ภาพที่ 1 เวลากว่าสิบปีกับหนังสือโลกกว้างฯ กว่าร้อยเล่มที่ผมได้รับอภินันทนาการจาก บอกอ.
แน่นอนไม่มีเล่มไหนไม่ผ่านตา เนื้อหาในเล่มบรรจุเมนูปรุงแต่งจากเนื้อปลาหลากหลายรสชาติทั้ง
จืดชืดและเผ็ดร้อน แต่เพียงไม่กี่ปีมานี้เองที่เจ้าสีทอง, กระมงพร้าว, เก๋าถ่าน ฯลฯ ต่างเป็นเมนูจานเด็ด
ทยอยขึ้นปกโลกกว้าง อย่างไม่ขาดสาย รสชาติของมันจัดจ้านบนปลายปากกาของนักตกปลาหลายท่าน
สุดแท้แต่เชฟจะปรุงแต่งให้มันมีรสเปรียวหวานมันเค็มอย่างไร ผมเหลือบมองเมนูแต่ละจานอย่าง
มิอาจปฏิเสธที่จะลิ้มรสมันสักครั้ง หากสักวันมีโอกาส
แล้ววันนั้นก็มาถึง เราจะไปผจญภัยกลางทะเลกว้างค้นหาความสุขตามครรลองอย่างที่เพื่อน
นักตกปลาไขว่คว้าแสวงหา ซึ่งต้องดั้นด้นไปไกลถึงต่างแดน อาณาจักรพุกาม
ถ้าใครคิดการใหญ่จะไปบุกพม่า ขอเรียนว่ามีเรือเพียงไม่กี่ลำในละแวกนี้ให้เราเลือก
หนึ่งในนั้นคือยานลอยน้ำโอเชี่ยนวันระนอง มีนุสแปร์โรว์ฉลามร้ายแห่งเมืองระนองเป็นผู้กุมพังงา
และกุมชะตากรรมของเหล่านักรบพลัดถิ่น ถ้าคุณอยากรู้ต้องตามไปดู
ภาพที่ 2 ครูฉัตร (คุณฉัตรชัย อรุณกมล) เสือร้ายจากแดนใต้ ผู้มีประสบการณ์ในการบุกพม่ามากครั้งกว่าเพื่อน
(ไม่รู้แค้นอะไรกันนักกันหนา) เป็นผู้รวบรวมเหล่านักรบพลัดถิ่นได้ถึง 9 จอมยุทธ์ เป็นขงเบ้งวางหมากการสู้รบในทริปนี้
ภาพที่ 3 เสือต้นมงกรอีสานใต้ มีอาวุธประจำตัวมากกว่าเพื่อน (46 กระบอก) สงสัยจะรวบรวมเอาไว้จัดตั้งกองทัพปลดแอก
ทริปหน้าขนไปให้หมดคลัง จะได้เอาไปบุกยึดพม่า เขานัดเจอผมตอนตี 1 วันที่ 22 เราอาศัยรถโฟร์วิลสีแดงคันนั้น
ตะบึ่งถึงนิวาสถานของเสือกบละแวกพหลโยธินตอนสายของวัน
ภาพที่ 4 เสือกบ (คุณณรงค์ศักดิ์ ลิ้มจีระจรัส) เสือพูมานักเรียนนอกจาก USA. ทำหน้าที่สารถีต่อจากเสือต้นแวะรับเสืออ้วน
(คุณอธิปัตย์ สิงห์ทอง) เจ้าของสวนมะนาวเปรี้ยว นัดพบกันที่เพชรบุรี ส่วนเสือต้นย้ายวิกไปขึ้นรถตู้มหาภัยของเสือป้อ (คุณวินัย ชีวพงศ์ชัย)
ภาพที่ 5โดยมีเสธชัย (นาวาอากาศเอกชัยสม ร่มโพธิ์ทอง) เสือติดปีกนักรบตัวจริงเป็นผู้ร่วมทาง
