การตัดเหล็กไหล
เหล็กไหลตัดคือเหล็กไหลประเภท ธาตุสาเร็จ ที่กระจัดกระจายอยู่ในส่วนต่างๆตามป่าเขาลำเนาไพรที่สามารถไหลไปตามส่วนต่างๆของซอกถํ้าซอกเขาเกิดจากเทพพรหมในระดับ รูปพรหม อาศัยเป็นก้อนธาตุในรูปทรงแบบต่างๆลักษณะแกร่งพอสมควรอาศัยธาตุเหล็กเป็นธาตุหลักสีออกค่อนข้างเขียวจนถึงสีปีกแมงทับขาวเงินยวงหรือหลายสีในก้อนเดียวกันรูปทรงเป็นไปตามที่เทพปรารถนาสีสันแตกต่างกันไปเนื้อค่อนข้างมันวาวสามารถยืดได้หดได้และลื่นไหลแทรกไปในวัตถุแข็งทึบได้แต่ไม่สามารถล่องหนไปในอากาศได้ด้วยตนเองต้องอาศัยผู้ที่มีวิชาอาคมเรียกเอาหรือติดต่อกับผู้ที่เฝ้ารักษาอยู่คือเทพนาคราชคนธรรพ์อสูรยักษ์ฤาษีเป็นต้นเมื่อผู้เฝ้ารักษายินยอมให้แล้วผู้มีวิชาอาคมจึงใช้วิชาตัดเอาเรียกเอา
พิธีกรรมตัดเหล็กไหล
การตัดเหล็กไหลเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาลอุปกรณ์ที่จะใช้ประกอบพิธีกรรมจึงอาจจะมีสิ่งแตกต่างกันไปตามบุรพาจารย์ผู้กำหนดเพราะส่วนสำคัญในการตัดเหล็กไหลบางอาจารย์ก็ใช้หวายผูกลูกนิมิตใบตาลเส้นผมสาวพรหมจารีย์ขวานเทียนเข้าพรรษาประจำเดือนของทารกแรกเกิดเป็นต้น
ผู้จะทำพิธีตัดเหล็กไหลต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้มั่นคงไม่มี่จิตละโมบคือต้องขออนุญาตจากเทพผู้ดูแลรักษาเสียก่อนเมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอามิฉะนั้นหากเราขืนด้วยกำลังหมายแย่งชิงเอาโดยพละการถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเพทภัยถึงแก่ชีวิตหรือเกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
พิธีกรรมในที่นี้จึงเป็นเพียงแนวทางสำหรับผู้สนใจในพระเวทย์เพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะขอให้ท่านได้ลองพิจารณาศึกษาดูเพราะโอกาสจะเรียนรู้ในเรื่องราวเหล่านี้จากครูบุรพาจารย์ผู้รู้นั้นหายาก
อุปกรณ์ในการตัดเหล็กไหล
1.สายสิญจ์จากปากหลุมลูกนิมิตร
2.ไม้ตาขอ9อันใหญ่พิเศษ1อัน
3.มีดหมอลงอาคมเพื่อใช้ตัดเหล็กไหล
4.นํ้าผึ้งป่า
5.คาถาเรียกเหล็กไหล
6.คาถาผูกเหล็กไหล
7.คาถาตัดเหล็กไหล
8.คาถาอัญเชิญเหล็กไหล
เครื่องบวงสรวง
1.บายศรีเทพบายศรีพรหมอย่างละ1คู่สำหรับตั้งศาลเอก
2.ฉัตรเงินฉัตรทอง9ชั้น4ทิศ
3.ตั้งศาลเอก1ศาลศาลเพียงตา4ทิศ
4.ผลไม้7อย่างทั้ง4ศาล
5.อาหารเจพร้อมผลไม้ชุดใหญ่หน้าศาลเอกพร้อมบายศรี
6.บายศรีตองตั้งที่ศาลเพียงตาแห่งละ1คู่
7.เครื่องกระยาบวชข้าวตอกดอกไม้
8.อาหารคาวหวานเช่นหัวหมูเป็ดไก่ปลาเนื้อมะพร้าวอ่อน1คู่กล้วยํ้าว้า1คู่ขนมต้มแดง-ตัมขาวถั่วชนิดต่างๆงาดำงาขาวขนมผลไม้เหล้าขาวเหล้าแดงหมากพลูบุหรี่สำหรับเทวดาที่ถือศีล5ที่ยังชอบเหล้ายาปลาปิ้งของสดของคาวจัดแยกไว้ที่หน้าศาลเอกอีกโต๊ะต่างหาก
เมื่อถึงเวลาก็จุดธูป๙ดอกเทียนขี้ผึ้งแท้สีขาว๙เล่ม
ตั้งนะโม๓จบ
กล่าวสัคเคฯชุมนุมเทวดา
จบแล้วต่อด้วยบทสวดดังนี้
สัพเพธัมมานาลังอภินิเวสายะ๓จบ
เอกายะโนอะยังภิกขเวมัคโคสัตตานังวิสุทธิยา
โองการบวงสรวง
