ภาพที่ 1ตั้งใจไว้ว่าช่วงว่างเว้นจากงานประจำ จะทำสีเหยื่อใที่เคยขึ้นรูปไว้ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลเมื่อ 3 เดือนก่อนให้หนำใจ
ภาพที่ 2แต่แกมี่ก็เข้ามาขัดขวางเสียอีก
ภาพที่ 3 เอาเถอะ... ไหนๆ ก็ตั้งใจไว้แล้ว
จัดเสียหน่อย อุณหภูมิต่ำนัก จับปลาย่างเสีย... จะได้อบอุ่น
ภาพที่ 4 จับเขียดน้อยทำแดดเดียว หุ หุ...
ภาพที่ 5 ย่างรวมให้กรุบกรอบ
ภาพที่ 6 เรื่องเทคนิคต่างๆ ในการทำเหยื่อ ผมจะไม่กล่าวถึงเบื้องลึกนะครับ เพราะท่านอื่นๆ ที่เชี่ยวชาญงานกลึง ขัด ตัด เฉาะ เฉือน สี เคลือบ ขัดเงา ได้ว่ากันไปหมดไส้แล้ว
ภาพที่ 7 ผมขอพูดเรื่องความปลอดภัยในการทำเหยื่อปลอมด้วยไม้นะครับ ส่วนเหยื่อที่ทำจากวัสดุอื่นจะมาเล่ากันในโอกาสต่อไป
ภาพที่ 8 สืบเนื่องจากเมื่อ 3 เดือนก่อนผมต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ เพราะหายใจไม่สะดวก เหมือนเป็นหวัดตลอด เมื่อหมอตรวจอาการแล้วพบว่าเยื่อบุโพรงจมูกผมอักเสบ สาเหตุเพราะฝุ่นผงไม้และสารเคมีต่างๆ ที่รับเข้าไปต่อเนื่องยาวนานหลายปี (อย่ารู้เลยว่ากี่ปี ประสบการณ์ผมน้อยนิด อิ...อิ...)
ใช่ว่าผมไม่ป้องกันนะ แต่กว่าจะรู้เท่าทัน
"มันก็เกือบ... สาย"
ก่อนนี้ เวลากลึง ขัดไม้ด้วยเครื่อง ผมปิดจมูกด้วยหน้ากากผ้าที่ซื้อตามร้านขายยาทั่วไป พ่น เคลือบ ชุบ ก็ด้วยหน้ากากผ้าผืนเดียวนี้ (ไม่ได้กล่าวหาว่าหน้ากากอนามัยไม่ดีนะครับ) แต่หน้ากากดังกล่าวสามารถป้องกันฝุ่นละอองและเชื้อโรคบางชนิดได้ แต่กับงานที่ขัดที่ใช้รอบความเร็วสูง การฟุ้งของฝุ่นขนาดเล็กที่มองไม่เห็น มันเล็ดลอดเข้าไปในรูจมูกของเราได้
สารเคมีบางอย่างที่หน้ากากผ้ามิอาจสะกัดกั้น เช่นยูริเทนที่บรรดานักทำเหยื่อปลอมหลายๆ ท่านนิยมนำมาเคลือบเหยื่อเพราะเชื่อว่าจะทำให้เหยื่อแข็งแรง (ยูริเทนเซ็ตตัวให้แข็งได้แต่แยกกันคนละชั้นผิวกับเนื้อสี แต่จริงเท็จประการใดติดตามในข้อมูลส่วนตัวผมนะครับ) ยิ่งต้องทำในห้องอับลมด้วยแล้ว ร่างกายเรายิ่งได้รับสารพิษเหล่านั้นได้มากขึ้น เพราะยูริเทนไม่สามารถชุบไม้กลางแดดหรือในอุณหภูมิสูงได้
ภาพที่ 9 สีพ่นเหยื่อ อีก 1 สารเคมีที่เหล่าคนทำเหยื่อปลอมต้องสัมผัสอยู่ตลอดชีวิตการทำเหยื่อ เพื่อนๆ ที่ทำเหยื่อที่ผมรู้จักมักจี่ ไม่ค่อยสวมอุปกรณ์ป้องกัน (รวมทั้งตัวผมในก่อนหน้าที่จะเข้า รพ.)
ภาพที่ 10 หลังออกจาก รพ. หมอห้ามผมสัมผัสและเข้าใกล้ฝุ่นละอองหรือสีโดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกัน
ผมซื้อหน้ากากตัวนี้มาในราคาหลักพันกลางๆ และกรองที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ในราคา หลักหลายร้อย (ใช้ได้ราว 3 เดือน) ถามว่าคุ้มค่าเงินที่ผมจ่ายไปราว 2 พันบาทไหม
"คุ้มครับ"
ผมไม่ได้เชียร์ชื่อหรือยี่ห้อสินค้า ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ผลิต มีอีกหลายยี่ห้อที่จำหน่ายในประเทศไทย ถูก แพง เท่าไรไปสืบหากันเองนะครับ
แต่กับผม ผมว่าคุ้มมากกับการเสี่ยงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมทำเหยื่อมา
ถ้าผมพึงระวังสุขภาพก่อนหน้านี้ ผมคงไม่ต้องให้หมอขูดโพรงจมูก บอกตรงๆ มัน ...ทรมานคอดๆๆๆๆๆๆๆ...
ภาพที่ 11 ที่กล่าวมายืดยาว คงจะแนวทางป้องกันให้กับผู้หลงรักการทำเหยื่อปลอมทุกท่านนะครับ