ภาพที่ 6 อีกครั้งที่บ้านกุยบุรีสะกิดต่อมความจำให้หวนคิดถึงเมื่อครั้งเป็นล่ามให้คุณคริสสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย
เราอยู่กันสองคนบนเขาสามร้อยยอดกว่าเดือน วันนั้นคุณคริสให้ผมไปเอาเงินกับนายที่กรุงเทพฯ ระหว่างทางลงเขา
พบพราน 3 คนกำลังชำแหละเลียงผาอยู่ จึงขอแบ่งซื้อเนื้อ 2 กิโลกรัม (กก.ละ 10 บาท) แล้วให้ค่าแรงอีก 20 บาท
ช่วยเอาขึ้นเขาไปให้คุณคริส เขามีตู้เย็นหลังเล็ก เอาไว้แช่เบียร์, น้ำ, เนื้อ ตอนผมกลับจากกรุงเทพฯ เขากินเนื้อเลียงผาจนหมด
โดยเข้าใจว่าเนื้อวัว ผมลงมาถึงตีนเขาก็เย็นแล้ว จึงเร่งเดินทางเพื่อไปให้ถึงหมู่บ้านดอนยายหนูก่อนมืดค่ำ ออกจากตีนเขาไม่ถึงชั่วโมง
น้ำทะเลหนุนขึ้นเรื่อย ๆ จนเลยหัวเข่า มองไปทางไหนก็มีแต่น้ำ พระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว แต่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ รีบปีนขึ้นต้นโกงกาง
ซึ่งขึ้นห่าง ๆ กัน พยายามมองหาเรือ...คืนนี้คงต้องเป็นลิงหลับบนต้นไม้แน่ ๆ ...ไม่นานก็พบเรือกู้ลอบปูลำหนึ่งกรรเชียงอยู่ไกล ๆ
รีบโดดน้ำจ้ำไปหาโวกเวกตะโกนเรียกจนเรือหันหัวมาก็ใจชื้น
ภาพที่ 7 คืนนั้นนอนที่บ้านลูกหาบที่คุ้นกัน คุยไปคุยมาจะยืมปืนลูกซองขึ้นเขาโดยจะเอาลูกปืนลูกซอง 1 กล่องเป็นค่าตอบแทน
ร้านปืนแถวหลังวังบูรพาแนะนำให้เอาลูกอีเล่ย์เบอร์ 1 ซึ่งจะใช้ยิงไก่ยิงค่างได้ เลยซื้อ 2 กล่อง ผมมาจากกรุงเทพฯ
ถึงหมู่บ้านดอนยายหนูเอาเมื่อบ่ายแก่แล้ว ได้ปืนมาแล้วก็ได้ลูกหาบอีกคนพายเรือไปส่งที่ตีนเขา ระหว่างทางพบนกกระยาง
เกาะบนต้นโกงกางในระยะกระสุน บอกลูกหาบจะขอทดสอบปืน นายท้ายขัดเรือชิดต้นโกงกางมือเกาะต้นไม้ประคองให้เรือนิ่ง
ผมบิดหางปลาหักลำกล้องใส่ลูกปืนขึ้นนกนั่งคุกเข่าขวางเรือเร็งยิงเจ้ากระยางขาว พอศูนย์ทาบเป้านิ้วเหนี่ยวไกรนกสับแฉะ
ปืนก็ลั่นตูม !!! ยังไม่ทันสิ้นเสียงกัมปนาทหมดควันปืนเจ้าพานท้ายก็ถีบผมหงายหลังตกน้ำ ปืนกระเด็นไปอีกทาง
นกก็ไม่ได้ดีที่เรือไม่คว่ำ นั่นเป็นประสบการณ์ยิงปืนลูกซองครั้งแรกในชีวิต
