สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 26 พ.ย. 67
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ : Handmade Fishing Tackle
 ห้องทำเอง > เหยื่อจิ๊กกิ้ง
ความเห็น: 59 - [3 ต.ค. 66, 10:28] ดู: 35,291 - [26 พ.ย. 67, 07:32] ติดตาม: 63 โหวต: 21
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
Owl (93 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
11 พ.ย. 57, 00:59
6
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 1
น้าๆหลายคน คงเคยเจอปัญหาเหมือนผมบ้างแหละเรื่องเบ็ดจิ๊ก ว่าทำไมเบ็ดผูกสำเร็จ แบรนดังๆ มันแพงเหลือเกินน แล้วจะผูกเองให้สวยแบบนั้นอ่ะ...มันทำยากแค่ไหน

  พอได้ลองทำดูเองแล้ว ปรากฏว่าไม่ง่ายจริงๆ เจอหลายปัญหามาก ที่แน่ๆนิ้วได้แผลไปหลายรูครับ

เอาหละครับ ผมจะลองอธิบายการทำแบบของผมดู โดยแอบเข้าใจว่ามันสวยใช้ได้แล้วหละครับ  ...ขออธิบายละเอียดๆสักนิดนะครับ ผมลองผิดลองถูกอยู่นานเลย
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 2
อุปกรณ์ สำคัญก่อนเลยนะครับ

--ตัวเบ็ด  ผมเลือกตัวเบ็ดของ Shout ขนาด 2/O ครับ ตูดแบน เป็นเบ็ดสโลว์
  Q-เบ็ดสโลว์จิ๊ก กับเบ็ดจิ๊กธรรมดา มันต่างกันอย่างไร
  A-เบ็ดสโลว์จิ๊ก จะมีขนาดตัวเบ็ดที่เล็กกว่า เบากว่า และคมกว่า เนื่องจากความสามารถในการSet Hook ของคันสโลว์นั้นจะต่ำกว่าคันจิ๊กทั่วไปอยู่มาก จึงจำต้องคมมากๆ แบบว่าปลาเฉียวก็ติดเลย และต้องเบาพริ้วเพื่อที่จะรบกวนการออกแอ็คชั่น
    ของเหยื่อให้น้อยที่สุดครับ

--สายเคฟล่า ผมเลือกสายของ Shout เช่นกัน ด้วยเหตุผลที่สำคัญมากๆคือ มันเป็นสีขาว 555...5 เพราะผมเคยเอาสีครีมหรือสีอื่นๆมาลองทำหลายทีแล้วมันรู้สึกว่ามันเป็น Japanอ่ะ ...(อันนี้คิดเอง ความชอบส่วนตัวครับ)

  และอุปกรณ์อื่นๆ ตามภาพ เดียวจะอธิบายตอนถึงเวลาใช้งานครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 3
  1.ก็ตัดความยาวของสายเคฟล่าตามทีต้องการครับ ผมเลือกความยาวที่ 9.5cm.

  2.แล้วเราก็เอากาวร้อน มาทาที่ตูดเบ็ดบางๆ เพื่อเวลาพันด้ายทับ สายเคฟล่ากับตูดจะได้ไม่ปลิ้นไปมา ...เอาสายมาทาบตามความยาวที่เราคิดว่ามันจะแข็งแรง ผมวางส่วนที่ทับกันประมาณ 6-7mm.
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 4
  3.แล้วเราก็เอาด้ายเย็บผ้า หมุนเข้า Bobbin ให้เยอะๆเลย เพื่อเอามาพันทับสายเคฟล่า
    Q-ทำไมจึงใช้ด้าย ทำไมไม่ใช้สายPE
    A-ผมเคยใช้สายPEแล้วครับ มันไม่เวิร์คแล้ว เพราะเมื่อเวลาตัวเคลือบมันแตกออก มันจะลามแตกไปเรื่อย เพราะความเหนียวของPE และที่ใช้ด้ายก็เพราะ 1.ราคาถูกกว่า ,เลือกสีได้เยอะและง่ายกว่า ,โครงสร้างของมันไม่แข็งแรงและเป็นใสใย
        ที่เรียงตัวกันแบบหลวมๆ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแทรกตัวลงไปของกาวร้อน ,สิ่งที่เราต้องการจากขั้นตอนนี้คือโครงสร้างในการยึดกับตูดเท่านั้นครับ เวลาที่ลงกาวร้อนแล้วมันแทรกซึมได้ทั่วกว่า และแข็งแรงกว่า และสิ่งสุดท้ายถ้ามันแตก มันจะ
        ไม่ลาม แตกมันจะแตกออกเฉพาะส่วนเท่านั้น ซึ่งด้ายจะขาดบริเวณส่วนนั้นๆครับ

