สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 ธ.ค. 67
ฉิ่งฉับทัวร์ : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 8 - [2 ธ.ค. 53, 09:31] ดู: 3,550 - [20 ธ.ค. 67, 00:18] โหวต: 1
ฉิ่งฉับทัวร์
5ดาว (163 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
17 พ.ย. 53, 09:44
1
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 1
            เมื่อเอ่ยถึงอีสานบ้านเฮา อีสานใต้ บางภาพในจินตนาการ  มองเห็นแต่ดินแห้งแตกระแหง ทุ้งซังข้าวแห้งกรอบสุดลูกหูลูกตา ชาวนาเก็บความยากจนเต็มยุ้ง  เถ้าแก่โรงสีเก็บเงินเต็มฉาง  ถนนหนทางผอมโซ  ถ้าจะเปรียบภาคอีสานเป็นลูกคนหนึ่งที่มีพ่อเป็นรัฐบวม  คงประมาณได้กับลูกชังที่ขาดการเหลียวแลจากพ่อแม่
            หลังฤดูเก็บเกี่ยว หนุ่มสาวมุ่งเข้ากรุงหารายได้จุนเจือครอบครัว ทิ้งผู้เฒ่าผู้แก่อยู่เหย้าเฝ้าเรือน โดยทั่วไปชาวบ้านจะมีเวลาทำงานรายวัน ทำบ้างไม่ทำบ้างสบายๆไม่เครียดไม่ซีเรียสวันไหนไม่ทำงานก็นัดกันออกไปหว่านแหจับปลา  ตามประสาคนที่มีใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
            ลำพังการขึงมองวางเบ็ดจับปลาก็พอรับได้  แต่การใช้ไม้ตีน้ำต้อนปลาเข้าตาข่ายเพื่อหว่านแหจับปลาแบบนี้แหละที่นักตกปลาที่ไปร่วมใช้สนามประลองยุทธด้วยไม่อยากเจอะเจอ  เพราะนักตกปลาต้องการพื้นน้ำอันเงียบสงบในการเหวี่ยงเบ็ดตกปลา  เงียบขนาดที่ว่าแม้นแต่เสียงคุยกันบนเรือก็อาจจะทำให้ปลาตื่น และล่วงรู้ถึงภัยที่จะมาถึงตัว  หลายคนเชื่ออย่างนั้น
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 2
วันที่ 31 เดือน 3  พวกเราอาศัยวีโก้บรรทุกพาหนะลอยน้ำ 3 ลำ มีเฮียน้อยเป็นผู้กุมบังเหียน พาห้าเสือแห่งทุ่งเมืองช้างทะยานสู่หมายชะโดที่ อ. ขุขันธ์ พวกเราค้นพบหมายนี้โดยบังเอิญจากกุ๊กหนุ่มวันใจดีในตลาดโต้รุ้งที่อ.ขุขันธ์  ผูกสัมพันธ์โดยอุดหนุนอาหารมื้อค่ำจนเป็นขาประจำ
            อ่างเก็บน้ำนี้อยู่ติดถนนซอยที่แยกจากถนนใหญ่ไม่ไกลนัก  ( ผมเรียก “หมายตลาดนัด” )  สภาพโดยรวมไม่มีอะไรน่าสนใจเนื่องจากวิวไกล  เห็นแต่หญ้าขึ้นเป็นแพในลักษณะคล้าย เกาะเล็กเกาะใหญ่กระจายอยู่กลางอ่างเป็นแนวยาวจากเหนือจดใต้  เว้นบริเวณฝั่งตะวันออกและตกเป็นเวิ้งน้ำกว้าง  เมื่อมองผิวเผินผมยังสำคัญผิดคิดว่าเป็นหญ้าบนดิน  เป็นแหล่งน้ำตื้นขืน แท้จริงแล้วใต้แพหญ้าเหล่านั้นล้วนเป็นที่ซุ่มซ่อนตัวของเหล่ามัจฉาหลากหลายชนิด  อันเป็นเหยื่อของนักล่าอีกหลายสายพันธ์ที่คอยจ้องจับพวกมันเป็นอาหาร ส่วนคนหาปลาและนักตกปลาต่างคอยจ้องจับเหล่านักล่าอีกทีด้วยรูปแบบและวิธีการที่แตกต่าง แต่เหมือนกันในเป้าหมาย
            ตอนนั้นท้องฟ้าที่สดใสพลันเปลี่ยนเป็นขมุกขมัว ฝนฟ้าทำท่าจะเทลงมา ก็ดีไปอย่าง อากาศจะได้ไม่ร้อนตับแตก
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 3