ภาพที่ 8 กลับเข้าเรื่องตกปลาดีกว่ามีเวลาวันหน้าค่อยเล่าต่อ ที่บ้านเตี่ย (นักรบน้ำเค็มฉลามถอดเขี้ยว) เหล่าขุนศึกชุมนุม
ตั้งวงเฮฮาปาร์ตี้กันครบหน้า เสือคุด (คุณพนาสันธ์ เอ้งฉ้วน) เสือซุ่มจากนครฯ เสือหนิง เสือเหลืองจากมาเลเซีย
เมื่อเหล่าขุนศึกมากันพร้อมหน้า การวางแผน (ชั่วร้าย) ก็ง่ายขึ้น
เช้าวันที่ 23 หลังเคารพธงชาติ ตอมอไทยตรวจเอกสารปล่อยเรือออกจากท่าเข้าพม่าทำวีซ่าอีกที
ทีนี้ก็ถึงเวลาหรรษาลัลล้าเข้าพม่าขุดทอง โอเชี่ยนวันออกจากพม่าราวเที่ยง ท้ายเรือถูกยึดครองโดยเสือต้น,
เสือฉัตร, เสือปอส่วนเสือเต็กถูกวางตัวให้อยู่หัวเรือ ถัดกันเป็นเสือกบกับเสือหนิง มีเสธชัย, เสือคุด, กับเสืออ้วน
เป็นพวกเสือจิ๊กเร่ร่อน ไม่มีฐานที่มั่นที่แนนอน อยากจิ๊กตรงไหนก็ตามกันไปลงจิ๊กกราบนั้น เหล่าเสือปลาประกอบรอกกันขะมักเขม้นทั้งหน้าเรือท้ายเรือ
ภาพที่ 9 ขยันกันจริง ตกจริงขอให้ได้อย่างนี้ซิน่า
เสือปอเปรยขึ้นขณะสำรวจเพื่อน ๆ รอบเรือ
ตอนที่รุกขึ้นมาเปิดหม่านหน้าต่าง พระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว ผ่านไปครึ่งวันเรือแจวยังไม่พ้นเกาะ โส้ยข้าวเย็นแล้วล้มตัวลงงีบต่ออีกครึ่งคืน
อีก 3 ไมล์ถึงหมาย!
เสือฉัตรเปิดประตูห้องแอร์ปลุกเหล่าทหารกล้าให้เตรียมพร้อม รีบลุกขึ้นประกอบเจ้า Seaborg 750 MT
กับแท่นที่แคมเรือ แล้วมุดเข้าห้องกัปตันสังเกตการณ์หน้าจอซาว์เดอร์ น้ำลึกเฉียดสามร้อยเมตรแล้วจู่ ๆ
เหลือไม่ถึงร้อยเมตรแน่นอนยานลอยน้ำโอเชี่ยนวันต้องลอยลำอยู่บนภูใต้น้ำ
ภาพที่ 10 สมอยังไม่ทันลงโรสแบงค์ เสือฉัตรชิงหย่อนจิ๊กซิวเจ้าหางแข็งขึ้นเรือ หุ้นขึ้นทันที เสธชัย ,เสือคุด, เสือหนิง,
กับเสืออ้วนลงจิ๊กกันใหญ่ ใครใคร่จิ๊กๆ ใครลงรอกไฟฟ้าลง แท่งเหล็ก 2 กก.ที่ความลึกกว่าร้อยเมตร (อ่านจากตัวรอก)
ถ้าไม่ใช่รอกไฟฟ้าก็ไม่ไหวครับเพ่ ทั้งกลางน้ำหน้าดินถูกข้าศึกบุกถล่มรอบเรือ ตาแดง, ปากกว้าง, กะพงเขียว, เยโร่ฟิล
ภาพที่ 11 เฮีย ๆ ดูนี่เด่
เสืออ้วนเพื่อนต่างวัยสะกิดให้ดูผลงาน ตาแดงตัวนั้นไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัมถูกงับขาดครึ่งตัวเนื้อห้อยรุ่งริ่งยังดิ้นทุรนทุราย
