สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 20 เม.ย. 67
ตกปลาน้ำโขงในลาว : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 54 - [25 พ.ย. 65, 15:43] ดู: 31,832 - [20 เม.ย. 67, 04:23] โหวต: 23
ตกปลาน้ำโขงในลาว
5ดาว (163 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
10 เม.ย. 54, 11:43
4
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 1
                    ตอนที่ผมโขยกอีแดงถึงชานเมือง ขณะที่หักรถเลี้ยวซ้ายเข้าปั้มเพื่อเติมน้ำมัน
โครม!!? ผมเหยียบเบรกชำเลืองกระจกมองหลังคิดว่าฝาท้ายรถเปิดออก มองกระจกข้างประตู เห็นแค่ท้ายรถมอเตอร์ไซร์นอนตะแคงอยู่บนพื้นหลังรถ ผมลงจากรถไปดู ใจหายวาบ...!? ชายชุดดำมอซอแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่บนพื้นหญ้าริมถนน เด็กปั้ม 2-3 คนวิ่งมาพยุงคนเจ็บเข้าไปหลบแดดในห้องอาหารซึ่งยังไม่ถึงเวลาเปิดบริการ กระบะท้ายด้านข้างบุบไฟท้ายรถแตก สภาพรถมอเตอร์ไซร์คันนั้นโกโรโกโสเก่ามากไม่มีทะเบียน รถยืมเพื่อนมาใบขับขี่ก็ไม่มี  เขาเจ็บไหล่และขาข้างหนึ่งถลอกมีเลือดไหล
                    “เห็นไฟเลี้ยวมั้ย?”ผมถามเขาหลังจากถามอาการบาดเจ็บโดยทั่วไปแล้ว เขายกมือไหว้อย่าให้ผมเอาเรื่องกับเขา ...ประกันเอาเรื่องเขาแน่...ผมควักธนบัตร 1000 บาทให้เขาเอาไปซ่อมรถและซื้อยา  คุณมีเคราะห์เจ็บตัว ผมมีเคราะห์เสียงตังค์ เป็นคำพูดที่ปลอบใจเขาและตัวเอง คิดว่าจะบอกเลิกไปลาวกับพวกคุณอณุรักษ์ เพราะใจยังไม่กลับเข้าที่ เนื่องจากครั้งแรกที่เห็นคนเจ็บนอนหมดสตินึกว่าเสียชีวิต มันเป็นฤกษ์ลางที่ไม่ดี แต่แล้วเปลี่ยนใจไปก็ไป กองทัพเพิ่มจะเดินหน้าจะกลับม้าหน้าศึกได้ยังไง การตัดสินใจของผมครั้งนี้น่าจะส่งผลถึงชะตากรรมของชายอีกคนในลาว
                      หลายปีมาแล้วที่ผมให้ความสนใจกับการพักผ่อนในลาวนำหน้าการตกปลา  ผมจึงไม่สนใจว่าจะตกปลาได้หรือไม่  แต่ปีนี้ผมเน้นเกมส์ล่ามากกว่า  เราจึงเลือกช่วงเวลา “น้ำแดงแตก” เพื่อหวังผลในการล่า
4 โมงเย็นวันที่  24 มิถุนายน 2554  สี่นักรบพลัดถิ่นจากที่ราบสูงอาศัยรถโฟร์วิลสีแดงคันนั้นตะลุยถึงด่านเก็บเงินก่อนข้ามสะพานลาว – ญี่ปุ่น 5,000  กีบ (ยี่สิบบาท)  เราจ่าย เป็นค่าข้ามสะพานไปเมืองปากเซ
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 2
            หลังจากทักทายกับคุณไชราช ขุนศักดาในเซ เจ้าบ้านนัดคุณโส่ยตี๋ คุณตี๋ กับอาจารย์อีกสองท่านอาศัยรถตู้พาคณะเราไปเลี้ยงดูปูเสื่อที่ห้องอาหารริมโขงตรงข้ามภูนางนอน บนโต๊ะตัวที่ติดระเบียงริมโขง มีไก่ต้มข่า หัวเป็ดทอดจิ้มน้ำจิ้มขม ‘เลือดแปลง’ เป็นออเดิฟที่เหล่านักรบพลัดถิ่นโซ้ยแบบบ่ย่านตาย ‘เลือดแปลง’ปรุงจาก เลือดเป็ดดิบคั้นกับสมุนไพรใส่จานแช่เย็น โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่กับเครื่องในเป็ดฟานบาง เสริฟพร้อมเครื่องเคียงแยกถ้วยตะไคร้ซอย, มะนาวซีก, ถั่วลิสงกับพริกป่น, มีน้ำซุปเป็ดซดแก้เลี่ยน  ผมพินิจเมนูเสี่ยงตายจานนี้อย่างผู้ขลาดในการชิม 
