เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับเป็นเรื่องที่ผมพบเจอมากับตัวเอง ถ้าน้าๆท่านใดไม่เห็นด้วยแจ้งลบได้เลยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยความที่ไม่ค่อยมีคนที่มาใช้บริการที่งานผมมากนัก ผมก็เลยว่าง พอดีรถ EMS
( EMERGENCE MEDICINC SERVICE ) แปลว่า การให้บริการทางด้านการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ต้องออกไปรับ
ผู้ป่วยทีห้องเช่าห้องหนึ่ง ผมก็เลยไปกับเขาด้วย ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ประจำรถก็มีครบแล้ว (เจ้าหน้าที่ประจำรถ EMS มี3 คน
พยาบาล1 เวรเปล 1 คนขับรถ 1 ทั้งหมดผ่านการอบรมมาแล้ว รวมถึงผมด้วยนะครับ ) พอพวกผมไปถึงห้องเช่าที่มีผู้ป่วย
อาศัยอยู่นั้น พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็ได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์หลายๆกลิ่นรวมๆกัน แต่ไม่ใช่ปัญหาในการทำงานของ
พวกผมทั้ง 4 คน ถายในห้องซึ่งกว้างประมาณ 5 ม ยาว 10 ม มีห้องน้ำ1 ห้อง ประตู2 บานหน้า-หลัง หน้าต่าง1บาน บนเพดาน
มีหลอดไฟ1 ดวง มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เช่น ทีวี ตู๊เย็น พัดลม อยู่ในสภาพพร้อมใช้เพราะว่าถ้าไม่พร้อมใช้
ต้องทิ้งเลยไม่ต้องซ่อมเพราะเก่ามาก ภายในห้องอาศัยกันอยู่ 3 คนประกอบด้วย หญิงชราวัย 70กว่า หลานสาวอายุประมาณ
18-19 และสามีของเธอ ซึ่งถือว่าคับแคบมากในการพักอาศัย หญิงชราที่นอนอยู่บนที่นอนเก่าๆ (ผมขออนุญาติเรียกว่ายาย
แล้วกัน ) ยายแกเป็นอัมพาตตั้งแต่คอจนถึงปลายเท้า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย งานของผมก็คือการเคลื่อนย้ายยาย
แบบ 2 คนลงเปลเพื่อยกยายไปที่เตียงบนรถอีกทีหนึ่ง ขณะที่ยกร่างของยายอยู่นั้นก็เหมือนมีตัวอะไรมาไต่ทีมือของผม
และอยู่บนที่นอนของยายด้วย พอผมมองลงไปก็เห็นเป็นมดหลายสิบตัวทั้งที่มือผม และที่นอนของยาย พวกผมจึงกลัวว่า
จะมีมดอยู่บนตัวยายอีก ก็เลยให้หลานปัดมดบนที่นอนยายออกแล้ว ให้ยายนอนลงใหม่เพื่อตรวจดูมดตามตัวของยาย
ด้านหน้าไม่ค่อยมี พวกผมก็เลยช่วยกันจับยายนอนตะแคงเพื่อดูด้านหลัง อึ้งครับ ทั้ง4 คนอึ้งเหมือนกันหมด เพราะภาพ
ที่พวกเราเห็นก็คือมดครับ ไม่ได้มีเป็นสิบครับแต่มันมีเป็นร้อยๆ พวกมันกัดกินและอาศัยอยู่ในเนื้อหนังของยายครับ
ถ้าพวกน้าๆนึกไม่ออกให้นึกถึงรังผึ้งครับ ทีนี้งานก็เข้าซิครับเพราะต้องพยายามเอามดออกมาให้หมดและเช็ดแผลของยาย
ให้ทั่ว ระหว่างที่ทำอยู่ก็เลยพูดคุยกับหลานสาวไปด้วย ได้ความว่า ยายแกเป็นโรคเบาหวานด้วยและไม่ได้เชั็ดด้านหลังของ
ยายมา 2 วัน เพราะยุ่งเนื่องจากต้องไปดูสามีทีรถจักรยานยนต์ล้ม ผมจึงถามไปเรื่อยๆว่า แล้วทำไมไม่ค่อยพายายไปพบ
หมอบ้าง หลานก็บอกว่า ไม่ค่อยมีเงิน เพราะว่ายายมีสิทธิเบิกได้ และยังไม่ได้สแกนนิ้วจึงต้อง สำรองจ่ายไปก่อน
ผมเลยถามว่า ลูกของยายทำงานอะไรกันบ้าง คำตอบที่ได้ก็คือ ลูกของยายทำงานเป็น ข้าราชการถึง 2 คน สามารถเบิกได้
เต็มทั้ง 2 คน แต่นานๆ มาซักครั้งหนึ่ง มาทีไม่ถึงชั่วโมงก็กลับ และที่สำคัญก็คือ ค่อนข้างมีฐานะทั้ง 2 คน แต่ทั้ง 2 คนนั้น
เกี่ยงกันที่จะนำยายไปดูแลที่บ้านของตน อ้างเหตุผลเดียวกันก็คือ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน เพราะยายมีลูกเพียง 2 คน
เท่านั้น ส่นหลานสาวนั้นไม่ได้เป็นอะไรกับยายโดยสายเลือดเลย เพียงแต่แม่ของหลานสาวคนนี้ เอาลูกมาฝากยาย
เลี้ยงแล้วก็ทิ้งไปเลย
อ่านถึงตรงนี้แล้ว น้าๆคิดกันอย่างไรบ้าง ขนาดผมแค่ฟังก็รู้สึกว่า ยายแกได้ตายไปนานแล้ว แม้ร่างกายของแกยังคงอยู่
แต่จิตใจของแกได้ตายไปแล้วครับ แกตายทั้งเป็นครับ