เสือฉัตรใช้เบ็ดราว 7 กิ่งปลากินทีหิ้วเป็นพวง
ราวตี 4 ปลากินห่างตัว คลื่นลมแรงขึ้นผมเข้านอนดีกว่า
ปลากินมั๊ยนิ เสือคุดละเมอถาม
ไอ้หลามเข้า ปลาไม่กินเลยเป็นชั่วโมงแล้ว
ตอบเสือคุดทั้งที่หลับตา
24 2 54
เช้าสดใสวันใหม่ ทอรลลิ่งหาปลาโอบนโรสแบงค์ ได้กะพงเขียว ปลาโอหลุดไปหลายตัว
ภาพที่ 12 10 โมงกว่าเราก็ถึงหมายเก๋าถ่าน น้ำลึก 300 ม. ผมเสียแท่งเหล็ก 2 กิโล 2 แท่ง ตอนนั้นบ่ายโมงกว่ากำลัง
เปลี่ยนเหยื่อชิ้นใหม่ น้ากบหิ้วไอ้เก๋าถ่านขึ้นเรืออารามจะไปแสดงความยินดี ขาไปสะดุดสาย PE บังเอิญสายไปพันปลายไกด์ ๆ หักทันที
ต้องเปลี่ยนคันเพนน์อินเตอร์ 30 ปอนด์ ลงสนามรบแทนคัน ชิมาโน80 300
บ่ายแก่นุสแปโรว์ย้ายหมายใหม่ ลงสมอแล้วผมเสียแท่งเหล็กอีก 2 กิโลกรัม ปลากินห่างตัว ฉลามนุสั่งถอนสมอแต่ติดหินเอา
ไม่ขึ้นเสียเวลาอยู่นานจนลูกน้องต้องตั้งสำหรับที่หัวเรือ สมอถึงยอมขยับตัวขึ้นเรือ...แปลก?
ภาพที่ 13 สมอลงน้ำอีกทีเวลา 3 ทุ่มกว่าระดับน้ำ 80 เมตรน่าจะเป็นภูอีกลูก มีแต่ปลาเล็กติดเบ็ด ตอนตี 1 กว่าเอาขวดเปล่า
ไปท้ายเรือกรอกน้ำได้ 2 ขวด เสือกบตะโกนว่ารอกไฟฟ้าตกน้ำ กลับมาที่ฐานรอกไฟฟ้า Seaborg 750 MT พร้อมแท่นมีแผ่นไม้อัด
ประกบกับแคมเรือกันไม่ให้แคมเป็นรอยหายไปทั้งหมด เซ็ง เข้านอนดีกว่า ตี 4 เสือป้อเปิดประตูห้องแอร์ปลุกเหล่าจอมยุทธ์
ให้ลุกขึ้นมาสัปยุทธ์ จำได้ว่า เสธชัย เสือคุด เสือฉัตรลุกตามกันออกไป
สายแล้ว เห็นเสือป้อนอนอยู่ข้าง ๆ ลุกไปถามไต๋ๆบอกอีก 15 นาทีถึงหมาย รีบเอาเจ้ามิย่า 500 ติดบนคันซีฮอล์ค 40 80
ของเสือป้อแก้ขัดไปก่อน(ขอขอบคุณเสือป้ออีกครั้งครับ) ย้ายฐานไปอยู่กลางลำเรือ
ลงเหยื่อถึงพื้นไม่พอ 2 ไฟแดงปลายคันก็กระดิ๊ก วินซ์ขึ้นมาเป็นเก๋าลูกหมูกระโดน 2 กิโลกว่า เอาแล้วโว้ยไข่เหยี่ยมม้าแตกแล้ว
ถึงจะใบเล็กก็ยังดี นุสแปร์โรว์ขยับเรือใหม่ (ไม่ทิ้งสมอ) เสือกบอยู่หน้า เสือต้นอยู่ท้ายติดหินทั้งคู่
ภาพที่ 14 ที่ใต้บาดาล ขณะนั้นเจ้าหมูอ้วนขยับเหงือกสะบัดครีบเอกเขนกอยู่บนที่นอน หล่อนเห็นอะไรแว๊ป ๆ สีส้ม ๆ
