พอดีเมื่อวานนี้ได้มีโอกาสแอบแวบไปเที่ยวตกปลาที่เขื่อนแก่งกระจาน
โดยที่ไม่ได้จองรีสอร์ทไว้ล่วงหน้า(จริงๆโทรไปจองรีสอร์ทนึงไว้ ตอนโทรไปบอกห้องว่างเยอะ ไว้มาดูเองเลยตอนเช้า แต่กลับกลายเป็นว่า...)
เพราะผมจะไปถึงตอนเช้ามืด(ปกติรีสอร์ทจะให้เช็คอินประมานเที่ยง) ว่าจะไปต่อรองขอเช็คอินขอเข้ารีสอร์ทก่อน
เพราะมีคุณแฟนไปด้วยและผมจะไปลงเรือตกปลาตอนเช้า คุณแฟนจะได้มีที่พักผ่อนตามอัธยาศัยระหว่างรอ
พอไปถึงที่รีสอร์ทแรก(ขอสงวนนาม)ช่วงเช้าประมาณ6โมง ก็ได้ขับรถเข้าไปถามห้องพักที่รีสอร์ทแรก(ที่เขาบอกว่า ว่างเยอะมาดูเองเลย)
ปรากฏว่า ทางรีสอร์ทบอกมาว่าที่พักเต็มหมด... ผมงงไปแปบ ผมก็ถามกลับไปว่า อ้าวเมื่อวานที่โทรมาถามเห็นบอกว่าห้องพักว่างให้เข้ามาดูได้เลยตอนเช้านี่ครับ
ทางรีสอร์ทก็ได้ให้เหตุผลมาว่า ผมคงโทรไปจองกับอีกคนซึ่งอ้างว่าคนที่รับเรื่องผมเขาอยู่ระยองคงไม่รู้ว่ามีห้องว่างเหลือไหม.... อ้าวไหงงั้น???
ผมเจอคำตอบแบบนี้ผมนี่ยิ่งงงหนักคูณ10 อ้างเหตูผลได้ดีมักม๊ากก...ถ้าผมโทรผิดเบอร์อีกเรื่องนึง แต่ผมโทรถูกเบอร์ถูกรีสอร์ท เเต่ดันอ้างแบบนี้
(สรุประบบการจองห้องพักสุดยอดมาก ดีนะไม่บอกให้โอนมัดจำ ไม่งั้นอาจเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาแถมไม่ได้ที่พัก)
เอ้าไม่ว่ากัน ขึ้นรถ ขับรถเลยเข้าไปข้างในอีกหน่อยเพราะมีรีสอร์ทติดๆกันอยู่อีก 3-4 รีสอร์ท ขับรถผ่านเข้าไปอีกนิดไม่ถึง10เมตร ก็มีคุณป้าเดินมาถามว่ามาหาห้องพักหรอ
ผมก็บอกว่าใช่ครับ แกก็เลยพาผมไปดูห้องว่างแก ต่อรองกันเรียบร้อย ผมก็ขนของเข้าที่พัก แล้วก็เตรียมตัวไปออกเรือตกปลาตามแผนการ
ผมก็ขับรถออกไปโดยที่คุนแฟนรอผมอยุ่ที่ห้อง พอผมกลับเข้าฝั่งมาตอนเที่ยง ก็รีบกลับไปหาคุณแฟน ว่าจะออกไปหาอะไรทานกัน
พอผมกลับถึงรีสอร์ท คุณแฟนก็ระดมคำบอกเล่าเป็นช๊อตๆ ในระหว่างที่ผมออกไปตกปลาว่า ระหว่างที่ผมไปตกปลาและคุณเธอพักผ่อนนั้น น่าจะประมาน9โมงเช้า
แอร์ของห้องได้ถูกปิดไปเพราะระบบตั้งเวลา คุณแฟนบอกว่าไม่ร้อนเลยไม่ได้สนใจ ก็นอนไปเรื่อย จนได้ยินเสียงคนมาไขประตูห้องรอบแรก แฟนผมบอกนึกว่าฝันไป
แต่อีกสักพักก็มีคนมาไขประตูห้องอีกรอบ คราวนี้แฟนผมบอกว่าได้ยินเสียงคุยกันด้วย เปนชาย1 หญิง1 พยายามใช้กุญแจไขห้องเข้ามา เดชะบุญที่ประตูมีกลอนล๊อคอีกชั้นนึง
แต่ล๊อคที่ลูกบิดประตูถูกคลายออกจากด้านนอกห้องเรียบร้อย และพยายามจะดันประตูเข้ามา เเต่ติดกลอนอีกชั้นที่ติดอยู่กับประตู
แฟนผมเห็นท่าไม่ดีเลยตะโกนออกไปว่ามีคนอยู่นะ ใครน่ะ??? ปรากฏว่าไม่มีคำตอบจากด้านนอกห้อง มีแต่เสียงเท้าที่เดินจากไปอย่างเร่งรีบของคน 2 คน
พอผมได้ฟังความดังนั้น ผมเลยลองไปถามป้าคนที่เปิดบ้านพักให้ผม ว่ามีคนพยายามจะเปิดเข้าห้องผม รู้ไหมว่าคำตอบที่ออกมาจากปากของป้า(น่าจะเป็นเจ้าของห้องพัก)
คือ... อ้อ ไม่มีอะไรหรอก เห็นขับรถออกไป แล้วแอร์เปิดอยู่เลยจะไปดู.... ผมนี่ ?????????????