***ข้าแต่เทพยดาผู้มีความเป็นทิพย์มีฤทธานุภาพเหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลายตลอดจนพระภูมิเจ้าที่ณบริเวณนี้และบริเวณใกล้เคียงตลอดจนเจ้าป่าเจ้าเขาภูมิเทวดารุกขเทวดาท่านผู้เป็นหัวหน้าพร้อมบริวารข้าพเจ้าขอเชิญทุกท่านมารับเครื่องเซ่นสังเวยอาหารคาวหวานขอเชิญท่านทั้งหลายรับประทานได้ตามอัธยาศัยขอเทพยาดาทั้งหลายที่ข้าพเจ้าออกนามมาข้างต้นและมิได้ออกนามเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เมตตาแก่ข้าพเจ้าอวยชัยให้พรแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้ามีแต่ความสุขความเจริญทำกิจการงานใดขอให้สำเร็จตามที่ใจมุ่งหมายพร้อมกันนี้ข้าพเจ้าและคณะขอชมบารมีเหล็กไหลและขออนุญาตอันเชิญเหล็กไหลไปสักการะบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวข้าพเจ้าและครอบครัวสักระยะหนึ่งในอนาคตถ้าเหล็กไหลก้อนนี้จะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติทำประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาทำประโยชน์ให้แก่มนุษย์ด้วยกันข้าพเจ้าจะนำไปให้เขาบูชาเมื่อสมปรารถนาแล้วเงินที่ได้มานั้นข้าพเจ้าจะทำประโยชน์แก่ชาติและเพื่อนมนุษย์40%ทำประโยชน์ในพระพุทธศาสนา40%อีก20%ขอไว้ใช้เป็นส่วนตัว
หากข้าพเจ้าทรยศคดโกงไม่ทำตามสัจจะสาบานไว้ขอเทวดาและดวงวิญญาณรวมทั้งบริวารของท่านผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายจงลงโทษข้าพเจ้าให้พบกับความวินาศดับศูนย์ล่มจมถึงแก่ชีวิต***
การที่จะต้องให้สัจจะสาบานแบ่งผลประโยชน์แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนามากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวก็เพื่อให้เจ้าของเหล็กไหลหรือผู้ดูแลเหล็กไหลก้อนนั้นมีใจเมตตายอมมอบให้กับคณะผู้ค้นหาเพราะอาจจะเห็นว่าจะดูแลไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรถ้าให้คนเหล่านี้ได้ไปและขายได้ก็จะได้บุญจากคณะค้นหาที่สาบานไว้จะทำบุญ 80% จึงทำให้เทพผู้รักษานั้นไม่หวงสมบัติหรือเสียดายอย่างไรเพราะอยากได้บุญ
แต่ถ้าเทพผู้รักษาตรวจดูด้วยฌาณและมองเห็นว่าในอนาคตคณะค้นหาจะเกิดความโลภไม่ทำตามสัจจะที่ให้ไว้เพื่อไม่ให้เป็นบาปกรรมที่ต้องฆ่าคนท่านก็อาจจะไม่มอบเหล็กไหลให้ก็ได้เพราะท่านเหล่านี้ย่อมมีอำนาจที่จะพาของเหล่านี้ล่องหนหรือซุกซ่อนหาที่ใหม่ได้หรืออาจจะกำบังตาก็ได้
ด้วยเหตุนี้ผู้มีวิชาอาคมที่มีพลังจิตแก่กล้าบางครั้งก็จะถือโอกาสเข้าแย่งชิงด้วยความโลภเพียงว่าใครจะเก่งกว่ากันระหว่างเทพหรือวิญญาณผู้รักษาเหล็กไหลหรือเจ้าของเหล็กไหลนั้นจะอนุญาตหรือไม่ก็ต้องทำการเสี่ยงทายกันด้วยไหวพริบปฏิญาณอีกครั้งโดยอธิษฐานกล่าวออกมาดังๆว่า
"ข้าพเจ้านาย.......นามสกุล.........ขอเหล็กไหลที่อาศัยอยู่ในก้อนหินนี้ถ้าท่านผู้เป็นเจ้าของเหล็กไหลก้อนนี้หรือท่านผู้ดูแลเหล็กไหลก้อนนี้อนุญาตให้แก่ข้าพเจ้าขอให้ได้ยินเสียงว่าให้(เว้นระยะนิดหนึ่งแล้วพูดว่า"ให้")เป็นการพูดเองเออเองวิธีนี้ตามตาราไสยศาสตร์โบราณนิยมใช้กันมากเพราะถือเคล็ดที่ว่าถ้าหูเราได้ยินบอกว่า"ให้"ก็ถือว่าใช้ได้แสดงว่าเจ้าของอนุญาตแล้ว
