สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 ธ.ค. 67
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 16 - [18 พ.ค. 54, 20:37] ดู: 5,186 - [9 ธ.ค. 67, 13:40] โหวต: 2
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
anastasia offline
7 พ.ค. 54, 22:24
1
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 1
1 เอลิซาเบธ บาโธรี่ (Elizabeth Bathory)
( 1560-1614) แน่นอนอันดับ 1 น้อยคนนักจะไม่รู้จักเธอ นักฆ่าชื่อเหม็นที่สุดในฮังการีและของโลกที่ฆ่าคน เพราะคิดว่าถ้าเอาเลือดมา ชำระร่างกายผิวเธอจะสวยสดตลอดกาล......โดยเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อมีข่าวลือ หลายปีเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงชาวไร่ชาวนาหายไปในเขตการปกครองของพระองค์ จนกษัตริย์แมทเทียสที่ 2 ต้องออกมาทำการตรวจค้นที่ปราสาทของเธอและจนได้พบศพของเด็กหญิงที่ตายอย่าง โหดร้ายสุดจะบรรยาย เช่น ร่างพรุนด้วยเข็ม ศพไหม้ หรือศพโดนตัดแขนหรือขาหรือส่วนสำคัญของร่างกายออก บางศพมีการบิดเนื้อบิดหน้าแขน และส่วนเกี่ยวกับร่างกายอื่นๆ และทำให้อดอาหารตาย โดยเหยื่อทั้งหมดถูกคิดว่าให้ตัวเลขเกินกว่าร้อยศพ แต่เนื่องจากสถานะเกี่ยวกับสังคมของเธอจึงไม่ถูกประหาร แต่ให้ขังตลอดชีวิตในห้องขังเดี่ยวๆ ใต้หอคอยแทนจนกระทั้งขาดใจตายในที่สุด
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 2
2 แคทเธอรีน ไนท์ (Katherine Knight)
(1956 - ??) แคทเธอรีน ไนท์ สตรีชาวออสเตรเลียนคนแรกให้ประหารชีวิตโดยไม่มีการอุทธรณ์ เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าสามีเธออย่างโหดมที่สุดเท่าที่โลกมีมา เธอเคยบดฟันปลอมของสามีเก่าคนหนึ่งของเธอจนแหลกละเอียด และปาดคอลูกสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ของสามีอีกคนหนึ่งก่อนจะเชือดตาของเขาออก แต่ดังที่สุดคือคดีฆ่า นายจอห์น ชาร์ล โธมัส ไพรซ์ เมื่อนายไพรซ์ยื่นฟ้องต่อนางแคทเธอรีนขอหย่า จนนางไนท์แค้นมาก เลยใช้มีดแล่เนื้อ แทงนายไพรซ์ถึงแก่ความตาย เขาถูกแทงอย่างน้อย 37 ครั้ง ทั้งหน้าและหลังและหลายแผลแทงทะลุอวัยวะภายในที่สำคัญหลายแห่ง จากนั้นเธอก็ถลกหนังเขาแล้วแขวนหนังที่ถลกแล้วไว้กับ ขอบประตูห้องนั่งเล่น ตัดหัวเขาออกแล้วใส่ในหม้อซุป อบส่วนสะโพกบั้นท้ายของเขา แล้วเตรียมน้ำเกรวี่และผักเพื่อเป็นเครื่องเคียงเนื้ออบ โดยอาหารมื้อพยาบาทนี้ถูกจัดเตรียมไว้ให้เด็กๆ ในบ้านกิน........ แต่โชคดีที่ตำรวจมาเจอก่อนที่เด็กๆจะกลับถึงบ้าน
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 3
3 เออร์ม่า เกรเซอ (Irma Grese)