  4.ทีนี้ก็พันด้ายให้ทั่ว คลุมสายเคฟล่าให้หมดอย่าให้สีขาวของสายเล็ดลอดออกมาได้ เพื่อ......ความสวยงาม 555...5
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 5
5.เมื่อพันเสร็จแล้ว ก็หยอดกาวร้อนเคลือบเลยครับ เอาให้คลุมให้ทั่ว แต่อย่าให้แฉะนะครับ ขั้นตอนสำคัญ ระวังอย่าให้กาวร้อนลามไปโดนสายเคฟล่าตรงบริเวณที่ไม่ได้เอาคลุมถักปิดไว้ เพราะมันทำให้สายแข็งกระด้าง กรอบและแตกเป็นขุยในอนาคต
 
6.ทำซ้ำเช่นนี้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกอีกครั้ง แต่ทำที่ปลายสายอีกด้านนึงครับ และตากแห้ง (ใช้เวลาไม่นานครับ)
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 6
  7.เมื่อตากแห้งดีแล้ว เราก็จะได้เบ็ดจิ๊กผูกเอง หน้าตาแบบนี้แล้วละครับบ ^_^
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 7
  8.ต่อไปเก็บงานนิดนึงครับ เอากรรไกรตัดเล็บ เล็มส่วนที่เป็นปลายสาย หรือส่วนที่แหลมๆออกมาครับ
    **ตอนพันด้ายทับรอบสุดท้ายก่อนลงกาว ไม่ต้องผูกนะครับ แค่พันๆๆๆแล้วลงกาวเลย การผูกจะทำให้เป็นปมครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 8
  9.เพื่อความสวยงานครับ เอากระดาษทรายมาลูกมาขัดสักหน่อย พอให้การเคลือบขั้นตอนสุดท้ายได้ออกมาสวยงามม
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 9
  10.จาก1-9 เราจะได้ชิ้นงานออกมาแบบนี้แล้วครับ....สวยมั้ยหล่ะฮ่ะะ ขาวแดง มันดูเป็นเจแปนที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว 555
      **โม้เพลินครับ ขั้นตอนนี้คือการขัดกระดาษทรายจะทำให้มีฝุ่นติดตามร่อง ตามรอยนะครับ หาแปรงแห้งปัดออกให้เกลี้ยงนะครับ เพราะไอ้ฝุ่นนั้นมันสีเทา ถ้ามีคงเหลือค้างไว้มันจะไม่สวยครับ
 
      ***การปัดฝุ่นออก อย่าใช้น้ำเด็ดขาดครับ เดียวมันจะมีผลต่อขั้นตอนถัดไปเป็นอย่างยิ่ง
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 10
  11.ลงน้ำยาเคลือบไกด์ที่ผสมกัน 1:1 นั่นแหละครับ หาง่ายดี มีขายทุกร้านที่ขาดอุปกรณ์ตกปลา ไม่ต้องอีพอกซี่อะไรๆให้วุ่นวาย ตัวนี้แหละทั้งง่าย แข็งแรง และแววสวยงามตาครับ
      Q-ทำไมจึงต้องเคลือบเพิ่ม กาวร้อนอย่างเดียวไม่พอหรือ
      A-กาวร้อนอย่างเดียวไม่พอครับ เพราะกาวร้อนแพ้ความชื้น แพ้น้ำครับ เวลาใช้งานหรือจิ๊กไปนานๆ มันจะเปื่อยครับ เสียหายมาก ลองนึกเวลาน้าๆโดนกาวร้อนติดมือ และเมื่ออาบน้ำ มันก็จะหลุดออกได้เองครับ

      Q-ทำไมจึงไม่ใช้ท่อหด เคลือบให้วุ่นวายทำไม
      A-ใช้ท่อหดก็ได้ครับถ้าไม่มีเวลา แต่ถ้ามีเวลาใช้เคลือบแบบนี้ดีกว่าครับ เพราะเวลาใช้ท่อหดตอนล้างอุปกรณ์ทำให้ล้างเอาน้ำเค็มออกยากครับ น้ำเค็มจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในท่าฝั่งอยู่ในสาย ทำให้มันมีสนิมโดยที่เราไม่เห็น เพราะท่อหดมีสีทึบครับ
        และกาวร้อนในท่อหด ก็จะชำรุดแน่นอนเมื่อโดนน้ำเค็มโดยตรงครับ

**การเคลือบขั้นตอนนี้ พยายามเคลือบให้ถึง คลุมกาวร้อนให้มิด แต่อย่าให้เหยิ้มมแฉะนะครับ เดียวตอนตากแห้งมันจะย้อยแล้วจะไม่งามครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 11
  12.ตากแห้งครับ ถ้าไม่โดนแดดก็ตากสัก 24-30ชม. นะครับ ให้น้ำยาเคลือบทำงานเต็มที่ไม่ต้องไปเร่งมันมาก ไม่ต้องผสมตัวเร่งแข็งให้เยอะนะครับ แห้งช้าๆนี่แหละดี มันไม่หนืดและแทรกเข้าร่องเข้าหลืบได้ง่ายกว่า
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 12
  13.ผูกเบ็ดทั้งสองตาเสร็จไปแล้ว ทีนี้ก็มาผูก SolidRing ครับ ผมก็เลือกใช้ Owner ครับ ไหนๆก็ผูกเองแล้วเราก็ไม่ต้องจ่ายแพงอีกต่อไป เอาเงินส่วนนั้นมาซื้อวัสดุดีๆ ดีกว่าครับ
 