          “เลือดเป็ดเป็นยาเย็นกินแล้วของขึ้น”
          เพื่อนเราคนหนึ่งคะยั้นคะยอให้ผมร่วมชะตากรรมด้วย ผมไม่รู้คำว่า ‘ของ’ ของคุณอนุรักษ์หมายถึงอะไร กลัวพวกเพ่กินแล้วของขึ้นพานจะไปตีหัวคนอื่นเข้า แซบอีหลีเถอะเสี่ยว  ถ้าความเย็นจัดจะฆ่าเชื้อไข้หวัดนกได้
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 3
                    อิ่มแล้วคุณไชราชปูเสื่อโรงแรมดอกคูนของเขาต้อนรับแขกไทยแบบกันเอง หลังกาแฟอาหารเช้า คุณไชยราชเนวิเกเตอร์เจ้าถิ่นพาเราแวะร้านขายเครื่องโมบายที่หลัก 14 รับคุณตี๋ (ปิดร้านไปตกปลา) แล้วบึ่งรถลงใต้อีก 150 กิโลเมตรถึงบ้านหาด  เอารถขึ้นแพข้ามโขงไปดอนโขงถึงเมืองแสนก็เลยเที่ยงไปแล้ว
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 4
                      เราลงเรือไต๋บุญกับไต๋กวางที่แพสวรรค์สายของ(สายโขง)  หลังจากย้ายสัมภาระขึ้นเรือนไต๋บุญเรียบร้อยเราก็พร้อมลุย
คุณตี๋  คุณจ้อย(สท.จิระศักดิ์ ทองทั่ว)  และคุณยุทธ์ (โปรกอล์ฟธนกฤต  ฐิติวรภัทร) ลงเรือไต๋บุญนำทางพวกเราออกจากเกาะไม่ถึงสามสิบนาทีก็ทิ้งสมอหมายแรก  โปรยุทธ์เปิดเกมส์ก่อนหิ้วปลายางวัยเอาะชูขึ้นอวด เซียนตู้(คุณอนุรักษ์  อุดมศิลป์) กับคุณไชราชเปิดเกมส์ด้วยปลายางวัยน่ารักตามมาติดๆ
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 5
                    ไต๋กวางพาเรางมแห้วอีกสองหมาย  ก่อนตามไต๋บุญไป ‘แก่งใหญ่’  เรือโปรยุทธ์ผูกติดทุ่นแกลลอนตรงกลางทางน้ำไหลแรง ทางน้ำนี้น่าจะเป็นร่องน้ำลึกกว้างราวถนน 4 แลน เพราะสองข้างของทางน้ำไหลแรงเป็นกอไม้น้ำทอดยาวออกไปทั้งสองข้าง  เราผูกเรือกับกอไม้น้ำข้างช่องน้ำไหลอยู่ทางด้านซ้ายท้ายเรือของไต๋บุญห่างกันราว 20 เมตร  คุณไชราชหย่อนตะกั่วตรงหัวเรือ เซียนตู้อยู่ท้ายเรือเหวี่ยงเบ็ดสุดแรงไปทางท้ายเรือ  รอกซอลติก้า 4500 บนคันแบ็งค์  U.S.A. ยาว 6 ฟุตครึ่ง ผมใช้เหวี่ยงตะกั่วหนัก  2  ขีด  เฉียงขวางเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตรงจุดนั้นน้ำพุดขึ้นคล้ายน้ำพุเกิดเป็นคลื่นวงกลมราบแพร่กว้างออกตลอดเวลา  ตะกั่วถึงพื้นรอไม่พอหนึ่งไฟแดง  ปลายสายมีปลาตอดเหยื่อเบา ๆ 2 ครั้ง  ผมตวัดคันสุดแรงทั้งตะกั่วและปลาถูกกระแสน้ำพัดปลิวไปท้ายเรือ
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 6
