สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 23 ธ.ค. 67
นิยาย แนวผจญภัย บทที่ 2 ตอนที่ 2 : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 17 - [16 ธ.ค. 55, 17:53] ดู: 3,458 - [21 ธ.ค. 67, 06:18] ติดตาม: 1 โหวต: 6
นิยาย แนวผจญภัย บทที่ 2 ตอนที่ 2
หนุ่มธุดงค์ไพร (711 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
25 เม.ย. 54, 13:39
1
นิยาย แนวผจญภัย บทที่ 2 ตอนที่ 2
ภาพที่ 1
    เสียงครกหินดังสะเทือนเป็นจังหวะอยู่หลังครัว  พริกแห้งคั่ว หอมกระเทียมและกะปิเผา ถูกผสมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว หลังจากพรานเบตักให้สิงห์ที่นั่งดูอยู่ใกล้ๆชิม เมื่อได้ที่ดีแล้วก็ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆไว้หนึ่งถ้วย ที่เหลือตักใส่กระปุกพลาสติกเก่าๆ ได้เกือบเต็ม จากนั้นพรานเบก็ร้องเรียกให้เคิ้งไปเก็บผักที่ริมห้วยหลังกระท่อม

“ไอ้เคิ้ง เอ็งไปเก็บผักมาจิ้มกินกับน้ำพริกเผาให้ข้าหน่อย แถวๆตรงหัวโค้งโน่นผักกูดเยอะ” พรานเบพูดพร้อมชี้มือบอกเคิ้ง

“โน่นไง ไอ้พุ่มกลับมาแล้ว บ๊ะ! ได้ไก่ป่ามาด้วย” พรานเฒ่าร้องบอก เมื่อเห็นพุ่มกำลังเดินลงมาจากตีนเขา

“ไอ้พุ่มมันเก่งนะ น้าเบ เรื่องหาของกินในป่าไปกับมันไม่ต้องกลัวอด” สิงห์หันไปพูดกับพรานเบ ที่ตอนนี้กำลังจัดของอยู่ในห้องบนกระท่อม
จริงอย่างที่สิงห์บอกกับพรานเบว่า พุ่มเป็นเด็กที่เก่งในเรื่องหากิน หรือจะบอกว่าคนทำบาปขึ้นก็ไม่ผิด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ขอให้บอก เห็นห้วยน้ำที่ไหน ถ้าไม่ได้ กบธูปตัวใหญ่ๆก็กบขาสั้น อย่างไม่ได้เลย ก็เป็นปลาเวียนเป็นพวงๆ ลำบากจริงๆ ก็หางัดหินล้วงรู หาปูหาปลาไปตามเรื่อง หรือแม้แต่ตัวอ้นที่ทำรู้อยู่ในดิน พุ่มก็เอาตัวมากินจนได้โดยไม่ต้องออกแรงขุดให้เหนื่อย นกกระทาหรือ ไม่มีปืนยิง ก็ทำแร้วดักเอามากินก็เยอะ แถมบางที่มีไก่ป่ามาติดเข้าอีกก็บ่อย เรื่องของกินในป่า สิงห์เองก็เห็นและเชื่อฝีมือของเด็กหนุ่มคนนี้

“ได้ไก่มาตัวเดียวเองพี่สิงห์ ผมนั่งเฝ้าตั้งนานมาแค่คู่เดียว” พูดจบพุ่มก็โยนไก่ป่าที่ยิงได้บนกองฟืน

“แค่นี้ก็ดีแล้วพุ่ม ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ตัวใหญ่เสียด้วยนิ รุ่นๆกำลังน่าแกง”สิงห์พูดพร้อมยกไก่ป่าที่พุ่มยิงได้ขึ้นมาดู

“อ้าว..ลุงโส่ยเอานกมาจากไหนนั่น” พุ่มหันไปดูพรานเฒ่ากำลังย่างนก ที่ตอนนี้กำลังเหลืองจนน้ำมันหยดบนกองไฟดัง ฉ่า

