ภาพที่ 1หมายนี้น้านักล่าลำน้ำจางคงรู้จักดีครับ "จำกลางหาว" อยู่ด้านในของเขื่อนแม่จาง จังหวัดลำปาง
เขื่อนนี้สร้างขึ้นมากว่า 40 ปีแล้ว ภายใต้เขื่อนนั้นเป็นทั้งป่าเขา หมู่บ้านเก่า รวมถึงวัดร้างต่าง ๆ มากมายที่จมอยู่ใต้น้ำ
ทุกครั้งที่เข้าหมายพวกผมถือเคล็ดกันมากไม่ทำอะไรซี้ซัวเด็ดขาดแต่วันนั้นไม่เป็นอย่างนั้น
ด้วยทางที่แสนทุระกันดานโขยกขย่มมานาน กว่าจะเข้าถึงหมายก็มืดค่ำ ผมเองนั่นแหละที่ปวดฉี่จนทนไม่ไหวกระโดดลงรถปุ๊ปรีบปลดทุกข์ทันทีโดยมิได้ขอขมา จากนั้นก็กลับมาช่วยกันกางเต็นท์ก่อไฟเตรียมเครื่องค้างแรมกันตามปกติ แล้วจู่ ๆ ผมก้าวพลาดเท้าขวาเหยียบลงไปในหลุมเสาเต็นท์ที่คณะเก่ามาขุดไว "พล็อก"
ความเจ็บปวดซานไปทั่วตัวผมทรุดกองอยู่ตรงนั้นทันที ตอนแรก เพื่อน ๆ ก็คิดว่าเป็นมุกตลกล้อเล่นกัน แต่พอเห็นผมนอนเกลือกกลิ้งทุรนทุรายก็รีบมาลากเอาตัวผมไปที่เต็นท์ใหญ่ ปรากฏว่าข้อเท่าผมพลิกขนาดหนักชนิดที่เรียกว่าพับเลย นายหนุ่ยรีบบอก "พี่ตี๋ใจเย็น มันไม่ใช่เป็นไรมาก" ไม่พูดเปล่ามันกระชากดึงข้อเท้าผมดังกรึบทันที อ้ากกกกกกกกก...........
ผมฟุบเลย คืนนั้นทั้งคืนนอนไม่ได้ ปวดมาก รู้สึกร้อนผ่าวที่ข้อเท้าตลอดทั้งคืน
พอรุ่งเช้าผมต้องตัดไม้มาทำไม้เท้า แต่เหตุการณ์ไม่หมดแค่นั้น เช้านั้นพอนายหนุ่ยตื่นมาปรากฎว่าที่งามนิ้วมือมีเลือดไหลออกมาในปริมาณที่เหมือนกับว่าโดนมีดปาด แต่มันไม่มีแผล ผมสำรวจดูเท้าผมก็ไม่มีแผล งง
ตอนนั้นยังไม่ได้เอะใจอะไร ก็ตกปลาต่อไป แต่ไม่รู้อะไรวันนั้นทั้งวันเบ็ดสิบกว่าหลังไม่มีปลามาเฉี่ยวเลย จนน้องบอยเริ่มหงุดหงิด ๆ ๆ ๆ ๆๆ เลยเปิดขวดเล่นกันแต่วันยันเย็นยันค่ำไปเลย พอเริ่มได้ที่ปากก็เริ่มพล่อย คุยหยอกล้อเจ้าที่ว่าหวงปลาบ้างหล่ะ ไม่ถึงเหล้าบ้างหล่ะ ลามปามใหญ่ จนเกือบสามทุ่มเลยตัดใจเก็บของกันงุด ๆ เตรียมกลับ ระหว่างนั้นน้องบอยยังไม่หยุดปากลามปามเจ้าที่ไปเลื่อย ๆ จนขนของขึ้นรถหมดนั้งเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยรถก็เคลื่อนออกจากหมายซึ่งทางเป็นโขดหินขึ้นตามลำห้วย ทันใดนั้นเสียงเจ้าบอยก็ดังขึ้น
"วู้......กล้วย" พอสิ้นเท่านั้น
"โครม"
"เฮยยยยยยหยุดไอ้บอยตกรถ"
ทั้งที่ฝาท้ายนอกจากจะมีสลักของติดรถแล้ว ยังมีเชือกรัดของโยงอยู่รุงรัง บัดนี้มันเปิดออกอ้าซ่า ข้าวของหล่นเกลื่อน ไอ้บอยร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้นเอง
ขณะนี้พวกเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเจอกับอะไรอยู่ต่างก้มหน้าก้มตาเก็บของโยน ๆ เข้าท้ายรถรีบออกมาจากที่นั่นให้เร็วที่สุด แต่ระหว่างทางกลับ พวกผมขนหัวลุกชันเลย
ปรากฏมีแสงไฟสีนวลเป็นลูกลอยอยู่ในราวป่าข้างทาง ไฟลูกนั้นลอยไปทิศทางเดียวกับที่รถวิ่งอยู่ ทุกคนมองหน้ากัน เงียบ มีแต่เสียงหายใจหอบของทุกคนเท่านั้นเวลานี้ แล้วไฟลูกนั้นก็ลับไปที่สันดอย
เมื่อกลับมาถึงบ้าน นอกจากผม หนุ่ย บอย ที่ประสบเหตุแล้ว อีกสองคนที่เหลือก็จับไข้ ที่จริงก็เกือบทุกคน หลังจากวันนั้นผ่านมาอีกสองเดือนพวกเราจึงมาคุยกันใหม่ เราควรเข้าไปขอขมาเจ้าที่กันดีไหม เพราะต่างคนต่างหายกลัวแล้ว เราจึงเข้าหมายนั้นอีกครั้ง คราวนี้อย่างแรกที่ไปถึงผมหาขนมหวาน บอยหาเหล้า หนุ่ยหาพวงทันทีมาลัย คนอื่น ๆ ธูปเทียน พอลงรถได้ปรีเข้าหาต้นไม้ใหญ่จุดธูปเทียนขอขมาสิ่งที่ลูกช้างได้ล่วงเกินไป
เชื่อหรือไม่
ทริปนั้น ปลากิน 9 อัดขึ้นได้ 5 อีก 4 ติดตอ ในภาพนี้ก็เป็นหนึ่งในทริปนั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง
*คืนนั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมีมากที่ไม่ได้เล่าออกมาเช่น ไกปืนอัดที่กำลังเล็งจะยิงบ่างหักทั้งที่เป็นเหล็ก ฯลฯ