            “ใจเย็น ๆ เฮีย ดูจากแอ็คชั่นปลายคันตัวนี้น่าจะใหญ่”  คุณไชราชเอาใจเชียร์  มันเป็นปลาผอหนัก 3 กก. ไม่เลวสำหรับโทรฟี่ชิ้นนี้  อีกหลายปั้นเหยื่อต่อมาเราก็ถอนสมอ หมายใหม่เป็นทางน้ำแคบกว้างราว 5  เมตร  ซ้ายมือเป็นตลิ่ง  ขวามือเป็นแนวกอไม้น้ำสลับกับเกาะเล็กเกาะน้อยโพล่พ้นน้ำไม่ถึงเมตรทอดยาวเฉียงคล้ายรูปกรวยเกือบถึง1ใน4ของลำน้ำ  ทางน้ำนี้จึงมีลักษณะคล้ายโพงพาง
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 7
เราตีเหยื่อเรียงจากหัวเรือไปท้ายเรือ  มีปลาตอดเหยื่อแต่วัดไม่ทัน  เหยื่อปั้นที่สองของเซียนตู้ได้ปลายางหนัก  2 โลกว่า คุณไชราชกับผมได้ปลายางไซส์ครึ่งกิโลคนละตัว  เราแช่อยู่หมายนี้จนอาทิตย์ลับหลังเกาะ  เรือโปรยุทธ์ตามหลังทีมเราขึ้นเกาะไล่ ๆ กัน  ทีมเขาได้โชคน้อยกว่าทีมเรา  อาหารค่ำเจ้าบ้านเสริฟไก่ต้มใบ-ชา พวกเรานั่งล้อมวงเฮฮากับเขยลาว(เบียร์ลาว)
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 8
                      ผมกางเต้นท์นอนบนแคร่ใต้ถุนบ้าน  บ้านไม้หลังนี้ใหญ่มากกว้างราว 10 X 20 เมตร บันไดหน้าบ้านกับหลังบ้านหันไปทางทิศตะวันออก  ปีนี้ไต๋บุญติดตั้งจานดาวเทียมกับโทรทัศน์เครื่องใหม่ เวลาเปิดทีวีต้องอาศัยไฟจากเครื่องรถไถเดินตาม  หลายเกาะมีจานดาวเทียมติดตั้งกันหนาตา
เสียงไก่กับหมูตัวที่ล่ามติดใต้ถุนบ้านปลุกผมแต่เช้ามืด
วันนี้ไต๋บุญจะพาล่องโขงลงไปทางใต้  เราจึงแวะทานอาหารเช้าที่แพสวรรค์สายของ  ผมฉวยโอกาสซื้อขนมกับนมกล่องเตรียมเอาไว้ฝากหลานวัยน่ารัก  4  คนของไต๋บุญ
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 9
                        เรือเราตามหลังไต๋บุญไปกว่าชั่วโมงจึงถึงหมาย  แม่น้ำโขงช่วงนี้กว้างมากน้ำไม่ลึก  เกาะเล็กเกาะน้อยกับกอไม้น้ำขึ้นกระจายห่างๆกันทั่วแม่น้ำ  ไต๋กวางไม่ชำนาญหมายละแวกนี้เราจึงต้องวนหาหมายจนเจอทางน้ำไหลระหว่างกอไม้น้ำช่องหนึ่งเป็นที่จอดเรือ คุณไชราชกับเซียนตู้เปิดหมายด้วยปลายางไซส์ฝ่ามือ  เราย้ายอีก  2  หมาย  ผมจึงตีไข่แตกด้วยปลาผอไซส์โลกว่า  เราย้ายอีกหลายจุดได้แต่ลูกปลายาง
                        ตะวันอยู่เหนือศีรษะ เราชวนกันขึ้นเกาะยืดเส้นยืดสายเติมพลังมื้อกลางวัน
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 10
                    หมายแรกหลังอาหารเที่ยง คุณไชราชเปิดเกมด้วยปลาคังตัวเท่าแขน ย้ายไปอีกจุดทำเลบริเวณนี้เต็มไปด้วยกอไม้น้ำกับเกาะเล็กเกาะน้อย มีป้าย “วังสงวนพันธุ์ปลา”บอกเตือนผู้ลุกล้ำ
เราย้ายอีก  3  หมาย ตอนนั้นฝนตั้งเค้าทางทิศใต้ท้องฟ้าดำทะมึนจนต้องแจ้นกลับทางเหนือ  แต่ก็เจอพระพิรุณขวางหน้า  เรือวิ่งไม่นานก็พ้นฝน 
เราย้ายอีก  3  หมายไร้ปลาฉวย ราว  5  โมงเย็น  เราแวะเมืองแสนส่งคุณไชราช พวกเขามีธุระต้องกลับก่อน โดยเฉพาะคุณตี๋มีแห้วถุงใหญ่ติดมือกลับบ้าน