วิธีล้อมวงสายสิญจน์ป้องกันอันตราย
เมื่อตั้งใจจะเรียก"เหล็กไหล"ออกมาจากก้อนหินก็ต้องป้องกันตนเองจากอันตรายต่างๆเสียก่อนเพราะภัยจากเจ้าของผู้ดูแลเหล็กไหลบริวารหรือวิญญาณที่เป็นมิจฉาทิฏฐิมาแกล้งทำลายพิธีกรรมซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เพราะฉะนั้นเครื่องลางของขลังที่มีอยู่ก็ต้องพกติดตัวไว้เสมอ
การวงสายสิญจน์นั้นเมื่อพบเห็นจุดที่สงสัยว่ามีเหล็กไหลอยู่ก็ต้องวงสายสิญจน์ล้อมรอบก้อนหินนั้นให้ห่างจากตัวเราหรือตัวเราหรือหมู่คณะประมาณ1วาวงล้อมจะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนหรือคณะที่มาถ้ามาเพียงคนเดียวไม้หลักที่จะปักผูกสายสิญจน์ก็น้อยวงก็เล็กถ้าคณะใหญ่มากก็ต้องวงสายสิญจน์ให้กว้างพอกับคณะที่มา
อุปกรณ์ในการล้อมวงสายสิญจน์
1.สายสิญจน์จากปากหลุมลูกนิมิตรใช้สำหรับผูกเหล็กไหล
2.ไม้ตาขอ9อันหรือ19อันให้ใช้ไม้ในป่าแถวนั้นแต่ถ้าให้เลือกไม้ที่มีรูปตาขอหรือลักษณะคล้ายตาขอเพื่อเอาเคล็ดว่า"ขอนะขอเถอะขอแล้วขอครับขอค่ะขอเล็กขอน้อยขอมากขอหมด"รวม9ขอสำหรับขอที่10เป็นไม้ขอพิเศษที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกอันและให้เลือกเนื้อไม้ที่แข็งกว่าทุกอันนำมาเขียนอักษรขอมหรือพระคาถาลงไปเป็นคำว่า"เหลือ"เขียนเสร็จแล้วจะต้องปลุกเสกด้วยคาถาชูชกดังนี้
"นะโม3จบ"
"ปะกาเสนโตตาชูชกคนโซขอใครไม่ได้ต้องให้กอขอขอ"
ตาขอพิเศษอันนี้ให้พกติดตัวตอนทำพิธีเป็นเคล็ดว่า"เหลือขอ"เพราะคำว่าเหลือขอนี้คงจะมีความหมายว่า"ลูกเหลือขอ"พ่อแม่ก็ส่ายหน้าครูบาอาจารย์ก็ส่ายหน้าด้วยเอาไว้ไม่อยู่มันเหลือขอจริงๆ
ช้างที่ว่าตัวใหญ่ที่สุดในโลกของประเภทสัตว์บกแต่ก็แพ้ตะขอหรือตาขอของควายช้างที่สับลงบนหัวแต่บางครั้งช้างมันก็รั้นและดื้อเอาการเอาตาขอสับเท่าใดก็ไม่ยอมอยู่ในคำสั่งไม่ยอมทำตามควาญช้างสั่งก็เรียกว่า"เหลือขอ"เหมือนกันและที่สำคัญไม้เหลือขอนี้ยังเสกด้วยพระคาถานักขอเอกของชูชกอีกด้วยดังนั้นจะขออะไรใครก็คงจะสำเร็จง่ายดาย
ดังนั้นการทำพิธีไม้เหลือขอนี้เพื่อว่าใครๆก็ส่ายหน้าไม่อยากยุ่งเกี่ยววิญญาณทั้งหลายก็รั้งเราไว้ไม่อยู่เสร็จแล้วนํ้าตาขอทั้ง9อันมาปักในดินตอนปักต้องท่องคาถากำกับไปด้วยแล้วจึงนำด้ายสายสิญจน์มาล้อมผูกบนไม้ตาขอเพื่อป้องกันไม่ให้สายสิญจน์ตกดินเพราะสายสิญจน์เปรียบเหมือนกำแพงบ้านกำแพงเมืองต้องอยู่กว่าพื้นดินถ้านั่งให้อยุ่ในระดับศรีษะ
ขณะที่ปักไม้หลักตาขอให้สวดบริกรรมดังนี้
"พุทโธพุทธะโอมเมอะมะอุปักดวงจิตดวงใจไว้กับแม่พระธรณีลูกฝากหลักชัยคุ้มภัยให้ลูกหมู่มารมาเป็นแสนแม่ยังช่วยให้พุทธพ้นภัยทาสีเนปะวิขะสะอะเมอุอันเชิญแม่พระธรณีมารักษาลูก"
ขณะนำด้ายสายสิญจน์มาผูกกับหลักก็ให้บริกรรมพระคาถาอีกบทหนึ่งดังนี้
"พุทผูกธะมัดสังรัดมิตรึง"
"พุทธังประสิทธิเมธัมมังประสิทธิเมสังฆังประสิทธิเม"
ผูกสายสิญจน์ล้อมเป็นวงกลมเวียนขวาหรือเวียนตามเข็มนาฬิกา
ขณะล้อมสายสิญจน์ก็ให้สวดพระคาถาอีกบทหนึ่งดังนี้
"พุทโธพุทธังนะกันตังอะระหังพุทโธ
