สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 ธ.ค. 67
เจอข้อความนี้จากเมลล์เลยนำมาแบ่งปัน : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 11 - [29 ม.ค. 55, 20:44] ดู: 2,691 - [21 ธ.ค. 67, 14:12] โหวต: 1
เจอข้อความนี้จากเมลล์เลยนำมาแบ่งปัน
itons (37 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
27 ม.ค. 55, 22:25
1
พอดีเจอข้อความนี้เลยนำมาแบ่งปัน

คงไม่ต้องเกริ่นนะคะ แต่เราอยากจะบอกเพื่อนๆ คนทำงานให้ระวัง ถ้าตอนนั้นเรารู้กฎหมายใหม่ตัวนี้ เราคงไม่ยอมให้มันทำร้ายฟรีๆ หรอก.......

        เราจะเริ่มเล่าเลยละกันเผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่บังเอิญเจอเหตุการณ์จะได้หาทางหนีทีรอดได้



        เช้าวันหนึ่ง เรากับแฟนขับรถมาทำงาน โดยออกเดินทางจากแถวรัชดาเพื่อที่จะไปแถวบางนา พอออกมาจากซอยก็มีมอเตอร์ไซด์วิ่งมาปาดหน้าเราอย่ากระชั้นชิด ด้วยความหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์ ผนวกที่เราจะยูเทิร์นพอดี เราก็เลยปาดหน้ามอเตอร์ไซด์คันนั้นแบบเจตนานิด ๆ มันขับตามเรามา เราก็เลยตัดสินใจจอดตรงที่คิดว่ามีผู้คนพลุกพล่านคือตรงป้ายรถเมล์ของโรงแรมหนึ่ง พอแฟนเราเดินลงไปถามว่า มีอะไรครับ  มันก็พูดว่า มึงปาดหน้ากูทำไม แล้วมันก็กระชากคอแล้วชก เราก็เลยโทรแจ้ง 191 บอกว่ามีคนโดนทำร้ายตรงโรงแรมนี้ เรารอตำรวจมา ระหว่างที่รอมันก็ชกแฟนเราอีก แฟนเราไม่ชกตอบเพราะกลัวเป็นการทะเลาะวิวาท พอมันเห็นเราโทรแจ้งตำรวจ  มันก็ท้าด้วยคำหยาบคายฟังไม่ได้เลย บอกให้เรียกตำรวจมา เลยไม่กลัวหรอก มันจะอยู่รอตำรวจด้วย รถก็ติด คนก็มุงดู (แต่ดูเฉยๆนะ)



          เวลาผ่านไปก็ไม่มีตำรวจมาซักคน เราก็โทรไป 2-3 ครั้ง บอกว่า ผู้หญิงโดนทำร้าย แต่ก็เงียบไปเหมือนเดิม จนสุดท้ายก็โทร 1133 ขอเบอร์โรงพักห้วยขวาง แล้วบอกว่า ผู้หญิงโดนทำร้ายอยู่ตรงโน้นตรงนี้ คู่กรณีกำลังจะหนี โทรไปอย่างนี้อีก 2 ครั้ง กว่าตำรวจจะมาเขาถามว่า ผู้หญิงโดนทำร้ายที่ไหน ก็เลยบอกไปว่า ถ้าโดนข่มขืนหรือโดนยิงคงตายไปแล้วล่ะ แต่ที่น่าเซ็งกว่านั้นคนทำร้ายเรา ยืนยิ้มเยาะอยู่ข้างๆ แต่พอเราบอกตำรวจให้จับ เขาบอกว่า ตามกฎหมายใหม่ ถ้าตำรวจไม่เห็นกับตาว่าโดนทำร้าย หรือโดนฉกชิงวิ่งราวขณะที่ตำรวจเห็นพอดี ตำรวจจับคนร้ายนั้นไม่ได้ ถึงแม้จะยืนยิ้มเยาะอยู่ตรงนั้นก็ตาม ต้องให้เราไปแจ้งความที่โรงพักแล้วเขาจะเอาหมายจับมาจับทีหลัง ถ้าเรากลัวคู่กรณีหนีต้องจับไปโรงพักเอง



          เราอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้เราบอกแฟนว่าอย่าไปชกตอบดีแล้ว  ให้กฎหมายจัดการดีกว่า เราไม่เชื่อว่ากฎหมายจะคุ้มครองคนไม่ดี แต่พอเราฟังคุณตำรวจคนนั้น เราเชื่อแล้วล่ะว่า กฎหมายเป็นเครื่องมือของคนชั่ว ใช้รังแกคนดี (รู้อย่างนี้วิ่งไปที่รถแล้วหยิบที่ล็อคเกียร์มาตีหัวมันซะก็ดี เพราะตำรวจก็ไม่เห็นเหมือนกัน)

             

          เราไม่ยอม เราก็เลยไปถามสารวัตรท่านหนึ่ง เขาบอกเช่นเดียวกับตำรวจคนนั้น เราก็เลยถามว่า แล้วคนทำงานอย่างพวกเราโดยเฉพาะผู้หญิงจะทำอย่างไร ถ้าเจอคนทำร้ายปล้นและจี้ ทั้งที่เห็นคนร้ายยืนอยู่ข้างๆ ชี้ตัวให้ตำรวจดูก็จับไม่ไ ด้กว่าจะไปแจ้งความ รอหมายศาล เราคงเจ็บเสียเวลาฟรีแถมต้องเสียเงินเสียทองฟรีแน่เลย เพราะคนร้ายคงไม่ยืนรอให้มาจับแล้วล่ะ นอกจากมันจะต๊องจริงๆ..... 



          คุณตำรวจแนะนำว่า ถ้าเราขับรถแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ อย่าลงไป ให้ขับไปที่สถานีตำรวจ แต่ถ้าสุดวิสัยให้ป้องกันตนเองได้เลย ไม่ต้องกลัวข้อหาทะเลาะวิวาท เพราะตำรวจไม่เห็นกับตาอยู่แล้ว จับไม่ได้ แต่ต้องมั่นใจนะว่าสู้เขาได้



          แต่ ถ้าเป็นผู้หญิงอย่างพวกเราคงต้องไปหัดยิงปืนหรือชกมวย แล้วมั้ง เรานึกภาพไม่ออกจริงว่า ชีวิตในกฎหมายใหม่อย่างนี้เราจะปลอดภัยอย่างไร ถ้าเจอโจรหัวหมอ







        ตำรวจเตือนมา มีผู้เคราะห์ร้ายแล้ว ลองนึกภาพดู ท่านกำลังเดินมาในลานจอดรถ เปิดประตูรถและเข้าไปในรถ ท่านล็อคประตู แล้วสตาร์ทรถยนต์ และเข้าเกียร์เพื่อถอยรถ ขณะนั้นท่านมองที่กระจกส่องหลังที่อยู่หน้าคนขับ เพื่อมองทางที่จะถอย ทันใดก็เห็นว่า มีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่กลางกระจกรถด้านหลัง ท่านก็ต้องเปลี่ยนเกียร์มาที่ตำแหน่งเพื่อจอดรถ เปิดประตูออกจากรถ เพื่อจะลงไปเอากระดาษที่ติดอยู่ออก เพราะทำให้การมองเห็นไม่ดี



          ขณะที่เดินถึงด้านหลังของรถจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดเข้าไปในรถและขับรถออกไป เครื่องยนต์กำลังติดอยู่ (เจ้าของรถที่เป็นผู้หญิงจะมีกระเป๋าถือวางอยู่ในรถด้วย) รถที่ออกก็จะพุ่งออกไปท่านต้องหลีก เพราะกลัวถูกชน