ผ่านหน้าตกตุ๊บจนฝุ่นโคลนฟุ้ง เนื้อปลาโอชิ้นนั้นลอยพลิ้วอยู่ตรงหน้า อาหารมือเช้าลอยยั่วน้ำลาย หล่อนขยับตัวอย่างขี้เกียจ
ตรงเข้างับชิ้นเนื้อปลาโอแสนโอชะ อาหารมือนั้นน่าจะมียาพิษหล่อนรู้สึกมึนตื้อ ๆ และไม่รู้สึกตัวอีกเลย
ที่แคมเรือ คันซีฮอล์คโค้งลงอย่างมีนัย คนเฝ้าคันใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มที่ปุ่มสวิทช์ นางมิย่าส่งเสียงแต๊ก ๆๆๆๆๆๆ ตลอดเวลา
หลายคนมายืนมุงดูปลายคันมีดีดขึ้นลงเป็นครั้งคราว นานหลายนานมีฟองอากาศลูกใหญ่ 3 4 ลูกลอยขึ้นผิวน้ำหลังจากนั้น
แม่หมูกระโดนตัวใหญ่ก็ลอยตามหลังฟองอากาศขึ้นมา หล่อนมีน้ำหนักถึง 11 กก.
ภาพที่ 15 ขณะที่เสือหนิงจัดการกับนางปีศาจ ทางท้ายเรือหิ้วแต่สีทอง ฉลามนุขยับเรืออีก 2 3 ครั้ง เสือเต็กได้เก๋าถ่านรองบิ๊กอีกตัว
อีกไม้ของเสือต้นได้เก๋าถ่านใหญ่สุด 12 กก. สีทอง, อุจาระแตก, กับเงินดำยังเป็นคู่ต่อกรที่ไม่ยอมถอยหนี ขณะที่เสือคุดอาศัยจักรพรรดิสีทอง
(16 S)ปั๊มเจ้าลูกหมูกระโดนไซส์งามอย่างน่าเหนื่อยแทน ตอนนั้นปลายคันเบ็ดของเสือเต็กกระดิกเบา ๆ ส่งซิกให้รู้ว่าปลาเล็กติดเบ็ดแต่รออีกหน่อย
พอคันโค้งกระตุกหนักขึ้นใช่เลยไม่ต่ำกว่า 2 ตัวแน่ ๆ คันโค้งแบบมีขึ้นมีลงนึกว่าไอ้เก๋าพอเจ้าเงินดำโผล่ขึ้นมามีน้าหลามไซส์สวยติดตามมาด้วย
นุสแปร์โรว์กำลังจะตัดสาย น้าหลามดิ้นทีเดียวสายชิ่งขาดลากเอาตะกั่ว 2 โลกว่ากับอาหารสำรองไปด้วย
ภาพที่ 16 บ่ายแก่แล้วอีกครั้งที่ปลายคันซีฮอล์คโค้งวูบลง ผมกดวินซ์สวนทันที แต่เจ้าตัวใต้น้ำดึงโน้มคันโค้งลงแข็งขืน
ไม่ยอมลูกเดียว เนื่องจากเบรคแน่เกินไป สาย PE 10 BLACK SENSOR ของ Daiwa ถูกกระชากไม่กี่ครั้งก็ขาดตรงรอยต่อกับสาย
Shock Leader YGK 170 Lbs ทิ้งความค้างคาใจจนเดี๋ยวนี้ ที่น้ำลึก 300 ร้อยกว่าเมตร กดวินซ์แต่ละทีมีลุ้นตรงที่มันจะขึ้นมาไม้ละกี่ตัว
ก่อนแสงสุดท้ายของวัน ฉลามนุย้ายเรืออีกครั้งไปทิ้งสมออีกทีตอน 2 ทุ่ม เสธชัยพาลิ้วล้อ เสืออ้วน, เสือหนิง,
เสือคุด จิ๊กกันเมามัน ตาแดงเยลโลฟิล ไซส์ 2 - 3 กระดกคันกันมันหยด หน้าดินกินมั่งไม่กินมั่ง 6 ทุ่มกว่าแล้วขอนอนดีกว่า
