ความเป็นมา
เมื่อสักประมาณ 20 ปีก่อน นักตกปลามักนิยมตกปลาสวายกันหน้าดินและตกปลาเกล็ดโดยใช้ทุ่นลอย
โดยเฉพาะการตกปลาเกล็ดโดยใช้ทุ่นนั้น เมื่อปลาเข้ามาเล่นเหยื่อจะให้ความรู้สึกที่เพลิดเพลินและตื่นเต้นมาก เฝ้าดู
ทุ่นที่พลิ้วไหวไปมา คอยลุ้นว่าเมื่อไหร่ทุ่นจะจม หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเหยื่อปลาเกล็ดถึงนิยมใส่นมเป็นส่วนผสม
เริ่มแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะทำให้เหยื่อจับตัวกันดีและละลายช้า แต่พอใช้น้ำเปล่าใส่แทนจึงได้ถึงบางอ้อ ตอนนั้นที่ใช้นม
ก็เพียงแต่ต้องการกลิ่นของมัน เลยเลือกใช้โฟรโมสต์กลิ่นกล้วยหอมกล่องสีเหลือง ตอนนี้คงไม่มีขายแล้ว(ผู้เขียนอยู่ใน
สหรัฐฯขณะนี้) ๋ก็ใช้นมรสหวานธรรมดาใส่หัวเชื้อกล้วยหอมเพียง 1 หยดเท่านั้น ครั้งแรกที่ใช้บึงรัชดาตรงข้ามปิบอิน
เจ๋งไปนานแล้ว เข้าบ่อไปตอนบ่ายสลบกันทั้งบ่อมีเกือบ20 ึคัน 2 ช.ม. ตีไปได้แค่ 8 เม็ดได้ 8 ตัว หลังจากนั้นก็ตะเวณ
แข่งตามบ่อต่างๆ กวาดเงินรางวัลและถ้วยมามาก เหยื่อนี้นอกจากใช้ได้ดีตามบ่อตกปลาทั่วไปแล้วยังใช้ได้ดีในแหล่งธรรม
ชาติด้วย
ปลาที่ตกได้
ปลาเกล็ดกินพืชแทบทุกชนิด
(ตัวสุดท้ายที่ตกได้ปลายี่สกหนัก 3 กิโล ที่แม่น้ำบางปะกง)
ส่วนผสม
1. รำ
2.ข้าวสาร หรือ ข้าวเหนียว
3.งา
4.น้ำตาลทราย( เพื่อเพิ่มความหวานให้เหยื่อ)(รสชาดของเหยื่อทำให้ปลาเข้าแล้วไม่จากจนกว่าจะโดนเบ็ดหรือเหยื่อหมด)
5.นมรสหวาน
6.กลิ่นกล้วยหอม( เพียงหยดเดียว/นม 1 กล่อง )(ต้องการเพียงแค่กลิ่นหอมจางๆ เท่านั้น)
วิธีทำ
1. ตั้งกะทะ นำ 1 2 3 มาคั่วทีละอย่างจนหอมเหลือง(ระวังอย่าให้ไหม้)
2. นำ 2 3 มาปั่นละเอียด ระวังอย่าให้ติดกลิ่นพริกจากเครื่องบดเป็นอันขาด ( ไม่งั้นคุณอาจรับประทานแห้วได้ )
3. นำทุกอย่างผสมเข้ากัน หอมอย่าบอกใครเชียว
วิธีใช้
1. ทุ่นลอย
2. ตะกร้อหน้าดิน และเม็ดโฟ
UPDATE ส่วนผสม รำ 1 กิโล ข้าวคั่ว งา(ขาว)คั่ว นำ ้ตาลทราย ประมาณครึ่งกระป๋องนมข้น
ผสมเข้ากัน แบ่งมาผสมกับ นมที่ผสมหัวเชื้อแล้ว 1 กล่อง จะได้ไม่เปลืองเงินซื้อนม อีก
อย่างเหยื่อเหลือก็ทิ้ง มาพูดปลอบใจตัวว่าอ่อยอีก เสียดายของ ส่วนผสมก็ลองดูกะกะเอา
เพราะผมส่วนใหญ่ก็ใช้ความชำนาญในการผสม ไม่ต้องตวงหรอกมือนะกำ ๆ เอา ดม
พอหอมก็ลุยได้แล้ว
เริ่มเข้าสู่ตำนานเหยื่อปลาเกล็ด เหยื่อที่คุณจะประทับใจ