“ไอ้สิงห์มันสอยมาเมื่อกี้ แล้วเอ็งล่ะ ได้ไก่ป่ามาตัวเดียวหรือไง ไหนตะกี้ข้าได้ยินเสียงปืนตั้งหลายที” พูดจบแกก็ล้วงย่ามแล้วหยิบถุงพลาสติกเก่าๆขึ้นมา ภายในมีลูกหมากแห้งๆสิบกว่าลูก กับกระปุกใส่ยาเก่าๆ ซึ่งตรงขอบฝากระปุกมีคราบสีแดงๆออกชมพูส้ม ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่ามันน่าจะเป็นปูนแดง จากนั้นแกก็ล้วงไปหยิบใบพลูขึ้นมาสองสามใบ หลังจากโยนใบที่ดูเหลืองทิ้งไปเสียหนึ่งใบ แกก็บรรจงทาปูนแดงลงบนใบพลูที่เหลือสองสามครั้ง แล้วก็ม้วนเป็นมวน ก่อนเอาไปเคี้ยวในปากตุ้ยๆ ในขณะที่แกเคี้ยวแกก็หยิบเศษลูกหมากแตกๆสองสามชิ้นโยนเข้าปากตามไปอีก

“เออ เกือบลืม พี่สิงห์ ผมได้นกเขาเปล้ามาอีกสี่ตัว” พูดจบพุ่มก็ล้วงเข้าไปหยิบนกเขาเปล้าในย่ามที่สะพายไหล่อยู่

“โอ้โห..เก่งจริงๆโว้ยพุ่ม ดีเลยจะได้ให้ลุงโส่ยย่างเกลือเสียให้หมด ดูสิอ้วนๆกำลังดีทั้งนั้นเลย” สิงห์พูดพลางหยิบนกเขาเปล้าอ้วนพี ขึ้นมาดูทีละตัว

“ไปพุ่ม เอ็งไปทำไก่ป่า เดี๋ยวพี่นั่งถอนขนนกเอง” พูดจบสิงห์ก็นั่งถอนขนนกข้างกองฟืน ส่วนพุ่มนั่งถอนขนไก่ป่าอยู่ข้างๆ โดยมีพรานเฒ่าที่ต้อนนี้แกเคี้ยวหมากจนปากแดง มาช่วยอีกแรง

    หลังจากพุ่มถอนขนไก่ป่าเสร็จแล้วสิงห์ก็ให้พุ่มเอาไก่ป่าและนกเขาเปล้า ที่ลนขนอ่อนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ให้พุ่มไปทำที่ริมห้วยด้วย หลังจากพุ่มนั่งทำไก่อยู่เงียบๆได้พักหนึ่ง เคิ้งที่เดินไปเก็บผักป่า ก็กลับมา นอกจากจะมีผักกูดยอดงามๆน่ากินแล้ว ยังมียอดผักหนามอวบๆอีกหลายสิบยอด แถมยังมีหยวกกล้วยป่าขาวอวบอีกสองท่อน  ยังไม่หมดแค่นั้นในกระชุไม้ไผ่สานยังมีปูห้วยตัวใหญ่ๆอีกสิบกว่าตัว แต่ละตัวก้ามใหญ่ๆทั้งนั้น ส่วนสิงห์เองตอนนี้ขึ้นไปตำพริกแกงอยู่บนครัว โดยมีพรานเบคอยเป็นลูกมือให้ ส่วนเคิ้งหลังจากโยนหยวกกล้วยป่าเขาไปเผาในกองไฟแล้วตัวเองก็ เดินลงไปช่วยพุ่มทำไก่และนกเขาเปล้าที่ริมห้วย  เหลือเพียงแต่ลุงโส่ยที่นั่งเคี้ยวหมากย่างนกเขาเปล้า ที่ตอนนี้สงกลิ่นหอมฉุย

“พุ่มเก็บเครื่องในนกไว้ด้วยนะ” สิงห์ร้องบอกพุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งผ่าท้องไก่และนกเขาเปล้าอยู่กับเคิ้ง

“เอาไอ้สิงห์ ใบกระเพรา กับใบยี่หร่า” ลุงโส่ยส่งก้านกะเพราและยี่หร่าที่มีใบดงก้านใหญ่ ส่งให้สิงห์หลังครัว โดยไม่ต้องบอกก็รู้งาน