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 11
ระหว่างทางที่เรือโปรยุทธ์ไปส่งคุณตี๋  พวกเขาพบชาวประมงคนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ มือข้างที่เกาะเรือพยายามโยกเรือเอาน้ำออกจากเรือ และพยายามปีนขึ้นเรือแต่ปีนไม่ได้ เพราะมืออีกข้างถูกเชือกแหมัดติดอยู่ใต้น้ำ เมื่อพวกเขาช่วยชายคนนั้นขึ้นเรือได้แล้ว เขาเล่าว่าจังหวะที่เขากำลังดึงแหที่ทอดติดกิ่งไม้ใต้น้ำ พอดีเรือใหญ่ผ่านมา คลื่นจากเรือลำใหญ่ซัดน้ำเข้าเรือทำให้เรือล่ม ชายคนนั้นยังพยายามกู้แหที่ติดกิ่งไม้ใต้น้ำแต่ไม่สำเร็จ จึงทิ้งแหปากนั้นใช้กิ่งไม้พายเรือกลับบ้านเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่
            ถ้าพวกเราไม่ไปลาวเที่ยวนี้ ชะตากรรมของชายคนนั้นจะเป็นอย่างไร? ลิขิตฟ้า    มักเป็นเรื่องตลก จึงกำหนดผู้รอนแรมจากแดนไกลเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์ให้กับชายคนนี้                                                                                                                                                         
            คืนนี้เราค้างแรมที่บ้านไต๋บุญอีกคืน
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 12
โปรยุทธ์นัดผมออกเรือก่อนไก่ขัน  ไต๋บุญพาเราเข้าหมายโพงพาง  มีปลาตอดเหยื่อแต่วัดไม่ติดแถมเสียตะกั่วคนละชุด  หมายที่ 3 ที่หมายแก่งใหญ่ ผมผูกเรือติดทุ่นจุดเดียวกับที่โปรยุทธ์จอดเรือเมื่อวาน เขายืนยันว่าเคยได้ปลายางหนัก 6-7 กิโลกรัมที่หมายนี้  เราหมดเหยื่อคนละ  3  ปั้น จึงขยับเรือไปผูกติดกอไม้น้ำตรงจุดที่ผมได้ปลาผอเมื่อวาน  ผมผูกเรือติดกอไม้น้ำเสร็จกำลังปั้นเหยื่อ โปรยุทธ์ก็สอยปลายางไซส์  2  โลได้ตัว  อีก  2  ปั้นเหยื่อต่อมาผมก็ได้ปลายางไซส์ย่อมกว่า
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 13
                      ตอนนั้นใกล้เวลาเคารพธงชาติ เซียนตู้กับสท.จ้อยตามเรามาถึงหมาย  ปรึกษากันแล้วมีความเห็นตรงกันว่าพวกเราควรย้ายไปน้ำตกคอนพะเพ็ง
ที่บ้านไต๋บุญ เจ้าบ้านปูเสื่อเสริฟอาหารเช้าต้อนรับแขกชาวต่างชาติที่ชานเรือน เนื้อปลาคังโครกกับสมุนไพรห่อด้วย ‘ดอกแคแดง’ นึ่งสุกรับประทานกับน้ำพริกแจ่ว (ดอกแคแดงออกรสขม) ปลายางทอด, ต้มยำปลาทั้งหมดเป็นเมนูจานเด็ดจากเสน่ห์ปลายจวักของลูกสาวคนเดียวของไต๋บุญ ระหว่างอาหารผมสังเกตหลานสาววัย 4 ขวบผิวหยวกกล้วยตาคมผมยาวหย็องนั่งหน้างอเป็นตวักอยู่ข้างประตู โปรยุทธ์หันไปทักทายหลานแล้วเด็กน้อยลุกไปหยิบขวดน้ำดื่มเอามากระแทกใส่ลุงยุทธ์อย่างเสียไม่ได้…เด็กคนนี้เอาเรื่อง...
“หล่อนเป็นอะไร ทานข้าวหรือยัง?”