พวกเรากระจายกำลังจับคู่ลงเรือ 3 ลำ อาจารย์ธีระ (สิงห์น้ำจืด) ขออยู่เงียบๆคนเดียว  ท่านจอดเรือตีปลาทางทิศเหนือของอ่าง  ถัดมาเป็นลำของโปรน้อยกับเซียนจุ้ย ส่วนผมกับคุณสมศักดิ์ตีเหยื่อเลาะไปทางทิศใต้จนพบแปลงบัวสายกว้างประมาณ 50 ตารางวา  ล้อมรอบด้วยแพหญ้า  เพียงไม้แรกที่ผมตีเหยื่อเข้ากอบัวแล้วลากกบปลอมกลับมาไม่ถึงหนึ่งคันเบ็ดปลาก็กัดเหยื่อ  แต่กรอเก็บเอ็นได้ไม่กี่เมตรปลาก็ติดแพหญ้าเล็กๆ  แล้วมันโชคดีหนีรอดไปได้  ไม้แรกของคุณสมศักดิ์ก็ได้ตัวขี้ดื้อเช่นกัน  เราได้ไซส์เดียวกันนี้ 3  ตัว ล้วนปล่อยไปทั้งหมด
            ไกลออกไปทางทิศใต้  ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง 5-6 คน ลุยน้ำเสมออกตรงมาทางเรา และผ่านด้านหลังเราไปหยุดอยู่กลางระหว่างเรากับเรือของโปรน้อย  พวกเขาเอาตาข่ายครอบแพหญ้าแพหนึ่งปล่อยชายห้อยถึงพื้น  ล้อมแพหญ้าเป็นรูปตัวยู  แขนตาข่ายสองข้างขึงยาวอ้าออกไป ด้านหน้าผูกตรึงกับไม้ไผ่สองลำลักษณะคล้ายโพงพาง  จากนั้นพวกเขาเดินล้อมวงใช้ไม้ไผ่ที่ส่วนปลายมีแหวนเหล็กร้อยเป็นพวงตีน้ำไล่ต้อนปลาเข้าตาข่าย  เมื่อปิดล้อมตาข่ายดีแล้วก็ล้วงเอาแพหญ้าที่พยุงตาข่ายออก แล้วช่วยกันมุดน้ำงมจับปลา ส่วนใหญ่จะเป็นปลากระมัง, กระแห, ปลาขาว พวกเขาจับปลาทั้งวันด้วยวิธีนี้ได้ปลาร่วม 20 กิโลกรัม
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 4
            ...อกอีแป้นจะแตก... นักตกปลาหลับตาคงนึกภาพออก เสียงไม้กระทบน้ำดังกึกก้องสะเทือนถึงใต้บาดาล ปลาที่ฉวยเหยื่ออย่างคึกคะนองพลันเงียบหายไปหมด เราพายเรือติดจรวดหนีไปทางทิศใต้  โปรน้อยก็แจวเรือติดเทอร์โบอ้อมไปทางเดียวกัน  ทักทายกันจึงรู้ว่าเซียนจุ้ยล่อแม่ปลาช่อนโลกว่ามาตัว  ก่อนหน้าที่ฉิ่งฉับทั่วร์จะตั้งวงแสดงคอนเสิร์ต  ส่วนชะโดสองตัวไซส์ไม่ถึงโทรฟี่พวกก็ไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือ
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 5
            ตัดภาพไปที่อาจารย์ธีระ
            “ผมส่งเหยื่อออกไปได้สิบกว่าไม้ปลาก็ฮุบเหยื่อ แต่ตัวเท่าแขนเลยปล่อยไป ตีอยู่อีกพักหนึ่งคราวนี้ปลากระฉากเหยื่อแรงมาก ผมรู้ว่าตัวใหญ่แน่นอน ผมอยู่คนเดียวจึงไม่ทิ้งสมอ พยายามดึงปลาเข้ามา  มือหนึ่งถือคันอีกมือแหวกสาหร่ายออก พอใกล้ถึงตัวเหยื่อผมเอามือน้าวเอ็นเข้ามาใกล้  กะว่าจับตัวเหยื่อได้ก็จะหิ้วขึ้นเรือ แต่มันมีก๊อกสองดิ้นสุดแรงลากเอ็นออกยาวจนบาดนิ้ว  อารามสะดุ้งเผลอลดคันลงชั่วแวบเดียวมันก็ดิ้นหลุด  ผมส่งเหยื่อไปที่เดิมซ้ำๆ โดนฉวยอีกแต่ไม่ติดเบ็ด  ผมคิดว่ามันน่าจะอยู่กันเป็นฝูงผมไม่ขยับเรือไปไหน ตีเหยื่อย้ำอยู่ที่เดิมเป็นชั่วโมง  คราวนี้มันกัดนิ่มๆไม่รุ่นแรงเหมือนตัวแรก พอลากเข้ามาใกล้จนจับตัวเหยื่อได้ก็หิ้วขึ้นเรือ  เที่ยวหน้าคงต้องเอาสวิงมาด้วย” เป็นฉากการต่อสู้ระหว่างสิงห์น้ำจืดกับพยัคฆ์น้ำจืด  ท่านเล่าให้ฟังขณะนั่งกันอยู่ในรถ
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 6
เศษซากสงคราม