ธัมโมธัมมังนะกันตังอะระหังธัมโม
สังโฆสังฆังนะกันตังอะระหังสังโฆ
นะโมพุทธายะนะมะพะทะจะภะกะสะพามานาอุกะสะนะทุ
พุทธะกันนะธัมมะกันนะสังฆะกันนะ"
#อิมัสมิงมงคลจักวาฬทั้ง8ทิศพุทธะประสิทธิเป็นกาแพงแก้ว7ชั้นป้องกันล้อมรอบขอบมณฑลอิระชาคะตะระสากายาดูแลรักษาด้วยธัมมังประสิทธิ์สังฆังประสิทธิ
#นะโมนะมัดกาจัดออกไปศัตรูทั้งหลายอย่าใกล้เสมามณฑล(พระคาถาท่อนท้ายนี้สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยทรงท่องเป็นประจำ)
ผู้ทำพิธีควรนุ่งขาวห่มขาวรักษาศีลให้บริสุทธิ์ต่อหน้าพระพุทธรูปหรือเครื่องรางของขลังที่นำมาเพราะเมื่อล้อมวงสายสิญจน์เรียบร้อยแล้วก็สวดมนต์เจริญภาวนานั่งกรรมฐานเพิ่มพลังจิตให้เข้มแข็งก่อนที่จะทำพิธีหาเหล็กไหลกันต่อไปเพราะอย่างน้อยจิตต้องทรงในระดับอุปจารสมาธิซึ่งเป็นสมาธิระดับเกือบปฐมญาณซึ่งพอจะสัมผัสรับรู้หรือเห็นนิมิตต่างๆได้ระดับหนึ่งแต่อาจทรงอยู่ไม่นานนัก
เมื่อจิตสงบดีแล้วก็กำหนดให้เห็นภาพเหล็กไหลหรือของขลังที่อยู่นั้นเคลื่อนตัวออกมาถ้าเป็นเหล็กไหลให้ใช้เทียนชัยหนัก9บาทเป็นเทียนที่ทำจากขี้ผึ้งแท้ไม่ใช่ทำจากไขมันวัวหรือควายเพราะไขมันสัตว์ถือเป็นของตํ่านอกจากรังผึ้งเท่านั้นที่ถือว่าเป็นของสูงยิ่งไขมันนํ้ามันจากตัวเหี้ยห้ามนำมาใช้ทำพิธีเด็ดขาดเพราะถ้างานมงคลใดถ้าใช้เทียนที่ทำจากตัวเหี้ยแล้วในคัมภีร์สมุดข่อยโบราณกล่าวไว้ว่านํ้ามันเหี้ยไขมันเหี้ยใช้ล้างอาถรรพ์ไสยศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามฉะนั้นเวลาทำเทียนชัยอย่าได้เอาของใครเป็นอันขาดต้องทำด้วยตนเองเพราะถ้ามีคนอิจฉาหรือต้องการทำลายพิธีหรือแย่งผลประโยชน์กันพิธีกรรมที่เตรียมไว้ก็จะถูกทำลายหรือฝ่ายตรงข้ามส่งคนแทรกซึมมาช่วยจัดหาเทียนชัยไว้ก็จะถูกลงอาคมคัดของขลังให้เสื่อมสลายการทำพิธีก็จะไม่สำเร็จหรือมีอุปสรรคฝ่ายตรงข้ามก็จะสวมรอยเข้าไปเอาเหล็กไหลหรือตัดเหล็กไหลไปได้
สำหรับความรู้ในเรื่องนํ้ามันเหี้ยแล้วไสยศาสตร์ทางแขกหรือคุณไสยทางแขกนั้นสามารถแก้ไขได้ทุกชนิดโดยไม่ยากเพราะในคัมภีร์โบราณ188ปีกล่าวไว้ว่าใช้นํ้ามันหมูหรือนํ้ามันเหี้ยปลุกเสกด้วยคาถาถอนทาทับของที่แขกทำจะเสื่อมทันที
นํ้ามันพรายที่อาจารย์แขกทำให้ศิษย์มาทาสาวพอแก้ด้วยนํ้ามันหมูผสมนํ้ามันเหี้ยวิญญาณผีพลายแขกร้องเสียงลั่นหนีไปสิงร่างคนที่อาจารย์แขกทำแล้วอาละวาดจนข้าวของพังเสียหายไปหมดดังนั้นเมื่อจะทำพิธีใหญ่ก็ควรจะระวังเรื่องเล็กๆน้อยเหล่านี้ด้วยเพราะจะทำให้พิธีเสียได้
พระคาถาเรียกเหล็กไหล
ดังนั้นเมื่อเหล็กไหลอยู่ในสถานที่ใดเป็นที่แน่ชัดแล้วก็ต้องใช้คาถาเรียกเหล็กไหลดังนี้
#โอมสวาโหมมามามะมะนะรักจะจิตตังพันธะนัง
#มะมาหาข้าพเจ้ามาเร็วๆพ่อคุณแม่คุณมาด้วยปิยะปิยัง
#นะร้องไห้โมคร่าครวญภะอยู่ไม่ได้คะรีบออกมาวาเป็นของข้าพเจ้า
#นะโมพุทธายะติดสะอะระหัง
#มะเชิญออกมาให้เห็นเป็นบุญตาอะให้อึดอัดอยู่ไม่ได้อุอุราร้อนใจดังไฟสุมออกมาทันใดอยัมภะทันตาทันใจ