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 13
  13.1 เริ่มต้นผูกตามภาพเลยครับ
        Q-ทำไมจึงไม่ถักสายซ่อนกัน 
        A-เพราะมันทำยากกว่า และเวลาแทงสายด้วยลวดจะทำให้ปลายสายมันบานออกต้องตัดทิ้ง และสายที่ซ่อนซ้อนกันอยู๋นั้นคือการเปลืองโดยใช้เหตุ ผมเลือกShout 120lbsแล้วไม่จำเป็นต้องซ้อนกันในสาย หรือถัก
            และการผูกท่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ความแข็งแรงลดลงเลย
       
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 14
  13.2ม้วนหัวสัก2รอบตามภาพนะครับ
        Q-ทำไมต้องม้วน 2รอบครับ
        A-เพราะถ้าเราม้วนทีเดียว เวลาเบ็ดติดปลาแค่ตัวเดียว จะเกิดแรงดึงจากปลาถึง SolidRing ซึ่งเงื่อนที่เรามัดแค่รอบเดียวนั้นจะรูดเข้ามาครับ เมื่อรูดจนสุด ก็จะเกิดแรงกระฉาก ณ วินาทีที่รูดจนสุด จังหวะนี้แหละครับ
          ถ้าโชคร้ายก็คือปลาหลุดไปเลย
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 15
  13.3 ก็ลอด SolidRing เข้าตามรูปเลยครับ
        **ขั้นต้อนการผูก SolidRing ทุกขั้นตอนนี้ถ้าเป็นไปได้ ล้างไม้ล้างมือกันหน่อยนะครับ เพราะสายมันสีขาวเดียวมันจะดำเป็นขี้เป็ดแล้วมันจะไม่สวยครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 16
  13.4 ดึงปลาย SolidRing ขึ้นมาครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 17
  13.5 ดึงให้ตึงครับ
  14.เสร็จงานแล้วครับ **สิ่งที่ยากที่สุดในการผูก SolidRing คือ เราจะผูกอย่างไร ให้สายเคฟล่าที่แข้งๆเหนี่ยะ มันหงายออกแบบนี้ แล้วตัวเบ็ดมันจะสวยเหมือนButterflyเลย

**อันนี้ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ แต่ที่รู้คือ น้าๆลองทำดูเองนะ เดียวจะเข้าใจมันเองครับ หรือถ้าไม่ซีเรียส เบ็ดจะเกสรเข้าหากัน หรือเบ็ดซ้อนตัวหันไปทางเดียวกัน ก็ใช้งานได้นะครับไม่มีปัญหา เรื่องตรงนี้ผมว่ามันคือความสวยงามมากกว่า
    ถ้าใครบอกว่า เบ็ดต้องหันอย่างโน่น นี่....ผมว่า..ไม่จำเป็น จังหวะปลาชาจเหยื่อเรากำหนดองศาเบ็ดไม่ได้หรอกครับ
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 19
  ยูนิฟอร์มพร้อมรบในทีมเหยือน เบ็ดกางใบกับชูธงรบ กับสีสันแบบ  Japan ที่เข้ากับเหยื่อ Damiki กันอย่างลงตัว  5555
เอาความรู้มาแลก เรื่องเบ็ดจิ๊กนะครับ
ภาพที่ 20
      สุดท้าย ลากันด้วยภาพนี้ครับ เบ็ดจิ๊กผลงานผมเอง ตัวนึงเกี่ยวกับกริ๊ปเปอร์ อีกตัวนึงเหยื่อกับกระเป๋าเหยื่อจิ๊กที่มีเหยื่ออยู่เต็มทุกช่อง(นน.รวม 12กก.) ปรากฏว่าเบ็ดตัวนี้แข็งแรงดีครับ
ก็ยังขาดอยู่แต่ขั้นตอนการเอาไปตกใช้งานจริงดูนี่แหละครับ 5555....

      ทำเองใช้เองคงมีผิดมีพลาดโปรดแนะนำกันด้วยนะครับ มิบังอาจสอนหรือแนะนำใคร ก็แค่แลกเปลี่ยนความรู้กันไป คำพูดใดที่ไม่เหมาะสม ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ สี่ตีนมีพลาด นักปราชญ์มีพลั้ง

ปล. Q-เมื่อเสร็จงาน นิ้วเป็นไงบ้างครับ
      A-พรุนจ้าา



^_^
แก้ไข 15 ธ.ค. 57, 20:35
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=handmade&nid=184085