ขับรถช้าทำไม.........
ภาพที่ 1ทุกวันนี้ผมจะขับรถไปทำงาน เรื่องบนพื้นถนนเจอประจำมีเหตุการณ์หลายๆอย่าง
อย่างเมื่อเช้า ณ จุดไปแดงถนนเลี่ยงเมืองตรงนั้นจะทำแบบเลี้ยวรถกลับด้วยห่างไปแดง 15 เมตรขณะที่ติดไฟแดงอยู่มีป้าคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ตรงที่ให้เลี้ยวกลับรถ แต่ป้าแกไม่มองทางซ้ายมือปิ๊กอัพขับมาพอดีเบรกดังเอี๊ยดดดด..!!!!สนั่นเลย ไม่งั้นทับป้าแกไปแล้ว แต่ป้าแกเหมือนไม่ได้ยินขับรถไปเฉยแบบนั้น นี่แหละคนแก่ไม่ชอบมองซ้ายมองขวาหรือบางทีตัวเราๆเองที่เผลอเป็นบางครั้ง หรือบางทีป้าแกอาจจะเคยขับรถใน กทม.มาก็เป็นได้ เพราะในกทม.หางจะแซงหรือเลี้ยวต้องรีบแซงเลยไม่งั้นไม่มีโอกาสเพราะรถมันเยอะถึงแม้จะมีรถขับมาประชั้นชิดก็ตาม เพราะคิดอยู่ในใจอยู่ว่าเดี๋ยวไอ๊คันหลังมันก็เบรกเองแหละ
ผมว่าคนเราบางคนก็แปลกนะ ทั้งๆที่ขับช้าแต่ชอบขับเลนขวาซะงั้น บางทีบีบแตรเตือนให้หลบทางก็เฉย กระพริบไฟก็แล้ว บางทีมีหัวเราะ ตรูไม่หลบซะอย่าง บางคนทำเป็นเคืองเมื่อโดนบีบแตรเตือนจากรถด้านหลังทำเป็นขับส่ายไปส่ายมา หรืออาจจะมีแบบเปิดกระจกออกมาตะโกนบอก มิงจะรีบไปตายไหนวะ หรือบางคนขับไปคุยโทรศัพท์ไปไม่สนใจใครอันนี้เจอบ่อย แต่ที่เคืองสุดๆคือเวลากลางคืนขับรถมาดีๆ คันข้างหลังที่มันขับตามมาอยากลงไปถามมันจัง มันจะเปิดไฟสูงทำไม บางทีขับมาจี้ตูดจะแซงก็ไม่แซงกรรมของเราแท้ๆเลยต้องเอามือไปบิดกระจกส่องข้างหลังหลบออกจากสายตาที่ไฟรถคันหลังมาส่องมากระทบ
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วขณะที่ขับรถกลับจากที่ทำงานตอนกลางคืน ตอนนั้นขับอยู่ประมาณ80/ สักพักมีรถเก๋งขับแซงผมไปอยู่ข้างหน้าทิ้งระยะไว้ที่ประมาณช่วงตัวรถขณะที่ขับเพลินๆมีรถจักรยานยนต์ขับแซงทางซ้ายผมไปแล้วปาดมาทางหน้ารถฝั่งขวาผมต้องเบรกรถเบาๆทันทีด้วยความตกใจ นึกในใจ ไอ๊นี่มันน่านักเชียว สักพักมันขับรถแซงรถเก๋งคันหน้าขับแซงทางขวาแบบประชิดรถเก๋งคันนั้นมันก็เบรกเหมือนผมเบรกนี่แหละ รถจักรยานยนต์คันนั้นแซงได้แล้วแทนที่มันจะบิดไปไม่ใช่แบบนั้นมันส่ายไปส่ายมาหน้ารถเก๋ง ขับเร็วบ้างช้าบ้าง ผมนึกในใจตอนนั้นเลยว่า มันน่าเบิร์ดกระโหลกซะจริง แต่ความคิดผมไม่เร็วเท่ารถเก๋งครับรถเก๋งคันนั้นเพิ่มความเร็วเปิดไฟสูงขับตามบี้ตูดรถจักรยานยนต์ ผมก็ไม่รอช้าด้วยความอยากรู้เพิ่มความเร็วรถเหยียบไปดูใกล้ๆคิดว่าต้องมีเบียดกันล้มแน่ๆ เชื่อเถอะครับพอรถเก๋งขับไปจี้ตูดรถจักรยานยนต์คันนั้นที่ขับอยู่กลางเลนมันเบรกซะงั้นรถเก๋งต้องเบรกตามมัน เหมือนมันกวนทรีนไม่กลัวด้วย แล้วมันก็บิดรถเร็วบ้างเบรกบ้างอยู่แบบนั้นรถเก๋งก็ขับบี้ท้ายแบบนั้นจะชนก็คงไม่กล้า เป็นระยะทาง 2กิโล ผมขับตามท้ายมองแล้วลุ้นมากๆไม่รู้จะเชียร์จะด่าใครดี พอใกล้เข้าตัวเมืองรถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าหอพักแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ติดถนน รถเก๋งคันนั้นเลี้ยวตามและจอด มีผู้ชายวัยรุ่นเดินลงจากรถ 2คน แล้วผมก็ขับรถผ่านไปและจอดดูเหตุการณ์ห่างออกไป 200เมตร แต่ด้วยความมืดและไกลเกินสายตาเลยไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้น และอีกประมาณ 5นาที รถเก๋งคันนั้นก็ขับรถออกมา แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านปกติ
จนทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่ว่ารถเก๋งคันนั้นคงลงไปบอกจักรยานยนต์คันนั้นว่า .....อืม...มึงแน่มาก.......
ปีใหม่นี้เดินทางกันก็ขับรถปลอดภัยถึงจุดหมายนะครับ