ดังนั้นถ้าพลังจิตของอาจารย์ที่ทำพิธีมีพลังสูงกว่าเทพผู้รักษาเหล็กไหลเหล็กไหลนั้นจะเริ่มยืดย้อยออกมาก็จะมีการเอานํ้าผึ้งไปล่อให้เหล็กไหลกินแล้วค่อยๆลดนํ้าผึ้งให้อยู่ตํ่าลงเพื่อล่อเหล็กไหลให้ย้อยตัวตามนํ้าผึ้งซึ่งทำให้ได้เนื้อเหล็กไหลมากขึ้น
พระคาถาผูกเหล็กไหล
ขณะที่เหล็กไหลกำลังเพลินอยู่กับการเสพนํ้าผึ้งและพอเพียงที่จะทำพิธีตัดได้แล้วก็ให้เอาสายสิญจน์ที่จัดเตรียมไว้โดยได้ปลุกเสกไว้อย่างดีมาผูกโคนเหล็กไหลติดกับหินกันไม่ให้เหล็กไหลหดหนีกลับเข้าไปในหิน
พระคาถาสำหรับผูกเหล็กไหลว่าดังนี้
#นะโม๓จบ
#อิผูกติมัดปิรัดโสตรึงภะดึงคะอยู่วายอม
#นะโมนะมัดให้มัดเอาไปพุทธะพุทธังสังมิ
ดังนั้นเวลาผูกสายสิญจน์กับเหล็กไหลก็ต้องภาวนาพระคาถานี้ไปด้วยจนกว่าจะมัดเสร็จเมื่อผูกเสร็จเรียบร้อยแล้วนำเอามีดหมอซึ่งลงอาคมขอมจากเกจิอาจารย์พร้อมทั้งปลุกเสกมาแล้วอย่างดีตัดเหล็กไหล
พระคาถาตัดเหล็กไหล
การตัดเหล็กไหลนั้นจะต้องว่าคาถากำกับบางอาจารย์ใช้หวายผูกลูกนิมิตรมีดหมอกริชเงิน9ขดใบตาลเส้นผมขวานเล็กๆที่ทำขึ้นมาจากเทียนเข้าพรรษาประจำเดือนทารกหญิงที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่ๆอย่างใดอย่างหนึ่งมาประกอบพิธีกรรมตัดเหล็กไหลโดยบริกรรมคาถากำกับดังนี้
#นะอ่อนโมนิ่มพุทธเข้าธาขาดยะฤทธิ์เดชพินาศ
#ขาดด้วยมะอะอุนะมะพะทะ
#นะโมตัสสะตัดนะตัสสะขาด
การตัดเหล็กไหลนั้นบางอาจารย์ใช้มีดหมอลงอาคมขลังบางอาจารย์ใช้เส้นผมสาวพรหมจารีย์และหญิงนั้นไม่เคยโกนผมไฟมาก่อนแล้วนำผมสาวพรหมจารีย์ที่ไม่โกนผมมาที่ประจำเดือนของทารกแรกคลอด
มาถึงตรงนี้ผู้อ่านก็คงสงสัยว่าเด็กทารกที่ไหนจะมีประจำเดือนเพราะไสยศาสตร์ต้องใช้ของที่ค่อนข้างหาได้ยากมาทำเป็นของขลังเพราะความเป็นจริงแล้วเด็กทารกที่ไหนจะมีประจำเดือนมาแต่เป็นเรื่องสมมุติเอาว่าเลือดที่ติดในช่องเพศเด็กทารกหญิง(ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเลือดของมารดาตอนคลอดแล้วติดเปื้อนที่ตัวเด็ก)เป็นประเดือนของทารกหญิงแล้วนำมาทำของขลังไว้แก้อาถรรพ์ของสิ่งใดที่ตัดไม่ออกเอาประจำเดือนของเด็กทารกทาจะตัดออกโดยเอาเคล็ดว่าของที่ไม่เคยออกก็ยังออกของที่ออกยากที่สุดในโลกก็ยังออก
ดังนั้นเมื่อครั้งอาจารย์ชำนาญจอมไสยเวทย์ชาวเขมรได้นำคณะไปตัดเหล็กไหลเมื่อปี 2516 ก็ได้นำเส้นผมสาวพรหมจารีย์ที่ยังไม่เคยโกนผมไฟทาประจำเดือนทารกหญิงทำให้ตัดเหล็กไหลขาดทั้ง 3 ก้อนโดยมีสักขีพยานที่เป็นทั้งหมอทหารและตำรวจรู้เห็น
พระคาถาอัญเชิญเหล็กไหล
เมื่อตัดเหล็กไหลได้แล้วก็ต้องใช้คาถาอันเชิญธาตุกายสิทธิ์มาอยู่ด้วยเพื่อความเป็นศิริมงคลพระคาถาอันเชิญเหล็กไหลไว้บูชามีดังนี้
#พุทโธเมนาโถธัมโมเมนาโถสังโฆเมนาโถ
#สะกะพะจะปูชาจะบูชาท่านผู้ดูแลรักษาธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ทรงฤทธิ์อานุภาพ
#อิสะวาสุอิติปิโสภะคะวา
#เหล็กไหลเจริญมาเจริญยิ่งเจริญดีสิ่งดีๆทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาหาข้าพเจ้า
#สัมมะสัมมาสัมมาสัมมะมะอะอุ
#นะมะพะทะนะโมพุทธายะ