          โปรดระวัง โจรรถยนต์ บางรายเริ่มใช้วิธีนี้แล้ว วิธีที่ดีและปลอดภัย คือ ท่านขับรถออกไป ปล่อยให้กระดาษติดอยู่ที่กระจก แล้วค่อยเอาออกหลังจากที่ออกไปจากลานจอดรถที่น่าสงสัยนั้น ขอให้ทุกคนส่งต่อไปให้ญาติมิตร โดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง ในกระเป๋าถือมีบัตรประชาชน และแน่นอนถ้าตกอยู่ ในมือของมิจฉาชีพก็ไม่ค่อยดีแน่



MMMMMMMMMM

จริงๆ หรือนี่

            เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง กรุณาส่งต่อ!! มี เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งไปเติมน้ำมัน ตอนที่รูดเครดิตการ์ดเสร็จแล้วและกำลังจะออกจากปั๊ม ก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินมาบอกว่าการ์ดที่รูดไปมีปัญหา ให้เธอรีบลงจากรถและเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของปั๊มด้วย เพื่อนคนนี้ก็งงมาก เพราะคิดว่าตามปกติ ถ้ารูดบัตรไม่ผ่าน เครื่องจะไม่ออกสลิปให้ แต่นี่ก็ได้สลิปแล้ว จึงเอาสลิปให้พนักงานคนนั้นดู เพื่อยืนยันการจ่าย และบอกว่ามีธุระต้องรีบไป แต่พนักงานคนนั้นก็ยังยืนยันว่า เธอต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ดี (พูดประมาณว่า จะลงไปคุยดีๆ หรือเปล่า) สุดท้ายเพื่อนก็จำใจลงจากรถ เมื่อเข้าไปในสำน้กงานได้ก็โวยใหญ่เลยว่าจ่ายตังค์แล้ว และพนักงานที่ไปเชิญเขาลงจากรถ ก็พูดกับเขาไม่ดีด้วย เจ้าหน้าที่ต้องรีบบอกให้เธอใจเย็นๆ และฟังเหตุผลของทางปั๊มก่อน ทางปั๊มบอกว่า ตอนที่เติมน้ำมันรถเธออยู่ เห็นผู้ชายคนหนึ่งแอบเปิดประตูเข้าไป นั่งอยู่ข้างหลังเบาะด้านคนขับ ทางปั๊มเห็นว่าผิดสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นคนที่มาด้วยกัน จึงโทรแจ้งตำรวจให้ และอยากให้เธอออกจากรถก่อนเพื่อความปลอดภัย

            พอได้ยินแบบนั้น เพื่อนก็ตกใจมาก รีบหันกลับไปดูรถตัวเองทันที จังหวะนั้นก็ทันเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเปิดประตูและลงจากรถตัวเองอยู่พอดี  ภายหลังทราบว่าพวกนี้เป็น หนึ่งในรูปแบบของอาชญากรรมแนวใหม่ คือ เป็นพวกค้าชิ้นส่วนอวัยวะของผู้หญิง โดยจะแอบปีนเข้าไปตอนที่คนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิง เอารถแวะเข้าเติมน้ำมัน หรือแวะจอดซึ้อของตามร้านข้างทาง หรือตามห้างสรรพสินค้า วิธีการก็คือ พวกนี้จะตัดเอ็นข้อเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อหนี จากนั้นจะขับรถของเหยื่อ เพื่อพาเหยื่อไปฆ่าและชำแหละอวัยวะออกเป็นส่วนๆ



            เมื่อได้อ่านแล้วขอให้ช่วยกันส่งต่อไปให้ผู้หญิงทุกคนที่คุณรู้จัก อย่างน้อยอาจช่วยให้พวกเขารู้จักระวังตัวและไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

          ข้อควรระวัง

1. ให้ ล็อครถทุกครั้งที่ต้องลงจากรถ แม้ว่าจะเป็นการแวะลงไปทำธุระหรือซื้อของเพียง  แค่ไม่กี่นาที

2. สำรวจหาบุคคลแปลกปลอมใต้ท้องรถและเบาะด้านหลังทุกครั้งก่อนกลับขึ้นรถ
3. หมั่นสังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้างอยู่เสมอ เมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะเมื่อต้อง ไปไหนในเวลากลางคืน
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=65389