ผมหาคำตอบจากโปรยุทธ์
“พวกเด็กกินข้าวแต่เช้าแล้ว คนนี้งอแงจะกินขนมที่เฮียเอามาฝากเมื่อวาน”
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 14
                      ตะวันอยู่เหนือศีรษะเราก็ถึงน้ำตก  เราเพิ่มจะอิ่มท้องกัน เราจึงเตรียมข้าวเหนียวกับปลากระป๋องและกล้วยปิ้งสำหรับความหิวส่วนตัวในมื้อกลางวัน
รถคันเดิมจอดที่เดิม (ที่จอดปีที่แล้ว)  เราเตรียมอุปกรณ์เท่าที่จำเป็น  ผมเหลือตะกั่วไม่ถึง  5  ลูก จึงขอแบ่งจากเซียนตู้อีก  5  ลูก  ซึ่งเขามีสำรองไว้หลายกิโลกรัม
จากจุดจอดรถเราต้องข้ามหาดทรายขาวราว  100  เมตร  จึงถึงเวินบึกซึ่งเป็นเวิ้งน้ำกว้าง ผมเรียกมันว่า “วังมัจฉา” น้ำจากน้ำตกไหลมาบรรจบกับเวิ้งอ่าวกว้าง  อ่าวนี้จึงเป็นจุดแวะพักของเหล่าปลาน้อยใหญ่ก่อนขึ้นน้ำตก  อุปสรรค์ในการตกปลาที่วังมัจฉา
จึงอยู่ที่ตาข่ายที่ชาวบ้านกางทั่วอ่าวกับเบ็ดราวขึงระโยงรยางค์อย่างกะใยแมงมุม
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 15
                    ผมลุยหาดทรายร้อนรั้งท้ายมาถึงริมเวินบึก พบโปรยุทธ์กำลังกล่อมเด็กน้อย  3  คนให้พายเรือข้ามโขงไปอีกฝั่ง ผมปฎิเสธเขาที่จะข้ามโขงด้วยกัน แล้วเดินเลาะไปตามโขดหินริมโขงขึ้นไปทางน้ำตก  พบเซียนตู้กับ สท.จ้อยตั้งฐานอยู่ที่เก่า (ที่เคยตกปลาเมื่อปีที่แล้ว)  ผมตรงไปหาช่องน้ำแคบที่ผมคาใจ (ปีที่แล้ว)  กองหินโพล่พ้นน้ำกว่าเมตร  ผมตีเหยื่อไปหลังกองหิน ไม้แรกก็เสียตะกั่ว  ผมหาหมายใหม่ขึ้นไปทางน้ำตกอีกราว 40 เมตร ตรงนั้นเป็นแก่งน้ำไหลต่างระดับเหมือนเนินลูกระนาดสูงราวฟุต  ผมตีเหยื่อห่างหน้าแก่งสิบกว่าเมตร  ไม้แรกก็ได้ปลากดเหลืองตัวเท่าแขน ลูกปลายางติดเบ็ดหลายตัวปล่อยลงน้ำหมด  อีกไม้ตีไปทางน้ำตกตะกั่วก็ติดหิน คิดว่ากินข้าวเสร็จค่อยจัดการ จึงวางคันเบ็ดเติมข้าวเหนียวใส่ท้อง  กว่าจะเปิดฝาปลากระป๋องได้ทุลักทุเลพอสมควร  เบ็ดทิ้งไว้มีปลาติดเบ็ดจึงยกขึ้นวัด ตัวปลายสายดิ้นดึงตะกั่วออกจากซอกหินได้ เป็นปลากดเหลืองไซส์เดียวกัน
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 16
                        ตอนนั้นโปรยุทธ์ย่ำโขดหินตัวเบาผ่านมา บอกจะไม่กลับไปที่รถแต่จะไปขึ้นรถทางหน้าน้ำตก มีบักหำน้อยแบกคันเบ็ดตามหลัง อีกคนหิ้วกล่องเบ็ด คนรั้นท้ายหิ้วพวงปลา...ปกติเขาใช้แค็ดดี้เพียงคนเดียวนะเพ่…
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 17
ผมกลับมาที่กองหินคาใจ พบเซียนตู้กับสท.จ้อยหอบหิ้วอาวุธคู่มือกับพวงปลากำลังเข้ากองหินเช่นกัน ผมเลยขยับไปหลังก้อนหินห่างกันราว  6 -7 เมตร  ปั้นเหยื่อเตรียมหย่อนเบ็ดก็ได้ยินเสียงต๋อม! ตะกั่วตกเลยหน้าผมไปทางซ้ายมือ มองย้อนสายเอ็นพบเซียนตู้ยืนยิ้มอยู่
“เฮียน้ำพัดตะกั่วไป”
...ตะกั่วลูกเท่าไข่ไก่เนี้ยนะไหลตามน้ำ...เรายิ้มกว้างให้กันแบบว่าโจ๊กชามใหญ่หก
หลังกองหินเอ็นสีเหลืองของ สท.จ้อยชี้ลงน้ำตรงจุดที่เบ็ดชุดแรกของผมติดหิน (ผลเป็นยังไงคงไม่ต้องบรรยาย)
