ภาพที่ 1หากเพื่อนนักตกปลาบางท่านมองหารอกงานตีเหยื่อปลอม หรือไลท์จิ๊กซักตัว เป็นเรื่องยากที่จะหาสินค้าคุณภาพดีๆ
ใช้กันทนๆ มีอะไหล่รองรับ แต่ราคาพอเอื้อมได้ ถ้าไม่ใช่ลูกสุลต่าน แค่มนุษย์เงินเดือน ไม่มีปัญญาแบกเงินหมื่น
ไปเล่นค่ายญี่ปุ่น ทั้ง2แบรนด์ดัง คงจะได้แค่รุ่นต่ำสุดหรือเกือบบ๊วย แน่ๆ อ๊อฟชั่นที่ให้มาก็คงได้แบบกระปริบกระ
ปรอย หาจุดเด่นมาอวดใครไม่ได้
หรือจะหันไปหาพวกค่ายคุณหมิง ปักกิ่ง ก็แสนจะล่อหลอกสาระพัด ยัดลูกปืนมาให้เป็นกระสอบ จนบางครั้งสงสัย
ว่ามันเอาไปใส่ไว้ตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะเฟืองอัลลอยที่ทำมากรอบเป็นข้าวเกรียบเลย ผมเคยเอารอกจีนแบรนด์นึง
(ไม่ขอพาดพิงนะครับ) แค่เอามาปั่นให้ลูกค้าดู มือจับหักติดมือมาซะงั้น แล้วราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ สาเหตุน่ะเหรอ
ก็เพราะแกนมือจับมันทำมาจากอลูมีเนียมเกรดถ่อยสุด ผู้ผลิตคงต้องการให้รอกมีน้ำหนักเบานั่นเอง
ไอ้ครั้นจะมาใช้สเตนเลส ต้นทุนก็จะสูง เดี๋ยวกำไรน้อย จะไม่เหลือเงินไว้ปูกระเบื้องสระว่ายน้ำในบ้านท่านแน่ๆ
วันนี้ผมได้รับสินค้าจากตัวแทนSURECATCH เป็นรอกสปินนิ่ง เค้าขอให้ช่วย รีวิวให้ดูหน่อย ว่าจะพอทำตลาด
ในบ้านเราได้มั้ย ถ้างานผ่าน ตะแกจะลุยทำเต็มที่ โดยจะทำการตลาดและบริการหลังการขายเฉพาะรุ่นนี้ให้อลังการณ์
งานสร้างกันเลยทีเดียว ตอนแรกเห็นผ่าน ผมนึกว่ารอกรุ่นท็อปจากค่ายแดนปลาดิบ เพราะเจาะรูสปูนซะเหมือนเชียว
ภาพที่ 2แต่พอน้าแกหยิบกล่องตามออกมาแบบอายๆ ก็เลยรู้ว่าเข้าใจผิด (เกือบปล่อยไก่ซะแล้ว)
ครั้งแรกที่ได้จับ
ดูจากสายตา งานสีถือว่าดีมาก เรียบเงาดุดัน งานสปูนเจาะรูเพื่อลดน้ำหนัก ไม่ได้เอาสวยอย่างเดียว
ถือว่าทำได้ดีมาก ตรงนี้ผมให้คะแนนเต็ม แขนทรงโรบ็อตตามสมัยนิยม ดูแข็งแรง กระทัดรัด เพรียวบาง
รับกับน็อบยางEVA สีดำ เข้ากัน เหมือนไอ้ตูบกะเซเว่นหน้าปากซอย จับถนัดมือ ไม่เจ็บนิ้ว
เรื่องนำหนัก ทีแรกเห็น คาดว่าพวกรอกบอดี้โลหะ คงไปไม่รอดกับงานเหยื่อปลอมแน่ๆ เพราะปัญหาของรอกบอดี้
โลหะราคาถูกคือเรื่องน้ำหนักตัวของรอก เท่าที่ดู พวกงานตลาดกลางลงมาล่าง น้ำหนักตัวจะหนักมาก เหมือนยัดก้อน
หินให้มาด้วย จะตกปลา ไม่ได้มาเพาะกาย จะมีแค่ของค่ายดังไม่กี่เจ้าเท่านั้น ที่มีการพัฒนาเรื่องวัสดุในการทำรอกจน
ได้น้ำหนักที่เบามาก แต่ก็แลกมากับต้นทุน และราคาจำหน่ายที่สูงตามไปด้วย เลยต้องปล่อยให้พี่ยุ่นแก เล่นสงคราม
