ภาพที่ 1ต่อครับ เมื่อได้รูปร่างที่พอใจแล้วก็นำมาห้อยผึ่งแดดให้แห้งครับ
ภาพที่ 2มีเวลาว่างช่วงใหนก็เปิดกระป๋องบิเอาขี้เลื่อยที่นวดไว้ขึ้นมาปั้นๆๆ จนได้เต็มราวเลย
ภาพที่ 3ทิ้งไว้ซักหนึ่งวันให้เกรียม แล้วมาถ่วงตะกั่วกันครับ
ภาพที่ 4กะให้มีเสียงด้วยเลยจะให้ตะกั่ววิ่งชนกันในท่อหลอดดูดครับ อุปกรณ์ก็มีหลอดดูด ตะกั่วกลมลูกเล็ก ลูกปืน(หาซื้อร้านอะไหล่มอเตอร์ไซค์)และลูกปัด ปิดหัวปิดท้ายครับ
ภาพที่ 5เปิดท้องเหยื่ออกมา ถ้าแห้งมากจะแข็งผ่าท้องเหยื่อลำบาก ดังนั้นตากแดดจัดๆซักหนึ่งวันแล้วมาผ่าท้องได้เลยครับ ไม่ต้องกลัวเหยื่อจะไม่ทน ยังเหลือเวลาตากแดดอีกชุดใหญ่ๆอีกชุดหนึ่ง
ภาพที่ 6ประกอบเข้าไปครับ มีลูกปืนกับลูกปัดขังกั้นลูกตะกั่วเอาไว้ตรงกลางหลอดให้มันวิ่งได้
ภาพที่ 7ใส่ลงไปแล้วอุดด้วยขี้เลื่อยที่นวดไว้ครับ
ภาพที่ 8เอาไปตากให้แห้งอีกซักวันสองวันแล้วแต่มีเวลาครับ จากนั้นก็มาตัดแต่ง หรือขัดด้วยกระดาษทราย
ภาพที่ 9คราวนี้ก็เหมือนเหยื่อทั่วไปละครับ เอามาจุ่มยูรีเทนเพื่อเคลือบแข็ง
ภาพที่ 10แล้วก็ตากให้แห้ง สีของเหยื่อจะขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ที่เอามาทำขี้เลื่อยครับ พวกสีเข้มๆคือไม้จำพวกประดู่ ชิงชัน
ภาพที่ 11สีขาวๆนวลๆพวกนี้ทำจากขี้เลื่อยไม้สักทองครับ
ภาพที่ 12จากนั้นก็เอามาทำสีครับ ผมใช้สีสเปรย์กระป๋องตามท้องตลาดนี่แหละครับ
ภาพที่ 13เริ่มจากสีขาวรองพื้น
ภาพที่ 14จากนั้น คดว่าคงไม่ต้องแนะนำอะไรเพิ่มนะครับ ได้สีเรียบร้อยแล้วก็เคลือบด้วยการจุ่มยูรีเทนอีกซักรอบหรือสองรอบก็แล้วแต่น้าๆครับ
ภาพที่ 15เรื่องความทนทานไม่ต้องห่วงครับ ถ้าแห้งได้ที่แล้วเคลือบ รับรองก้อนหินเราดีๆนี่เอง
ภาพที่ 16ชุดนี้ทำไว้นานแล้วครับ
ภาพที่ 17ผลงานบางส่วนครับ
ภาพที่ 18ครบแล้วทั้ง ช่อน ชะโด กระสูบ หะๆ ไซส์อนุบาลทั้งนั้น
ภาพที่ 19ลำดับขั้นตอนโดยสรุปก็ประมาณนี้ครับ
ภาพที่ 20ชุดนี้ทำเป็นของที่ระลึกงานมีตติ้ง ของพรรคพวกอีสานฟิชชิ่งที่เขื่อนอุบลรัตน์เมื่อสี่ห้าปีมาแล้ว
แล้วก็เลิกปั้นมาหลายปีแล้ว แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์ เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ครูฮุย ๙ ะันวาคม ๒๕๕๘