“ตะไคร้ซอยแค่นี้พอหรือเปล่า” พรานเบร้องถามสิงห์ ในขณะที่ตัวเองกำลังซอยตะไคร้อยู่สามต้น

“แค่นั้นก็พอแล้วน้าเบ ลูกมะกรูดเอาไว้ที่ไหนน้าเบ อยู่นี่เอง” สิงห์ค้นหาอยู่อึดใจก็เจอลูกมะกรูดที่วางซุกไว้

    เสียงครกหินดังขึ้นอีกครั้ง ภายในนั้นมีพริกแห้งกำใหญ่ตำผสมกับตะไคร้ซอยกระเทียมและหัวหอมแดง ตำแบบหยาบๆ จากนั้นสิงห์ก็เอาลูกมะกรูดมาซอยเอาแต่ผิวเกือบครึ่งลูกใส่ลงไป ตาก็พลัน ไปเห็นข่าแง่งใหญ่ ที่เมื่อเย็นวานเขาเอามาต้มข่าไก่ ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมใส่ลงไปด้วย เมื่อส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าที่ดีแล้ว สิงห์ก็ตักกะปิมอญ เติมลงไปเกือบครึ่งช้อน แถมยังซอยขมิ้นลงไปอีก ห้าหกแว่น พริกแกงป่าเสร็จพร้อมๆกับจานไก่ป่าสับ ที่พุ่มเดินเอามาไว้ในครัว ส่วนเคิ้งเดินถือพวงนกกับกระปุกเกลือเดินไปที่กองไฟหน้ากระท่อม ที่ตอนนี้มีท่อนหยวกกล้วยไหม้ไฟจนดำปี๋ ใกล้ๆกันก็มีนกย่างตัวแรกเสียบไม้วางอิงอยู่ข้างๆ นกเขาเปล้าถูกทาเกลือแล้วขึ้นย่างไฟอ่อนๆทั้งสี่ตัว พร้อมๆกับปูห้วย ที่เคิ้งโยนลงไปด้วย หลังจากพวกมันโดนไฟไม่นานตัวก็เป็นสีส้มเกือบแดง ส่งกลิ่นหอมฉุยน่ากิน

“ทำอะไรกินกัน หอมมาถึงนี่เลย”เสียงใครบางคนเล็ดลอด ออกมาจากชายดงสาบเสือ แต่ไม่ถึงอึดใจเจ้าของเสียงก็เดินโผล่ออกมา

“มาทันกินข้าวเช้าพอดีเลย กว่าจะมาได้นะไอ้เหน๋อ” สิงห์ร้องตะโกนบอกเพื่อนร่วมทางอีกคน แต่ไม่ทันขาดคำ ก็มีใครอีกสองคนเดินโผล่ออกมาด้วย

“ทำอะไรกินสิงห์หอมเชียว พี่กำลังหิวอยู่พอดี เดินกันจนหน้ามืดแล้ว ฮาๆ” เสียงชายวัยไล่ๆกับพรานเบร้องทัก

“แกงไก่ครับพี่พร แหม...มาได้จังหวะเลยนะครับ อ่าวนั้นพี่แปะ ก็มาด้วยหรือ” สิงห์ร้องทักชายอีกคนที่เดินแบกของพะรุงพะรัง พอๆกัน แถมที่ไหล่ยังสะพายปืนลูกซองห้านัดมาด้วย

“ข้าไปตามพี่พรตั้งแต่เมื่อวานแล้วไอ้สิงห์ ดีนะพี่พรอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน นั่งคุยเรื่องจะไปเที่ยวป่ากันเพลินๆ พี่แปะมาหาพอดี เลยชวนๆกันมา” เหน๋อบอกสิงห์

“ดีเลย ไปกันเยอะๆสนุกดี เป็นยังไงบ้างพี่พร พี่แปะ สบายดีกันนะครับ” สิงห์หันไปถามพร้อมส่งยิ้มให้

“สบายดี ก็อยู่ตามมีตามเกิด ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก” พรานพรบอกก่อนยกน้ำในขันขึ้นดื่มหลายอึก

