หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

ขอเพิ่มเติมข้อมูลในการทำทุ่นขนหางนกยูงครับ จากครั้งทีแล้ว ใช้วิธีเข้ารูปจากการใช้ด้ายพัน แล้วใช้กาวร้อนยึดติดเลย ปัญหาที่เกิดคือรูปทรงจะบิดเบี้ยวค่อนข้างเยอะ ก็เลยต้องขัดมากหน่อย








ทีเคยข้ามขั้นตอนการคงรูปโดยใช้ความร้อน ครั้งนี้ลองทำดูครับ

ทำอุปกรณ์เพิ่มเติมครับ

......

ผ่าขนหางยกยูงตามขนาดเหมือนที่แล้วมา  จะเห็นว่าขนหางนกยูงอาจจะยังบิดเบี้ยวตามธรรมชาติ (ผิวโค้งไม่เป็นครึ่งวงกลม)

ผมใช้คันชิงหลิงที่หักเป็นบล๊อคที่ขนาดใกล้เคียงกับขนหางนกยูง Dai 5.2 mm. สอดเข้าไปแล้วใช้ไฟแช็คลน เอาพอประมาณเดี๋ยวไหม้  แล้วทิ้งสักพักครับ

สิ่งที่ได้คือ ขนนกยูงตรงขึ้นบ้าง แต่ที่ค่อนข้างชัดเจนคือผิวจะโค้งเป็นครึ่งวงกลมมากขึ้น

หลังจากขัดแนวประกบแล้วก็วางแนวแกนทุ่นให้ได้กึ่งกลาง แล้วกดให้เป็นร่องครับ
***เพิ่มเติม***  ที่เห็นร่องปาดหลายๆร่องเพราะว่าผมทำหลายขนาด ตามขนาดของขนหางนกยูง โคนจะโต ปลายจะเรียวเล็ก เลยกำหนดไว้ที่ 4 ขนาดใกล้เคียง 4.8 5.0 5.2 5.4 มม.  ทีความลึกร่อง(เผื่อขัดแต่งความหนา) 2.6 2.8 3.0 3.2 มม. ตามลำดับครับ

ประกบแล้วพันด้วยสก๊อตเทปรัดยึดกันไว้ ถ้ายังขัดความหนาไม่เท่ากันระหว่างหางที่ประกบก็เอาไว้ก่อนค่อยขัดแต่งทีหลัง

สวมบล๊อคครับ ดันเข้ากึ่งกลางให้แน่นไม่มากเกินไป เดี๋ยวขนหางจะแตกครับ

ใช้ความร้อนลนให้ทั่ว  พอประมาณ ผมใช้ไฟแช็คครับหาได้ง่ายสุด ทำซ้ำ2-3รอบก็ได้ครับ

ลนอีกด้าน  ให้ดีใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ครับ ไม่มีเขม่าและไม่ร้อนมือ

ถอดบล๊อคแล้วจะเห็นว่า รูปทรงจะใกล้เคียงตามบล๊อคที่เรากำหนด

แกะออกมาขัดครับตามบริเวณที่ประกบ จะได้ขจัดส่วนเกินที่ค้ำระหว่างส่วนประกบ เสร็จแล้วทำซำ้กับที่ผ่านมาคือประกบแปะสก๊อตเทป แล้วเข้ารูปด้วยความร้อนสัก3-4รอบ

ผมทดลองแบบไม่พันด้าย ใช้บล๊อครัดแล้วหยอดกาวร้อน  ผลไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับผม มันลดการขัดได้แต่รูปทรงต่างจากใช้ด้ายพันไปบ้างต้องบังคับรูปทรงด้วยมือแล้วเอากาวหยอดในส่วนที่เหลือ  แต่ถ้าใช้ด้ายพันก็บังคับรูปทรงได้ง่ายขึ้น พันง่าย ไม่ฝืนมาก

ขัดแต่งให้เนียนครับ

รวมบล๊อคที่ทำครับ













ทิ้งท้ายครับ  การตกชิงหลิว ปลาไม่ได้กินทุ่นนะ แต่ปลามันกินเหยื่อ ทุ่นเป็นผู้สื่อสารให้เรารู้ว่าปลากินเหยื่อในลักษณะยังไง  อาจารย์ท่านนึงกล่าวไว้ แต่มันเป็นเรื่องจริง  จริงๆ






ขอบคุณที่รับชมครับ