ภาพที่ 1เก็บมาฝากสำหรับนักล่าหน้าฝนคะ หวังว่าคงเป็นประโชน์บ้าง ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ในช่วง 16 พ.ค.-15 ก.ย.ของทุกปีเป็นช่วงที่กระทรวงเกษตรฯได้ประกาศเรื่องกำหนดฤดูปลาวางไข่และกำหนดชนิดขนาด และวิธีการใช้เครื่องมือทำการประมง โดยกำหนดให้บางจังหวัดห้ามจับสัตว์น้ำหรือจับได้โดยกำหนดเครื่องมือเช่นอนุญาตให้ใช้ได้แต่เบ็ด เพื่อให้ชาวบ้านที่ต้องดำรงชีพด้วยการจับปลามาเป็นอาหารได้มีอาหารมาประทังชีวิต เพื่อความยั่งยืนของปลาในธรรมชาติจะได้คงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อให้เป็นแหล่งอาหารสำหรับส่วนรวมสือต่อไป
ปลาหลายชนิดในเขื่อนหรือแม่น้ำต่างๆจะว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นไปผสมพันธุ์บริเวณต้นน้ำ
ซึ่งในฤดูนี้มักจะตกปลาได้ง่ายตัวใหญ่และได้จำนวนมาก เพราะเป็นปลาที่เจริญเติบโตจนถึงวัยสืบพันธุ์
ถึงแม้การตกปลาด้วยเบ็ดจะได้รับอนุญาตให้จับสัตว์น้ำได้ แต่ด้วยประสิทธิภาพของอุปกรณ์สมัยใหม่ของนักตกปลาที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาสูง บางคันทั้งคันทั้งรอกราคารวมกันกว่าสามหมื่นบาท ทั้งคัน รอกและเหยื่อปลอมสารพัดรูปแบบ เหยื่อบางตัวทั้งรูปร่างแลแอคชั่นเหมือนกับปลาจริงมาก มากจนสามารถจับปลาได้มากกว่าแหหรือไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของชาวบ้านที่แกว่งส่ายไปในลำน้ำ เพื่อเลี้ยงปากท้องโดยไม่คำนึงว่าสิ่งใดควรไม่ควร
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นจนเป็นภาพชินตาสำหรับเวปไซด์ตกปลาบางเวป หรือนิตยสารตกปลาหลายๆฉบับ คือเรื่องราวการตกปลาที่กำลังขึ้นไปวางไข่โดยการตกขึ้นมาร้อยเป็นพวง บางพวงเป็นร้อยตัว และกลับได้การชื่นชมและยกย่องในนักตกปลาบางกลุ่ม มันเป็นพยานหลักฐานให้เห็นการทำลายเหล่าปลาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มุ่งหน้าขึ้นไปต้นน้ำเพื่อทำหน้าที่ของพวกมัน ซึ่งจะเป็นการสร้างดุลยภาพของธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น
ผมไม่ได้บอกว่าคนที่ตกปลาที่กำลังจะขึ้นไปวางไข่เอากลับมาร้อยเป็นพวงเป็นคนเลว เขาอาจจะเป็นพ่อที่ดีของลูก หรือลูกที่ดีของพ่อแม่ แต่อยากให้ผู้ที่กำลังจะตกปลาตัวต่อไปได้คิดสักนิดว่าคุณกำลังจะทำอะไร กำลังสร้างสรรค์หรือทำลาย เป็นการเอาเปรียบส่วนรวมหรือไม่
ในต่างประเทศเช่นทางอเมริกา ยุโรป มีกฎหมายควบคุมการตกปลาว่าจะเอาปลากลับไปทำอาหารได้กี่ตัว ปลาขนาดไหนบ้างที่เอากลับได้ มีการซื้อใบอนุญาติในการตกปลา ซึ่งกฎหมายนั้นได้ทำให้พวกเขามีปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติมากพอที่ทุกคนได้จับเพื่อเป็นอาหารหรือเป็นเกมส์กีฬา หรือแม้กระทั่งสร้างรายได้จากการที่นักตกปลาจากต่างประเทศได้เดินทางไปตกปลาในประเทศของเขา ซึ่งในแต่ละปีมีนักตกปลาจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียก็เดินทางเข้ามาในไทยเพื่อวัตถุประสงค์คือการตกปลา ซึ่งสร้างรายได้จำนวนไม่น้อยให้กับชาวบ้านในพื้นที่และผู้ประกอบธุรกิจทัวร์ตกปลา ซึ่งคำถามก็มีอยู่ว่าธุรกิจท่องเที่ยวตกปลาในแหล่งธรรมชาติในบ้านเราจะดำรงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ในเมื่อจำนวนปลาในธรรมชาติลดลงไปเรื่อยๆ
สำหรับบ้านเราซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์ที่มาควบคุมก็คงต้องอาศัยจิตสำนึกของคนที่ถือคันเบ็ดเป็นผู้ตัดสินว่าจะเป็นผู้ทำลาย ในสิ่งที่เขาไม่ได้สร้างขึ้นมาหรือไม่
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/lurefishing/2009/09/02/entry-1
ขอบคุณสำหรับ บทความดี ๆด้วยนะคะ เป็นแค่แง่คิดอีกแง่หนึ่ง หวังงว่าคงเป็นประโยชน์บ้างสำหรับพี่พี่ที่ตกปลา ที่ได้ปลากำลังไข่เต็มท้อง ทั้งตัวใหญ่ๆตัวเล็กๆ ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวพี่ น้าๆ เองแล้วหละคะ
สำหรับตัวเองก็ต้องปล่อยละคะ ถึงแม้ว่ามันจะตัวโตขนาดไหน ถ้าคิดถึงอนาคตเราเอาตัวนี้มากิน ปีหน้าจะมีให้เราตกอีกไหมหนอ ถ้ามีก็คงมีน้อยละถ้าเอามันไป
ขอบคุณคะ