ภาพที่ 1 ช่วงนี้หน้าฝน ... ฝนตกฟ้าคะนองไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะเมื่อเราไปตกปลากัน หนีไม่ทันควรทำตัวยังไงที่ทำให้เรามีโอกาสโดนฟ้าผ่าน้อยที่สุดมาฝากกันครับ
ตามสถิติฟ้าผ่ารุนแรงที่สุดจะมีกระแสไฟฟ้ามากถึง 2 แสนแอมแปร์ หากคนโดนฟ้าผ่าก็จะตายสถานเดียว เพราะมีความร้อนจำนวนมากไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายไปพร้อมๆกับกระแสไฟฟ้า ทำให้น้ำในเซลล์ระเหยออกมา และทำให้เซลล์แห้งตาย หากกระแสไฟฟ้าไหลเข้าหัวใจๆ เซลล์หัวใจก็จะไหม้ และหัวใจจะหยุดเต้น ส่วนในรายที่โชคดีจริงๆ ซึ่งรอดจากฟ้าผ่าได้ เนื่องมาจากกระแสไฟฟ้าไม่ได้ไหลเข้าสู่ร่างกาย หรือไหลเข้าสู่ร่างกายน้อย แต่กระแสไฟฟ้าส่วนมากจะไหลจากผิวหนังไปลงดิน ทำให้มีบาดแผลเป็นรอยไหม้ที่ผิวหนังเท่านั้น
วิธีเลี่ยงที่ดีที่สุด คือ อย่าเข้าไปในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้อย่าอยู่ใกล้ต้นไม้สูง และพยายามหลบเข้าอาคารหาที่กำบังที่เป็นลักษณะอาคาร แต่ถ้าติดอยู่ในที่โล่งแจ้งก็ให้ทำตัวเองให้เตี้ยที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงการพกพาสื่อนำไฟฟ้าที่เป็นโลหะ พร้อมทั้งให้ข้อสังเกตว่า หาก เห็นสายฟ้าแลบ ฟ้าผ่าในลักษณะตรงๆ หรือเอียงไม่เกิน 45 องศา แสดงว่าพายุกำลังเคลื่อนตัวมาหาเรา หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง แต่ถ้าลักษณะฟ้าแลบ ฟ้าผ่าเอียงเกิน 45 องศา แสดงว่าพายุกำลังเคลื่อนตัวหนีจากตำแหน่งที่เราอยู่
กรณีอยู่ที่โล่งแจ้ง
* อย่าอยู่รวมกลุ่ม (เพราะเวลาตายจะได้ตายคนเดียว 55555 ขำๆนะน้า)
* อย่าอยู่ใต้ต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ หากมีต้นไม้รวมเป็นกลุ่มให้เลือกต้นเตี้ยๆ
* อย่าอยู่ที่สูง หรือชูของสูง เช่น ร่ม เบ็ดตกปลา ถุงกอล์ฟ
* ถอดวัตถุที่เป็นโลหะออกจากร่างกาย
* อย่าอยู่ในสระน้ำหรือแหล่งน้ำ
* อย่าอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ
* หลีกเลี่ยงวัตถุที่เป็นโลหะ
ท่านั่งที่ปลอดภัยในที่โล่ง
กรณีที่อยู่กลางแจ้งและไม่สามารถหาที่ที่เหมาะสมกว่าได้ ก็ให้นั่งทำตัวอยู่ต่ำมากที่สุด คือ นั่งยองๆ ขาชิดกันที่พื้น มือปิดหู เขย่งปลายเท้า แต่ห้ามนอน ซึ่งวิธีนี้ก็จะลดความเสี่ยงได้มาก เพราะจะช่วยลดค่าความต่างศักย์ ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
กรณีอยู่ในรถ
* อย่าสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ โดยนั่งกอดอกหรือวางมือบนตัก
* ปิดหน้าต่างทุกบาน
* อย่าจอดใต้ต้นไม้ใหญ่
* อย่าใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์แฮนด์ฟรี
กรณีอยู่ในอาคาร
* ปิดประตูหน้าต่าและเข้าไปอยู่ในห้องชั้นใน ซึ่งปลอดภัยกว่าห้องที่มีทางออกภายนอก
* หลีกเลี่ยงจุดที่ไฟสามารถวิ่งเข้าถึงได้ผ่านสายไฟ สายอากาศ สายโทรศัพท์ และท่อน้ำ
* ถอดสายไฟ สายอากาศ สายโทรศัพท์ สายโมเด็ม ก่อนเกิดฝนฟ้าคะนอง
* อย่าใช้โทรศัพท์แบบมีสายในอาคาร เนื่องจากกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าจะวิ่งผ่านอุปกรณ์ ด้านนอก
อาคารที่ต่อกับสายโทรศัพท์ แล้วเข้ามาทำอันตรายผู้ใช้โทรศัพท์ได้โดยตรง
สัญญาณเตือนฟ้าผ่า
* สัญญาณจากร่างกาย เมื่อรู้สึกขนลุก หรือเส้นผมตั้งขึ้น แสดงว่ากำลังเสี่ยงถูกฟ้าผ่า เนื่องจากขนและเส้นผมถูกเหนี่ยวนำอย่างแรง
* สัญญาณ 30/30 โดยเลข 30 แรก หมายถึง หากเห็นสายฟ้าแลบ แล้วตามด้วยเสียงฟ้าร้องในเวลาไม่เกิน 30 วินาที แสดงว่าเมฆฝนฟ้าคะนองอยู่ใกล้มาก พอที่ฟ้าผ่าจะทำอันตรายเรา
ได้ ดังนั้นให้หาที่หลบที่ปลอดภัยทันที ส่วนเลข 30 หลัง หมายถึง หลังฝนหยุดตก และไม่มีเสียงฟ้าร้องแล้ว ให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัยอย่างน้อย 30 นาที ทั้งนี้แม้ช่วงท้ายของฝนฟ้า
คะนอง และอยู่ห่างในระยะ 30 กิโลเมตร แล้วก็อาจเกิดฟ้าผ่าได้
*************** " แล้วที่สำคัญที่สุด คือ อย่าอยู่ใกล้คนที่ชอบสาบาน ขอให้ฟ้าผ่าตาย 555555555555555 " ******************