พระคาถาอาคมต่างๆที่ได้บันทึกไว้ในหนังสือนี้ยังไม่เคยปรากฏการตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนนับเป็นโชคดีของท่านผู้สนใจเพราะหาผู้รู้เรื่องเหล่านี้ยากไม่มีตำราจะให้ศึกษาเพราะคนโบราณจะหวงวิชาจะให้วิชาที่ตนรู้-ทำได้-ตายไปพร้อมกับตนเองเว้นแต่จะถ่ายทอดให้ลูกหลานเท่านั้นคนไหนเกเรก็ไม่ได้อีกเช่นกันบางครั้งก็ถ่ายทอดให้ไม่หมดเพราะกลัวศิษย์คิดล้างครูก็มีเหมือนกัน
เทพเทวาเป็นผู้มอบให้
เหล็กไหลประเภทนี้เกิดจากการอธิษฐานจิตของผู้ที่มีคุณธรรมที่มีความประสงค์จะขอบารมีจากเหล็กไหลเพื่อประโยชน์ในการทำนุบำรุงพระศาสนาโดยมิได้ใช้เวทมนต์วิชาการต่างๆไปบีบคับหรือแย่งชิงเอาแต่อาศัยบุญบารมีที่ตนเองได้เคยบำเพ็ญมาแต่ครั้งอดีตชาติและเคยเป็นเจ้าของสิ่งนี้มาก่อน
เมื่อถึงเวลาเหล่าเทพเทวานาคนาคาคนธรรพ์ยักษ์ผู้ดูแลรักษาสิ่งเหล่านี้จะนิมิตบอกให้รู้เพื่อให้มารับเอาของสิ่งนี้ซึ่งเป็นของคู่บารมีไปรักษาเพราะผู้มีบารมีในที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่รักษาศีลหรือปฏิบัติมาก่อนจึงมีญาณหยั่งรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอดีตตนเองได้ค่อนข้างมากจึงสามารถเป็นเจ้าของเหล็กไหลนี้ซึ่งจะเป็นการพบโดยบังเอิญหรือได้มาด้วยความศรัทธาจากการบูชาหรือจะด้วยแรงอธิษฐานหรือนิมิตบอกก็ตาม
แผ่บารมีทิ้งไว้เมื่อถึงเวลาจุติ
เหล็กไหลประเภทนี้เกิดจากเทพพรหมเทวาผู้รักษาเหล็กไหลได้บำเพ็ญบารมีธรรมจนเข้าสู่อริยมรรคหรือพ้นจากวิบากกรรมบางอย่างจะจุติในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปก็จะทิ้งธาตุขันธ์หรือสิ่งที่เคยรักษาไว้อยู่โดยการอธิษฐานจิตทิ้งเอาไว้ในถํ้าหรือสถานที่ลึกลับให้เทพเทวาหรือยักษ์คนธรรพ์คอยเฝ้ารักษาจนกว่าจะพบผู้ที่มีบารมีธรรมพอจะรักษาสิ่งเหล่านี้ให้ก็จะมอบให้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้
1.เหล็กไหลที่เคยไหลผ่านไปมาตามซอกถํ้าซอกผามีลักษณะเป็นแผ่นๆเป็นปื้นเป็นก้อนขนาดต่างๆฝังตัวอยู่ตามซอกหินในถํ้าที่ลี้ลับรอเวลาผู้มีวาสนาเอาไปทำประโยชน์เหล็กไหลประเภทนี้จะไม่ไหลย้อยเคลื่อนที่ไปไหนอีกแต่จะถูกพรางตาจากบุคคลผู้ไร้วาสนาหากผู้มีวาสนาได้พบเห็นและทำพิธีให้ถูกต้องก็จะมีฤทธิ์อำนาจเป็นเหล็กไหลชั้น1ได้เหมือนกัน
2.องค์เหล็กไหลสำหรับผู้มีบารมีที่เข้าไปบำเพ็ญฌาณตามป่าเขาหรือถํ้าลึกลับเทพผู้รักษาจะมอบให้ถ้าต้องการ
พิธีกรรมทดสอบบารมีเหล็กไหล
ในการทดสอบบารมีของเหล็กไหลนั้นจะทาเป็นเล่นๆหรือเพื่อความรู้อย่างเดียวหาได้ไม่เพราะเหล็กไหลในที่นี้มีจิตวิญญาณครอบครองมีความรู้สึกรักโกรธเกลียดชอบหรือดีเฉกเช่นความรู้สึกของสัตว์โลกทั่วไปที่ยังไม่พ้นความเป็นปุถุชนเพียงแต่อาศัยธาตุขันธ์ประกอบเข้ากันใช้เป็นที่อยู่อาศัยโดยใช้บุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ความเป็นเทพในระดับภพภูมิต่างๆแฝงเข้าอาศัยอยู่ดังนั้นมีใครคิดไม่ซื่อหรือไม่ดีที่จะมาทาลายหรือมุ่งร้ายด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์จะมีการต่อต้านหรือต่อสู้เกิดขึ้นได้เช่นกันเช่นทาให้อานุภาพของดินปืนชื้นจนยิงไม่ออกบางครั้งผู้ที่ทดสอบด้วยปืนจะถูกเหล็กไหลต่อสู้ยื้ดยุดฉุดรั้งปืนหรือแขนไว้จนไม่สามารถจะยิงได้จนสุดท้ายถูกสิ่งที่มองไม่เห็นถีบหน้าอกหรือจุกแน่นหน้าอกจนไม่สามารถทาการยิงได้บางครั้งล้มลงทั้งยืนเลยก็มี