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 18
                      ผมตีตะกั่วตรงไปข้างหน้าไม่เกิน  3  เมตร  ตะกั่วถึงพื้นถือคันรอไม่พออึดใจช้างเหยื่อปั้นนั้นก็ถูกฉวย  มันเป็นปลาคังไซส์แขน  ทำให้ผมหายค้างคาใจ  แต่คงมีผู้ค้างคาใจเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็สองท่าน ขนาดดักหน้าดักหลังมันดันกินคันกลาง
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 19
                    เราเก็บเบ็ดก่อนตะวันจะลับฟ้า  แม้หมายคอนพะเพ็งเรายังไม่ได้โทรฟี่อย่างที่เราคาดหวังไว้  ด้วยเหตุจากน้ำลดปลาถอย โอกาสหน้าเราจะกลับมาที่น้ำตกคอนพะเพ็งอีก
                    “น้าหมานเน้อตึ้ก(ตก)ได้ปลากดกับลูกปลาเคิง”
ชาวประมงพื้นบ้าน 1 ใน 3 ทักผม ขณะที่ผมหิ้วปลาผ่านพวกเขาซึ่งกางเต้นนอนเฝ้าปลาริมวังมัจฉา
“ทำไมไม่มาตอนน้ำขึ้น  ถ้าพวกน้ามาเมื่อ  3  วันก่อนน้ำขึ้นปลาเยอะมาก  ตอนนี้น้ำลดปลาถอยหมดแล้ว”  ชายคนเดิมพยายามผูกมิตรด้วย
                    “ปีนี้น้ำโขงเป็นยังไง ?” ผมถาม
“ปีนี้น้ำลดลงมากกว่าทุกปีมาก  น้ำในโขงบ่เคยลดต่ำขนาดนี้...”
                      “น้าเคยจับปลาสูงสุดในวันหนึ่งได้ปลากี่กิโลกรัม”  ผมยิงคำถามต่อ  เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า
                      “เกือบ  300  กิโลกรัม” 
                    “โอ้โหจับปลาได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ” ? 
                    “...เฮาใช้เครื่องดูดปลาซื้อจากเวียด(นาม)  เฮาเอาเครื่องจุ่มน้ำพวกปลาหนังจะว่ายเข้ามาหา  เฮาก็เอาไฟฟ้าช๊อตเอา  แล้วใช้สวิงตักปลา วันหนึ่งได้ปลาร้อยกว่าโล ตอนหลังทางการห้ามก็เลยขายเครื่องทิ้ง ทุกวันนี้เลยได้แต่ใช้ตาข่ายกับเบ็ดตึ้กปลา” 
ตกปลาน้ำโขงในลาว
ภาพที่ 20
                      หลายปีมาแล้วที่ผมให้ความสนใจกับมหานทีแม่น้ำโขง  สายน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง  แม่คงคาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง  ว่ากันว่าชีวิตของหล่อนอุบัติขึ้นก่อนมนุษย์คนแรกจะถือกำเนิด  ประมาณกันว่าทุกวันนี้เธอยังคงโอบอุ้มชุบเลี้ยงผู้คนสองฝั่งโขงหลายล้านคน แต่วันนี้วิถีชีวิตของหล่อนกำลังจะเปลี่ยนไป ถ้าการแสวงหาผลประโยชน์ในตัวเธอยังเพิ่มขึ้นในทุกที่ที่หล่อนย่างกายผ่าน ถึงจุดๆหนึ่งเธอก็คงเหนื่อยล้าหมดแรงและในที่สุดเธออาจจะถึงจุดจบได้  ณ.วันนี้มีสิ่งบอกเหตุหลายอย่างบ่งบอกให้รู้ว่า  มหาชลาลัยสายนี้กำลังจะเปลี่ยนวิถีไปจากเดิม จากน้ำมือมนุษย์ที่หล่อนชุบเลี้ยงมา
                                                                                                                                  จบ
“ดอกแคแดง”ของลาวเป็นดอกแคคนละชนิดกับที่บ้านเราเอามาใช้แกงส้ม ดอกแคแดงเวลาบานเต็มที่มีรูปทรงคล้ายดอกชะบามีสีแดงคล้ำ ดอกออกตามกิ่งเป็นต้นไม้ใหญ่
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024