(1923 -1945) อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าภูมิใจ(ในความอัปยศ)ของนาซีในยุคหลัง เออร์ม่า เกรเซอ หรือ "หญิงเลวแห่งเบลเซ่น" เธอเป็นทหารรักษาการณ์ที่แคมป์กักกันเรเวนส์บรุคค์, ค่ายนรกเอาสช์วิทซ์ และ เบอร์เย่น - เบลเซ่น ถูกย้ายมาประจำการที่เอาสช์วิทซ์ในปี1943 โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลสำรองพิเศษหน่วยควบคุม ดูแล ซึ่งเป็นยศที่ใหญ่เป็นลำดับสองของทหารหญิงในค่าย ในวันสิ้นปี เธอจับนักโทษหญิงชาวยิวกว่า 30,000 คน มาสนุกกับเกมส์ของเธอ ประกอบด้วย ทารุณกรรมเหล่านักโทษด้วยให้สุนัขที่ถูกฝึกฝนและกำลังหิวโหยกัด, การทารุณกรรมทางเพศต่างๆจนนักโทษรับไม่ไหว, การยิงปืนตามอำเภอใจ, การตีอย่างทารุณด้วยแส้แบบเปีย และเลือกนักโทษเข้าห้องรมแก๊ส เธอชอบเรื่องซาดิสต์ทรมานคนมากๆ จนนักโทษหลายคนในค่ายรู้จักเธอดีในภาพลักษณ์หญิงใส่รองเท้าบูทหนักและพกปืน สั้นเพื่อให้สะดวกในการทรมานนักโทษ
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 4
4 อิลซ่า คอชห์ (Ilse Koch)
(1906 - 1967) ได้รับฉายาเยอะจริงสำหรับผู้หญิงคนนี้ เช่น "นางแม่มดแห่งบูเชนวาล์ด" , "หญิงเลวแห่งบูเชนวาล์ด" เธอเป็นภรรยาของนายพลคาร์ล คอชห์ ผู้บัญชาการแห่งค่ายกักกันของนาซีประจำค่ายบูเชนวาล์ ด(1937-1941) และมาจดาเนค (1941-1943) เธอเป็นคนบ้าอำนาจมากและเมื่อเธอได้ทำงานแทนสามี เธอก็มีเวลาว่างแสนสนุกสนานกับการทรมานและข่มขืนนักโทษในค่ายกักกันจนฉาวโฉ่ จนเป็นที่ร่ำลือในความโลกีย์ ว่ากันว่ารอยสักตามตัวของเธอนั้นจากการสังหารคนในค่ายกักกันหนึ่งคนต่อ หนึ่งขีด (ขีดในร่างกายเธอมีประมาณ 250,000 ขีด!!) แต่ผลสุดท้าย เธอแขวนคอฆ่าตัวตายใน เรือนจำหญิงอิคช์แอคช์ ในวันที่ 1 เดือนกันยายน ปี 1967

10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 5
5 แมรี่ แอนน์ คอตต้อน (Mary Ann Cotton)
(1832 - 1873) นางแมรี่ แอนน์ คอตต้อน สตรีชาวอังกฤษ เป็นนักฆ่าต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์อีกรายหนึ่ง แต่งงานเมื่ออายุ 12 ปีกับ นายวิลเลียม มาวเบรย์ คู่แต่งงานใหม่นี้อาศัยที่ไพลเมาท์ เมืองเดวอน ต่อมาพวกเขามีลูกด้วยกันห้าคน สี่คนตายเพราะโรคกรดในกระเพาะอาหารและปวดท้องอย่างรุนแรง จากนั้นพวกเขาก็ย้ายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่เหตุการณ์ร้ายก็ยังตามมา เมื่อลูกที่เลี้ยงตายถึงห้าคนในระยะเวลาไล่เลี่ยงกัน ต่อมานานวิลเลียมก็ตามลูกๆ ไปด้วยโรคลำไส้ไม่ทำงานในเดือนมกราคม ปี 1865 ประกันสังคมของอังกฤษจ่ายเงินสินไหมชดเชยให้เธอถึง 35 ปอนด์สเตอริง แต่เหตุการณ์ร้ายก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะต่อมา สามีคนที่สองของเธอ จอร์จ วาร์ด ก็เสียชีวิตเพราะปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เช่นเดียวกับหนึ ่งในลูกอีกสองคนที่ เหลือของเธอ ด้วยการตายถี่ของคนในครอบครัวแมรี่ทำให้มีการสอบสวนเ กิดขึ้น จนพบว่า นาง แมรี่ แอนน์ มีความผิดฐานวางยาสามีสามคน, คู่รัก, เพื่อน, แม่ของเธอ, และลูกๆอีกหนึ่งโหล ทั้งหมดเสียชีวิตจากอาการป่วยที่ท้อง ผลคือเธอถูกแขวนคอที่ เดอร์แฮม เคนท์ตี้ กาออล ในวันที่ 24 เดือนมีนาคม ปี 1873 ด้วยข้อหาฆาตกรรมด้วยการวางยาพิษสารหนู เธอตายอย่างช้าๆ เพราะเพชฌฆาตใช้เชือกแขวนคอสั้นเกินไปสำหรับการประหาร