ผมได้แต่ตอบครับๆ แล้วแผนการที่ว่าจะขับรถออกไปหาอะไรทานก็จบลงโดยหาของทานแถวนั้น เพราะไม่ไหวครับไม่กล้าออกไปกลัวมีคนมาไขห้องตอนที่ไม่อยู่กัน
แฟนผมก็จิตตกไปเลย ไม่นอนไม่เนินแล้วครับ แล้วคงไม่กลับไปพักที่นั่นหรือแถวนั้นอีกครับ บอกตงๆ หลอนครับ ลองคิดดูถ้าไม่มีกลอนล๊อคจากด้านในอีกชั้น ถ้าไม่มีใครอยู่ที่ห้อง
สัมภาระทั้งหลายของผมจะเปนยังไงบ้าง แล้วถ้าแฟนผมอยุ่คนเดียว เเล้วคนนอก(หรือเปล่า) สามารถเข้าห้องพักผมได้โดยที่มีกุญแจอีกดอก
น้าๆลองช่วยผมคิดหน่อยครับว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นไหมครับ ตั้งแต่ผมไปเที่ยวมา ไม่เคยมีที่พักที่ไหนถือวิสาสะเปิดเข้าห้องพักขณะที่แขกเช่าโดยที่ไม่มีเหตุผลเลยนะครับ
น้าๆท่านไหนมีเรื่องทำนอง เเลกเปลี่ยนเป็นประสบการณ์กันหน่อยนะครับ กลัวเลยครับตอนนี้
ขอบคุนครับ
ผมคิดว่าที่เค้ากล้ามาไขห้องเพราะนึกว่าไม่มีคนอยู่เเล้ว 100เปอเซน ครับ
สาเหตุที่มั่นใจ เพราะ
1.พอแอร์ดับไป คุนแฟนก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เเต่เท่ากับว่าคอมเพรซเซอด้านนอกจะไม่ทำงาน จึงดูเหมือนไม่มีคนอยู่
(ข้ออ้างที่คุนป้าใช้ตอบผมเรื่องแอร์นั้น ไม่มีเหตุผลเลยครับเพราะแอร์ได้ถูกตัดหลังผมไปแปบเดียว ซึ่งแฟนผมเขาไม่ร้อนจึงไม่ได้โวยวายอะไรน่ะครับ
หรือต่อให้ผมเปิดแอร์ทิ้งไว้แต่ตัวไม่อยู่ มันก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของผมใช่ไหมครับ ทางที่พักไม่มีสิทธ์มาอ้างเรื่องนี้เพื่อเปิดห้องของแขกอยุ่เเล้วนี่ครับ)
2.รองเท้าหน้าห้องก็ไม่ได้ถอดวางไว้เพราะคุนแฟนถอดวางไว้ในห้องเลย ยิ่งดูเหมือนไม่มีคนอยู่เข้าไปใหญ่
3.ผมมั่นใจแทบจะ100เปอเซนว่าเขาเห็นผมขับรถออกจากรีสอร์ทไป (โดยที่ขนของเข้าที่พักได้แค่ประมาน 1 ชม.)
เพราะทางออกต้องผ่านด้านหน้าเป็นร้านขายของ คุนป้าที่มาเปิดห้องให้ผมเขาเฝ้าอยู่ตรงนั้น
3 อย่างนี้ ประกอบกับคำตอบของคุนป้า ทำให้ผมมั่นใจว่า เจตนาไม่ดีแน่นอนอ่ะครับ
แก้ไข 4 ส.ค. 58, 18:09