ตลาดบนกันไป กับราคาที่เห็นแล้วสะอื้น
ภาพที่ 3แต่น้ำหนักตัวของรอกตัวนี้กลับเบามาก จนผมไม่แน่ใจ ว่า มันเป็นโลหะทั้งตัวรวมถึงโรเตอร์จริงๆรึป่าว
ลองหมุนมือหมุนดู ก็โอเคครับ ลื่น เบามือ ไม่มีเสียง หรือสะดุด ตรงจุดนี้ไม่ได้พิเศษอะไร เพราะ
เกือบทุกค่ายทั้งจีนทั้งญี่ปุ่น ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความลื่นอยู่แล้ว ดูได้จากการยัดลูกปืนให้มาถึง9ตลับ
อย่ารอช้า จับขึ้นเตียง ถอดมันให้หมดเลยดีกว่า........ถนัดแท้
ภาพที่ 4ฝาเบรค ดูเรีบง่ายไปหน่อย ช่วงนั้น ฝ่ายออกแบบคงปวดท้องกระทันหัน
ภาพที่ 5การถอดฝาเบรคและสปูล ไม่ยุ่งยาก คลายเบรคที่เป็นล็อคสปริงกันหลุดตกน้ำ ก็จะเห็นคลิ้กเสียงแบบถ้วย
ตัวคลิ้กเสียงเป็นแบบสปริงเขา*(ใครเป็นคนตั้งชื่อเนี่ย) หมดห่วงเรื่องคลิ๊กเสียงหักตลอดชีพ
ตรงจุดนี้ผมให้คะแนนเต็มอีกเช่นกัน เพราะใช้เทคโนโลยี่ แบบเดียวกับรอกเรือนหมื่น
แกนในมีบ่ารองคลิ้กเสียงเป้นลูกปืน1ตลับ มีแหวนยางโอริงล็อคปิดอยู่ จัดการถอดด้วยไม้จิ้มฟัน
เน้นนะครับ อย่าใช่เข็มหรือไขควง เพราะอาจทำให้ยางเป้นรอยจนฉีกขาดได้
จากนั้น จัดการถอดสลักแกนล็คบ่าคลิ้กเสียงออก โดยใช้ไม่จิ้มฟันอันเดียวกัน ดันออกอีกทางนึง
ปล.ระวังหายนะครับ
ภาพที่ 6สลักตรงนี้ใช้ไม้จิ้มฟันดันออกได้เลย แนะนำเป้นไม้จิ้มฟันนะครับ
เพราะถ้าใช้ชะแลง.......จะใหญ่เกินไป
ส่วนแกนสปูลเป็นสแตนเลสแท้(ใช้แม่เหล็กพิสูจย์แล้ว) แกนใหญ่เว่อ เรียกว่าใหญ่เกินรอกในพิกัดเดียวกัน....
รับกับงานหนักได้สบาย
ภาพที่ 7จากนั้น คลายน็อตล็อคคอโรเตอร์ออก ใช้ประแจเบอร์12 รอกโดยทั่วไปจะเป็นประแจเบอร์10
ในส่วนของน็อตล็อคโรเตอร์นี้ มีลูกปืนซ่อนอีก1ตลับ แบบนี้ แกนไม่มีแกว่ง ไม่มีคดแน่นอน
ภาพที่ 8มาถึง สปริงแขนเปิดปิดหน้ารอก ใช้ระบบสปริงโช็คที่หมดห่วงเรื่องสปริงหักก่อนวัยอันควร
โดยทั่วไปรอกสมัยใหม่ที่ราคากลางถึงบนขึ้นไปจะใช้สปริงแบบนี้แทนสปริงก้ามปูกันหมดแล้ว
ซึ่งนักตกปลาที่ชอบการตีเหยื่อปลอม ควรให้ความสำคัญกับจุดนี้ให้มาก กับการจะเลือกซื้อ
รอกสปินนิ่งซักตัวนึง เพราะการตีเหยื่อปลอม ต้องเปิดปิดหน้ารอกบ่อยกว่างานปลาบ่อหรือ
ตกหยื่อสดหลายเท่า
ภาพที่ 9ถอดโรเตอร์ ก็จะเจอลูกปืนวันเวย์ ไม่มีไรพิเศษ เหมือนกับระบบรอกโดยทั่วไป
ข้ามมันไป..............แต่ตอนล้าง อย่าลืมถอดล้างมันด้วยนะครับ เพราะมีลูกปืนอีก2ตลับ