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 6
6 เบลล์ กันเนส (Belle Gunness)
(1859 - 1931) เบลล์ กันเนส เจ้าของฉายา "ผู้หญิงเคราน้ำเงิน" เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องหญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดในอเ มริกา ด้วยส่วนสูง 6 ฟุต (183 เซนติเมตร) และหนักกว่า 200 ปอนด์ (91 กิโลกรัม) เชื้อชาตินอร์วีเจียนที่ตัวใหญ่และแข็งแรง โดยเธอใช้ร่างกายอันใหญ่ยักษ์นี้สังหารสามีของเธอทั้ งสองคนและลูกๆทั้งหมด ของเธอโดยฆ่าเพื่อหวังเงินประกันชีวิตและขโมยทรัพย์ส ินเอามาเข้ากระเป๋าของ เธอ นอกจากนั้นยังมีรายงานมากมายว่าเธอน่าจะฆ่าคนมากกว่า หนึ่งร้อยราย แต่เธอดันชิงฆ่าตัวตายก่อนโดยการเผาตนเองพร้อมบ้าน แต่ผลชันสูตรศพของเธอนั้นหลายฝ่ายไม่เชื่อว่าศพนี้เป ็นของเธอ เพราะศพนั้นเตี้ยกว่าส่วนสูงของเบลล์ถึงหกฟุต ต่างกันถึงสองนิ้ว ??

10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 7

7 เบเวอรี่ เอลลิทท์ (Beverly Allitt)
(ค.ศ. 1968-??) ได้รับฉายาหนึ่งว่า "นางฟ้าแห่งความตาย" เบเวอรี่ เกลิ เอลลิท หนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่ชาวอังกฤษที่เป็นที่รู้จักก ันดี เธอทำงานเป็นนางพยาบาลดูแลเด็ก และถูกจับในข้อหาฆาตกรรมเด็ก 4 คน และทำให้บาดเจ็บสาหัสอีก 5 คน(ที่จริงมากกว่านั้น) โดยการฉีดสารอินซูลินหรือโพแทสเซียมที่ใช้เพื่อเร่งการทำงานของหัวใจมากเกิน ไป จนเด็กตายอย่างทรมาน ซึ่งปัจจุบันเธอยังอยู่ในคุกเพราะอังกฤษไม่มีโทษประหารชีวิต



10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 8
8 ราชินิ อิสเบลล่า แห่ง แคสไทล์ (Isabella of Castile)
(1451 - 1504) ราชินิอิซซาเบลล่าที่หนึ่ง แห่งสเปน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้อุปถัมภ์ของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส กับพระสวามีของพระนาง กษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งราชวงศ์อารากอน ทั้งสองพระองค์ร่วมกันมีส่วนในการรวมประเทศสเปนภายใต ้การนำของหลานชายของ พระองค์ โดยแผนการรวมชาตินี้ ราชินิอิสเบลล่าได้ แต่งตั้งให้ นายพล โทมาส เดอ ทอร์คิวมาดา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน (แบบทรมาน) รุ่นแรกๆ เป็นผู้บัญชาการในการสอบสวนทรมาน จนวันที่ 31 เดือนมีนาคม ค.ศ.1492 มีบันทึกว่าเป็นวันออกกฤษฎีกาแอลฮัมบราโดยมีคำสั่งขั บไล่ ชาวยิวและชาวมุสลิมออกนอกประเทศ นอกจากนั้นประชาชนราว 2 แสนคนที่หลงเหลืออยู่ในประเทศสเปนถ้าไม่เปลี่ยนศาสนา จะถูกจับมาลงโทษอย่าง ทารุณ ในปี ค.ศ. 1974 สันตะปาปาพอลที่ 6 กล่าวถึงการกระทำของพระนางว่าสมควรทำและอวยพร ให้พระนางเป็นนักบุญ ในโบสถ์นิกายคาทอลิก ในฐานะข้ารับใช้ของพระเจ้า.....