              วันที่ 2 เดือนถัดมาพวกเรายกพลไปถล่มพยัคฆ์น้ำจืดที่หมายตลาดนัดอีก  ต่างคุยทับกันจะล้มเรค คอร์ดของสิงห์น้ำจืดให้ได้ ไฟท์นี้เซียนจุ้ยติดไปเช็งเม้งจึงพักรบชั่วคราว  มีคุณตั๊กเป็นมวยแทน  เขาถูกโดดเดี่ยวให้เข้าประจำฐานที่มั่นที่อาจารย์ธีระได้ปลาเมื่อวันก่อน  ส่วนสิงห์น้ำจืดกับโปรน้อยลอยเรือไปทางทิศเหนือ บริเวณนั้นน้ำลึกเป็นดงบัวหลวงแปลงใหญ่ติดถนนลูกรัง  ส่วนผมกับคุณสมศักดิ์ตรงไปที่หมายก่อบัว  ระหว่างทางผมจับนักเลงรุ่นเยาว์ได้ตัวหนึ่ง  กดชัดเตอร์แล้วก็คืนอิสรภาพให้มัน...โตกว่านี้เมื่อไหร่ค่อยเจอกัน
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 7
  เราผิดหวังมากกับหมายก่อบัวที่เราคาดหวังว่า น่าจะได้เจอพยัคฆ์น้ำจืด ที่เข้าขย้ำเหยื่อของเราอย่างเร้าใจเมื่อครั้งก่อน  ก่อบัวทั้งแปลงถูกตีกระจุยกระจาย ใบบัวเน่า สายบัวช้ำ และจอกเท่าผ่ามือลอยเต็มไปหมด เราขยับเรือไปทางใต้อีก  ซึ่งที่นั่นมีอีกหมายที่เราหมายตาไว้  มันเป็นอีกจุดหนึ่งเท่าที่เรารู้ว่าพยัคฆ์น้ำจืดอยู่ที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 ตัว ที่เมื่อวันก่อนมัน
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 8
            ทักทายเราอย่างดุเดือด  บัวหลวงที่ขึ้นโหรงเหรงสลับกับก่อบัวสายยังคงสภาพเดิมอยู่  เบ็ดราว 2 สายยังคงห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศ แม้ว่าหมายเล็กๆนี้จะยังไม่ถูกทำลาย แต่
จอกหนูรอบหมายถูกฉิ่งฉับทัวร์ตีแตกเละเป็นแถบๆ  เราตีเหยื่ออย่างขาดความมั่นใจ กี่ไม้ๆก็ไร้การทักทายจากเจ้าถิ่น  เรารู้ว่ามันยังแอบซุ่มซ่อนตัวกบดานอยู่ที่นั่น บางทีมันอาจจะคอยจังหวะจู่โจมเหยื่อของมันอยู่ก็ได้  แต่ไม่ใช่วันนี้
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 9
            ด้านหลังของเราทางทิศตะวันออก ชาวประมงพื้นบ้านสูงอายุผิวคล้ำไม่สวมเสื้อกำลังลงมอง ด้านหน้าไม่ถึงยี่สิบเมตรหนุ่มใหญ่อีกสองคนบนเรือลำน้อยต่างกำลังลงมองเช่นกัน ทางทิศตะวันตกใกล้ฝั่ง จอมยุทธอีกท่านกำลังลุยน้ำเสมอสะโพกเหวี่ยงเหยื่อปลาดุกเดินหน้าไปทางทิศเหนือ
            นี่แหละประเทศไทย “ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” สินในน้ำ ใครที่ขยันมีความสามารถก็กวาดเก็บเอา แล้วแต่รูปแบบและวิธีการของแต่ละคน ทุกชีวิตที่โลดแล่นอยู่ในอ่างต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน ที่ต่างกันก็คือใครต้องการอิ่มท้องหรืออิ่มใจเท่านั้น
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 10
                      ตัดภาพไปที่คุณตั๊ก
                      เขาไม่ขยับเรือไปไหนเลย  คงปักหลักตีเหยื่อซ้ำๆในที่เดิม  เรารับรู้ในเวลาต่อมาว่าเขาเพียงคนเดียวในหมู่เราที่พยัคฆ์หนุ่มยอมสยบอยู่ใต้คมเบ็ดของเขา
                    ตะวันลับทิวทุ่งไปแล้ว  เราแจวเรือเข้าฝั่งบรรทุกความว่างเปล่าเต็มเรือ  คงอีกนานกว่าธรรมชาติจะเยียวยาตัวเธอเองให้คืนสู่สภาพเดิมเหมือนเมื่อเราแรกเจอ  และคงอีกนานกว่าพวกเราจากลับมาเยี่ยมเยียนเธออีก
            เราสัญญาเราจะกลับมาหาเธออีกเมื่อเธอพร้อม
                                                                               
ฉิ่งฉับทัวร์
ภาพที่ 11
        ขอบคุณทุกท่านที่ตามชมครับ
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=34134