“พี่ก็สบายดี ปีนี้ดีหน่อยฝนฟ้าดี ลงข้าวโพดกับข้าวไร่ไว้งามดี แล้งนี้คงไม่ต้องกลัวอะไร” พรานแปะตอบก่อนจะรับขันน้ำจากพรานพรขึ้นมาดื่ม

“สรุปเอ็งจะไปเที่ยวที่ไหนว่ะสิงห์”เหน๋อถามสิงห์ถึงสถานที่ ที่จะไป พูดจบก็โยนเป้เก่าๆที่หนักอึ้งลงบนระเบียง

“พวกข้าว่าจะไปแถวๆชายดงป่าดำก็พอ” สิงห์ร้องบอกจากในครัว

“อะไรนะ เอ็งจะไป ป่าดำกันหรือ ใครเขาไปเที่ยวกันว่ะ” พรานพรและพรานแปะแทบจะพูดออกมาพร้อมๆกัน ทั้งสามมองหน้ากันไปมา เพราะไม่แน่ใจว่าสิงห์และพวกพรานที่เหลือจะไปป่าดำ

“ก็แค่เที่ยวแถวๆชายดงแค่นั้น เราไม่ได้เข้าไปกลางดงเสียเมื่อไหร่เพราะผมก็ไม่เคยไปสักที จะได้เปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง” พูดจบสิงห์ก็เอาพริกแกงลงไปผัดในกระทะจนหอมฉุย

“เอ็งแน่ใจแล้วนะไอ้สิงห์ คิดดูให้ดีๆ เพราะพวกข้าก็ไม่เคยไปเลย แม้แต่ชายดงป่าดำนั่น” พรานพรพูดเสริมก่อนจะเอาปืนลูกซองเดียวลำกล้องยาวสี่สิบนิ้วของแกลงจากบ่า

“ไม่ใช่ผมคนเดียวที่แน่ใจหรอกพี่พร พวกผมที่อยู่ตรงนี้ ทั้งลุงโส่ย น้าเบ พุ่ม และเคิ้ง ทุกคนตกลงใจจะไปด้วยกันหมดแล้ว ที่เหลือก็เหลือแค่พวกพี่ทั้งสามคนนี่หละ” สิงห์หันไปพูดกับพรานพร พูดจบก็เอาไก่ป่าสับในจานเทใส่กระทะที่ผัดพริกแกงจนหอม ดังฉ่า

“พวกพี่พร พี่แปะ หรือเหน๋อ ถ้าอึดอัดใจหรือไม่สบายใจที่จะไปด้วยกัน พวกเราก็ไม่ว่าอะไรหรอก เอาตามความสมัครใจจะดีกว่า” สิงห์พูดเสริมมาอีก

“เอ็งไปข้าก็ไป ไหนๆเราก็เพื่อนกัน จะกลัวอะไร” เหน๋อร้องตอบ ในขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังม้วนยาสูบ

“ถ้าเอ็งว่ายังนั้น ข้าก็คงต้องไปด้วย ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ป่าดำ มันเป็นอย่างไง เคยแต่ได้ยินชื่อมานานแล้ว แล้วเอ็งหละจะเอากับเขาด้วยหรือเปล่า ไอ้แปะ” พรานพรหันไปถามพรานรุ่นน้อง ที่ตอนนี้กำลังยืนสูบยาเส้นจนควันโขมง

“ไหนๆก็แบกของจนหลังแอ่นมาถึงนี้แล้ว จะให้ข้าแบกกลับไปอีกก็ใช่ที่ มีพี่เบกับพวกเราทุกคน ข้าก็ไม่นึกกลัวอะไรแล้ว” พรานแปะพูดจบ หลังจากอัดยาสูบอยู่นาน

“ให้มันได้แบบนี้สิ พี่พร พี่แปะ ไอ้เหน๋อ ถึงจะเรียกว่าเพื่อนแท้ มาๆขึ้นมากินข้าวกินปลาก่อน แล้วค่อยมาคุยกันต่อ” สิงห์พูดพลางตักแกงไก่ป่าใส่จานใบใหญ่


*************โปรดติดตามตอนต่อไป เร็วๆนี้***************
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=43022