ผู้อ่านหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่หรือเกินความจริงไปหรือเปล่าแต่สิ่งเหล่านี้รอการพิสูจน์จากผู้ที่สนใจและต้องการสิ่งที่มีอานุภาพในการปกป้องคุ้มครองไม่ใช่จากนายหน้าหรือผู้ที่หากินทางอาชีพยิงเหล็กไหลโดยหลอกว่ามีนายทุนใช้ให้มาทดสอบบ้างมีการวางเงินเดิมพันบ้างมิฉะนั้นถ้าพบของจริงอย่างที่ว่าแล้วท่านอาจจะพบกับเหตุการณ์ที่น่าสพึงกลัวจากสิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้ได้โดยง่ายก็ได้แต่สิ่งเหล่านี้ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงสดๆร้อนๆต่อหน้าสายตาคนนับร้อยดังที่จะกล่าวถึงในโอกาสต่อไป
เครื่องบูชา
1.บายศรีเทพบายศรีพรหมบายศรีตอง
2.ฉัตรเงินฉัตรทอง9ชั้น4ทิศ
3.ตั้งศาลเอก1ศาลศาลเพียงตา4ทิศ
4.ผลไม้7อย่างทั้ง4ศาล
5.อาหารเจพร้อมผลไม้ชุดใหญ่ตั้งศาลเอกพร้อมบายศรีเทพ1คู่บายศรีพรหม1คู่
6.บายศรีตองตั้งศาลเพียงตาอย่างละ1คู่
7.เครื่องกระยาบวชข้าวตอกดอกไม้
8.คนอ่านโองการอัญเชิญ
สำหรับพิธีกรรมต่างๆนั้นสุดแท้แต่ความประสงค์ของเทพที่รักษาที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างในการจัดทำพิธีในสถานที่แห่งหนึ่งเท่านั้น
หลังจากทำพิธีอันเชิญบอกกล่าวขออนุญาตจากเทพผู้ปกปักรักษาเหล็กไหลก็เป็นหน้าที่ของผู้ทำการทดสอบส่วนใหญ่จะเป็นไม้ขีดหรือปืนยิง3นัดสุดแท้แต่เงื่อนไขปลีกย่อยที่จะตกลงกันเองซึ่งจะต้องใช้วิจารณญาณของตนเองอย่าให้ตกเป็นเครื่องมือหากินของกลุ่มผู้ไม่สุจริตเท่านั้นผู้ซื้อจริงๆนั้นมีน้อยอย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้าง่ายๆหรือฟังคนบอกว่าเป็นนายทุนมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านซึ่งก็ยากแก่การตรวจสอบพอผ่านการทดสอบสอบจริงๆแล้วนายทุนที่ว่าไม่มีเงินจ่ายก็อาจเดือดร้อนได้ในภายหลังเหมือนกันซึ่งส่วนใหญ่จะมีหลักเกณฑ์ดังนี้
1.นายหน้าจะต้องมีเงินค่าบูชาครูในการจัดตั้งปรำพิธีหรือของใช้ในพิธีซึ่งสุดแท้แต่พิธีเล็กหรือใหญ่ประมาณ30,000บาทขึ้นไป
2.ค่าใช้จ่ายของฝ่ายนายทุนผู้ทดสอบการยิง30,000บาท
3.เงินมัดจำหรือเงื่อนไขการจ่ายเงินเมื่อการทดสอบผ่านเรียบร้อยเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังทุกขั้นตอนเหมือนกันเพราะมีเล่ห์เหลี่ยมของผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์จากความโลภของคนเราได้ง่ายเหมือนกันดังข่าวที่ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์เป็นประจำ
ขั้นตอนการทดสอบ
1.จุดธูปบอกกล่าวขอชมบารมีและขอขมาโทษหากได้ล่วงเกินต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้
2.ทดสอบอาวุธปืนโดยทดสอบยิงขึ้นฟ้า1นัดเล็งเป้าหมายระยะไม่เกิน2เมตรแล้วเหนี่ยวไกปืน
