้น
ภาพที่ 17เพราะจากภาพที่เห็น เจ้าบูทตัวนี้เสียดสีกับสปูลจนเป็นรอยลึกเลยที่เดียว
ภาพที่ 18ซึ่งเป็นผลครับผมจัดการหาลูกปืนมาใส่ทำให้รอกที่ขึ้นชื่อเรื่องตีไม่ออก กลายเป็นรอกที่ตีสายได้ไม่แพ้รุ่นใดเผลอๆจะลื่นกว่าด้วยเพราะจากกรเพิ่มลูกปืเข้าไปทำให้รอกตัวนี้มีลูกปืนหล่อลื่นถึง 4 ตัว ถ้าคนที่เคยเล่นรอกรุ่นนี้พอจะทราบกันดีว่ารอกตัวนี้มันตียากมากในการที่จะตีให้ใกล ถึงแม้จะปรับหน่วงให้ลื่นสุดแล้วก็ตาม ซึงการปรับหน่วงให้สุดแล้วก็จะมีผลต่อระบบเบรคด้วย เราะระบบเบรคลีเวอร์แดกจะอาศัยแรงกดจากสปริงที่ใช้กดสปูลไปกดจานเบรคด้วย ฉะนั้นการปลดหน่วงก็จะทำให้เบรคไม่มีน้ำหนักไปด้วยในทันที ซึงในความเป็นจริงในการตีเหยื่อจะให้มาปรับหน่วงก่อน 1 ที พอปลากินแล้วมาตั้งเบรคใหม่ อันนี้คงไม่ไหวครับ
ภาพที่ 19ชัดๆกับลูกปืนที่นำมาใส่แทน
ภาพที่ 20ลูกปืนอีกตัวครับอยู่ทางด้านฝั่งเสียง
คงพอเป็นความรู้ได้บ้างนะครับ สำหรับมือใหม่หัดผ่าอย่างผมผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว่นะที่นี้ด้วยนะครับ