พบเสือหลายคนนอนคว่ำนอนหงายอยู่บนเตียง
ภาพที่ 17 ตื่นตีสี่พบเสือป้อ, เสือหนิงอยู่ท้ายเรือได้แดงเขี้ยวหลายตัว รีบลงเม็ดได้อุจาระแตกตัวเดียว ฝนก็โปรยปรายลงมาและ
ไม่มีทีท่าจะหยุดเลยพากันขึ้นนอน ทอลลิ่งอรุณสุดท้ายของทริปได้ทูน่า 2 3 ตัว ฉลามนุพาแวะอีกสองหมายอย่างเหงาหงอย
จวบจนเที่ยงทิ้งสมอที่หมายสีทอง เสือเต็ก เสือหนิงอยู่ถัดกันล่อแต่ขี้แตกกับเงินดำ มีสีทองแจมบ้างก็ช่วงเย็นแล้ว
เหล็กถ่วงชุดสุดท้าย 2 .3 กก. จาก 37 กก. ของเสือเต็กพอตกถึงพื้นสายก็เบาวิว เข้าใจว่าโดนน้าหลามสอยรวบทั้งชิ้นปลาและเอ็น
ภาพที่ 18 ท้ายเรือ เสือต้น เสือฉัตร เสือป้อกดวินซ์แต่ละทีมีเฮ สีทองเสียส่วนใหญ่ แล้วสีทอง 16 กก.โทรฟี่ตัวใหญ่สุด
ของทริปตกได้ด้วยคันเสือฉัตร หลังอาทิตย์ตกน้ำไปแล้วก็ถึงคิวของเหล่าเสือจิ๊ก เสธชัย เสือคุด เสือหนิง เสืออ้วน เสือกบ
ปฏิบัติการจิ๊กเยลโลฟิล หางแข็งได้ 4 เข่ง โดยเฉพาะเสธชัย หมานกว่าเพื่อน ชั่วโมงสุดท้ายของ
ทริปราว 3 ทุ่มเสือเต็กจิ๊กได้หางแข็ง 2 3 ตัวก่อเวลาของทริปจะหมดลง
ภาพที่ 19 ดึกมากแล้วถนนซอยเส้นนั้น คราคร่ำไปด้วยผีเสื้อราตรีวัยอ่อนส่งสำเนียงที่แม้แต่คนพื้นเมืองก็ยังไม่เข้าใจความหมาย
นายพรานหนึ่งในหลายคนเงื้อมสวิงเตรียมตะบบผีเสื้อปีกอ่อนตัวที่อยู่ห่างเพื่อน หล่อนเขอะเขินและเหนียมอายแลเพื่อนวัยเดียวกัน
กำลังบินตอมนายพรานคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างที่หล่อนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม?
ตัวนั้นเพิ่มต้อนมาได้ เมื่อเช้านี้เอง
ผีเสื้อปีกแข็งที่เป็นจ่าฝูงเปรยขึ้น แต่สวิงในมือพรานคนนั้นครอบลงไปที่ผีเสื้อตัวนั้นแล้ว...คงอีกไม่กี่ราตรีผีเสือหัดบินตัวนี้ก็คง
ไม่ต่างจากเพื่อนของหล่อนที่คุ้นเคยและชาชินกับสังคมในซอกซอยเส้นนั้น
ทานข้าวต้มได้แล้วครับ!
สิ้นเสียงคนก็มีเสียงประตูห้องแอร์ถูกปิด กำลังฝันหวานอยู่ดันปลุกได้ ผมมองลอดหน้าต่างเห็นเงาเกาะดำ ๆ อยู่ไกล ๆ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ตามชมครับ
สวัสดีครับผม