3.กรณีเป็นไม้ขีดเมื่อเปิดรังเหล็กไหลแล้วประมาณอึดใจก็ทดสอบขีดดูก็จะรู้ผลหากชึ้นชุ่มขีดไม่ติดทุกก้านก็ผ่านตามข้อตกลง2กล่องหรือมากกว่านั้น
ผลจากการทดสอบการยิง
ทั่วไปแล้วจะกำหนด3นัดยิงไม่ออกจึงจะผ่านและระหว่างทำการทดสอบหากปืนจะขัดข้องด้วยประการใดๆจนไม่สามารถทำการยิงได้หรือผู้ยิงมีอาการจุกแน่นหรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งจนไม่สามารถทำการยิงได้ก็ถือว่าผ่านดังนั้นเมื่อถึงเวลาทดสอบแล้วจะเปลี่ยนอาวุธหรือคนยิงใหม่ไม่ได้จะต้องถือว่าผ่านเช่นกัน
จากการชมบารมีของเหล็กไหล2องค์สีเขียวคล้ายหยกอ่อนและเขียวอมฟ้าปรากฎผลมหัศจรรย์ดังนี้
1.ถ่ายรูปไม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเหล็กไหลโดยถูกวิธีเพราะมีผู้พยายามจะถ่ายรูปกดชัตเตอร์ถึง3ครั้งกล้องไม่ทำงานทั้งตรวจสอบกล้องมาอย่างดีและไม่ได้นำไปใช้ที่ใดเลยในระหว่างการเดินทาง
2.แม้จะอนุญาตให้ถ่ายได้บางครั้งเหล็กไหลไม่ให้ถ่ายบางภาพหน้ากล้องจะถูกปิดโดยอัตโนมัติทันที
3.ไฟหรี่ลงเองแอร์จะดับเครื่องยนต์ดับเอง
4.ผู้ที่ทดสอบเหล็กไหลประเภทนี้จะมีอาการจุกแน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยออกเมื่อจะเล็งเป้าไปที่เหล็กไหลจะรู้สึกมือไม้หนักจนยกปืนไม่ขึ้นเมื่อขืนทำเหมือนจะถูกเหนี่ยวรั้งไว้จนคนที่อยู่ในบริเวณจะเห็นได้ชัดเจนถึงความผิดปกติในตรงนี้
5.เมื่อเหนี่ยวไกปืนจะไม่ดังคือยิงไม่ออกมีเสียงสับนกดังแชะเท่านั้น
6.ถ้าเหล็กไหลสู้หากฝืนครบจน3นัดจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนร้องออกมาด้วยความตกใจและหงายหลังล้มลงทันทีมือไม้สั่นกระตุกจนเห็นได้ชัดบางคนง่ามมือฉีกบางทีก็ปืนแตกบางคนชักดิ้นชักงอต่อหน้าเดี๋ยวนั้นทันที
7.หากเหล็กไหลหนีจะพุ่งแรงเห็นเป็นลำแสงวิ่งขึ้นฟ้าพร้อมเสียงหวีดแหลมชั่วพริบตาเท่านั้น
8.บางครั้งเมื่อครบ3นัดคนยิงถูกเหล็กไหลกระแทกกลับจนหงายหลังแล้วจะพบว่าองค์เหล็กไหลไม่ได้อยู่ที่เดิมเสียแล้วบางครั้งกระโดดลงไปในถาดผลไม้เครื่องบูชาถ้าถ่ายวีดีโอจะมองเห็นเป็นลำแสงสีแดงวิ่งพุ่งลงไปบางครั้งเอาใส่เซฟที่ผู้ทดสอบจัดหามาวางเปิดให้เห็นในเซฟแล้วทดสอบเหล็กไหลกระโดดมาอยู่บนจานเชิงเทียนขนาดใหญ่ที่วางตั้งอยู่ใกล้ๆกันทั้งที่มีสายตาหลายสิบคู่มองกันแทบไม่กระพริบแต่ไม่มีใครสังเกตุว่ากระโดดออกมาจากเซฟหรือพานรองรับเมื่อไร
ดังนั้นผู้ทดสอบชมบารมีเหล็กไหลจริงๆแล้วจะต้องระมัดระวังอันตรายจากจุดนี้ด้วยจนผู้ที่รู้ดีจะเสี่ยงใช้เทียบลูกปืนหรือก้านไม้ขีดแทนดูจะปลอดภัยกว่าด้วยประการทั้งปวง
เหตุผลทั้งนี้ทั้งนั้นในเมื่อเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีชีวิตจิตวิญญาณมีความรู้สึกเหมือนกับเราหากเป็นมนุษย์ธรรมดาต่อให้สนิทกันขนาดไหนลองเอาปืนไม่มีกระสุนแล้วเล็งมาพร้อมโก่งไกไว้ท่านจะพอใจหรือไม่?
ดังนั้นอาถรรพณ์ของเหล็กไหลทางป้องกันและรักษาจึงค่อนข้างมีอานุภาพและอิทธิฤทธิ์นานาประการสุดแท้แต่ความประสงค์ที่จะอธิษฐานเอาและเพื่อเผยแพร่เรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ให้แก่ผู้สนใจได้รับทราบและศึกษากันต่อไป
|