10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 9
9 ไมร่า ฮินด์ลีย์ (Myra Hindley)
(1942 - 2002) ไมร่า ฮินด์ลีย์ และคู่รักเอียน เบรดี้ เป็นผู้ก่อคดี "ฆาตกรรมแห่งท้องทุ่ง" โดยเหตุเกิดที่แถวเมืองแมนเชสเตอร์ในสหราชอาณาจักรใน ราวช่วงทศวรรษที่ 60 ฆาตกรโหดคู่นี้ถูกจับเพราะกระทำการลักพาตัว, ทารุณกรรมทางเพศ, ทรมานและฆาตกรรม เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 3 คน และเด็กวัยรุ่นอายุ 16 และ 17 ปี โดยหลักฐานที่พบประกอบด้วย เทปที่บันทึกระหว่างกำลังฆาตกรรมที่มีเสียงผู้ตายกำล ังกรีดร้อง ขณะที่ไมร่าและเบรดี้กำลังข่มขืนและทรมาน ในระหว่างการสอบสวนและวันตัดสินเธอยังมีท่าทีกินลูกอ มอย่างไม่สะทกสะท้าน ซ้ำทำตัวท่าทางกร่างและแสดงความยโสโอหัง จนกลายเป็นลักษณะพิเศษที่เป็นที่จดจำของเธอ จนกลายเป็นบุคคลคนที่ชาวอังกฤษเกลียดชังที่สุดในประว ัติศาสตร์
10 อันดับผู้หญิงที่โหดโลกไม่ลืม
ภาพที่ 10
10 ควีนแมรี่ ที่ 1 (Queen Mary I)
(1516 - 1558) ราชินีแมรี่เป็นพระธิดาพระองค์เดียวใน กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 และพระนางแคทเธอรีน แห่งอารากอน พระองค์เคยเกือบสวรรคตในช่วงวัยทารกมาแล้วแต่รอดมาได ้ และขึ้นครองราชย์สมบัติหลังจากพระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 6 สิ้นพระชนม์ ด้วยการปลดราชินีเก้าวันอย่าง เลดี้เจน เกรย์ออก และเมื่อขึ้นครองราชย์แทน โดยชูนโยบายที่พระองค์เน้นมากคือการที่ทำให้อังกฤษเป ็นประเทศที่นับถือนิกาย คาธอลิกอย่างเดียว พระองค์เลยคิดหาทางกำจัดพวกโปรแตสแตนท์ในประเทศให้หม ดสิ้น โดยใช้หลายวิธีไม่เลือก สาวกนิกายโปรแตสแตนท์ที่มีชื่อเสียงหลายคนถูกจับประห าร ทำให้พระนางมีนามหนึ่งว่า "Bloody Mary" หรือ "แมรี่บ้าเลือด" ซึ่งฉายานี้มาจากการจับสาวกนิกายโปรแตสแตนท์ ขึ้นแขวนคอบนตะแลงแกงในคราวเดียวกว่า 800 คน

กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=43781