ปิดหัว ปิดท้าย รวมถึงลูกปืนวันเวย์ที่ขาดการหล่อลื่นไม่ได้
ภาพที่ 10คราวนี้มาถึงตังบอดี้ ที่อยากรู้ว่าแกร่งและเบา ตามที่คุยไว้มั้ย
คลายแขนมือหมุนออก รอกรุ่นนี้ใช้เป็นแบบแขนเกลียวไฮโซเหมือนรอกเกรดบนอื่นๆ เพราะจะให้ความแน่นเนียน
และแข็งแรงกว่าแขนหมุนที่ใช้แบบเสียบแล้วขันน๊อตตัวผู้อีกด้านนึง
ทำการคลายแขนโดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา ใครใช้นาฬิกาแบบดิจิตอลอาจนึกภาพไม่ออก
จากนั้นหมุนน็อตทั้ง4ตัวเปิดฝาข้างออก ก็จะเห็นตับ ไตใส้พุงหมดแล้ว
ภาพที่ 11เห็นกันจะๆ ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน
โลหะอลูมีเนียมทั้งตัวจิงๆ ........... พระเจ้ายอด มันจอร์ชมาก
ภาพที่ 12ภายในออกแบบงานได้ดี เนื่องจากรอก ถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับงานหนัก จึงทำระบบเกลี่ยสาย
เป็นแบบโรตาลี่ คล้ายระบบในรอกZALTIGA ของไดว่า ไม่ได้ทำแบบเฟืองสับประรด เหมือนกับ
รอกชิมาโนตัวแพง แถมเฟืองเกาะแกน และเฟืองเกลี่ยสายยังใส่ลูกปืนไว้2ชุดเพื่อให้เรียบลื่นเวลาสปูล
ขึ้น-ลง ตรงนี้ผมให้คะแนนเต็มอีกเช่นกัน เฟืองเมนเป็นสแตนเลส รองรับกับเฟืองพีเนี่ยนทองเหลือง
ให้ความแข็งแกร่งสุดยอด แบบนี้ถึงจะเรียกว่า เพอเฟ็ค
สรุปโดยรวมห้องเครื่อง ผมให้คะแนนเต็มร้อย ไม่ได้เชียร์นะครับ แต่จากราคาและคุณภาพที่ให้มา
ต้องชื่นชมจริงๆ
ภาพที่ 13เฟืองเกาะแกน เป็นอัลลอย มาพร้อมลูกปืนเพิ่มความลื่น นุ่มนวล
ภาพที่ 14ภาพที่ 15มาว่ากันที่ระบบแดรก หรือที่บ้านเราเรียกว่าเบรคครับ
มีมา3แผ่น พร้อมแผ่นกดโลหะอีก3แผ่น ถือว่าให้กำลังเบรคที่มั่นใจได้
แต่เบรคคาร์บอนพวกนี้ จะแพ้ทางกับน้ำมันนะครับ ระวังกันหน่อย
พอนานไปเบรคไม่อยู่ เลยต้องอัดฝาเบรคหนักขึ้น จนรูดในที่สุด
แต่ถ้าต้องการโมเบรคแบบเรียบลื่นแต่นุ่มหนึบ อย่าลืมถามหาผ้าเบรค
เฟอราโด้จากร้านคันกะรอก นะครับ ขอพิ้นที่โฆษณาซะหน่อย
ภาพที่ 16น่าตาแผ่นเบรคคาร์บอน ไม่ถือว่าพิเศษอะไรมาก เพราะรอกระดับราคากลางๆทั่วไปก็ใช้กันหมดแล้ว
ถ้าให้ดี ควรเป็นผ้าเบรคคาร์บอนผสมใยหิน เหมือนรอกไฮเอนทั้งหลาย จะดีมาก
ภาพที่ 17ภาพโดยรวม คะแนนเต็ม10 ผมให้9.5คะแนน
ถือว่าเป็นรอกที่น่าใช้คุ้มค่าเงินมากที่สุดรุ่นนึง
แต่อย่างไรก็ขอฝากถึงเสี่ยตุ้ย ตัวแทนจำหน่ายรอกรุ่นนี้ อย่าลืมทำตลาดเรื่องอะไหล่รอกมารองรับด้วย
เชื่อว่า ถ้าอะไหล่หาง่าย ราคาไม่แพง สินค้าคงจะมียอดขายท่วมท้น ไม่แพ้รถโตโยต้าเช่นกัน