หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

การเลือกคันเบ็ด 

                ความเหมาะสมในการเลือกหาคันเบ็ดที่ดีและที่สำคัญที่สุดในการเลือก  ก็คือ  คันเบ็ดคันนั้นต้องถูกใจผู้ใช้ให้มากที่สุด  เพราะถือว่าถ้าหากซื้อแล้วถูกใจคนขาย คือให้คนขายเลือกให้  ผู้ขายก็ต้องเชียร์ของที่แพง  เอาไว้ก่อนเนื้อหาในตัวประกอบไม่เกี่ยว  คือขายเอาราคาแพงเอาไว้จะได้เงินเข้าร้านมากๆ 
                โดนกันมามากแล้ว  ทางที่ดีที่สุดในการที่เราจะเลือกหาคันเบ็ดของเราเองนั้นควรที่จะต้องเลือกที่ความเหมาะสมก่อน สิ่งแรกก็คือความพอใจของเราเองความพอใจของเราได้มาจากอะไรก่อน 
                1.    จับดูแล้วถนัดมือ 
                2.    สีสันถูกใจ  การพันสายไกด์  เรียบร้อย  แน่นไม่บิดเบี้ยว 
                3.    แอ๊คชั่นดีเหมาะสมกับความต้องการ
                4.    สารที่นำมาประกอบนั้น  มีความเหนียวทน  อันที่จริงแล้ววัสดุที่ได้นำเอามาประกอบเป็นเนื้อคันเบ็ดนั้น  ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้เลย  การที่ผู้ผลิตได้เขียนติดมาข้างคันเบ้ดว่ามีวัสดุชนิดนั้นชนิดนี้  แล้วคนซื้อนะไม่อะไรหรอกบางที่บอกก็ไม่เข้าใจอะไรมากนัก  คนขายบอกว่าดีก้เอออกไปด้วยข้อนี้มีทางแก้ไข   
                หลักการที่เสนอให้เพียง  4  ข้อนี้  ก็น่าจะเพียงพอแล้ว  สำหรับการเลือกหาซื้อคันเบ็ด  คันเก่งเอาไว้เป็นคันหมานคู่มือของเรา 
                ทีนี้เราก็มาดูรายละเอียดกันให้แน่ๆ  อีกที่ว่าคันเบ็ดนั้นมีความเป็นมาอย่างไรมีอะไรที่เป็นตัวประกอบบ้าง 
                โครงสร้างของวัสดุที่นำมาทำเป็นคันเบ็ดนั้น  มีด้วยกันหลายชนิด  แต่ละชนิดนั้นก็มีคุณสมบัติความดีเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง  สมัยก่อนการทำคันเบ็ดนั้นไม่มีการใช้วัสดุแปลกปลอมเหมือนทุกวันนี้  คนโบราณ  ใช้ไม้ไผ่ในการทำคันเบ็ดเพราะเหตุที่ว่าไม้ไผ่นั้นมีความเหนียวแข็งแรงไม่หักง่ายเหมือนกับไม้ทั่วไปจึงมีการเลือกเฟ้นหาไม้ไผ่ที่มีลักษณะที่ดีมาทำคันเบ็ด 
                การเลือกไม้ไผ่มาทำคันเบ็ดนั้นก็ไม่ยากอะไรนัก  การเลือกก็ต้องเลือกไม้ไผ่ที่มีความแก่ๆ  ไม่ต่ำกว่าสามน้อง  นี้เป็นภาษาที่ใช้เรียกไม้ไผ่ที่จะนำมาใช้  คำว่าน้องหมายความว่า ปี สามน้องก็หมายความว่า  ไม้นั้น  มีอายุไม่ต่ำกว่า สามเป็นนั่นเองไม้ไผ่ที่แก่  จะมีเนื้อไม่ที่มีสีแดงเมื่อฟันไม้ดูที่โคนตอ  สีจะแดงจัดนั้นคือไม้แก่จัด หากว่าฟันดูแล้วไม่แดงมากแสดงว่าไม้ไม่ได้อายุไม่ดีไม่เหมาะที่จะมาทำ  แต่ก็ใช้ได้เสียตรงที่ว่าอายุของการใช้งานจะไม่ยาว  และก็ไม้จะไม่มีความยืดหยุ่น 
                ข้อที่  2  ก็มาดูปล้องของไม้  ไม้ที่เหมาะกับการที่จะนำมาทำคันเบ็ดนั้นปล้องจะต้องถี่มากๆ  ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี  เพราะจะทำให้ไม่มีความแข็งและสปริงตัวได้ดียิ่งขึ้น และปล้องจะต้องเสมอกันไปตลอดทั้งลำยันปลาย 
                ข้อที่  3  เมื่อตัดมาแล้วหงายตูใต้ไม้ตรงโคนนั่นแหละ  รูจะต้องตัน  หากจะมีรูก็อย่าให้มีมากนัก  ควรเลือกโคนที่ต้นดีที่สุด 
                เมื่อได้สเป็กตามความต้องการแล้วก็นำเอามา  ตัด  เหลา  เหลา  กลึง  ให้เป็นที่เรียบร้อย  ใช้กระดาษทรายถูตามข้อให้เรียล  อย่าใช้มีดเพราะว่ามีดจะทำให้เปลือก  หรือผิวของไม้ไผ่เสียฉีดขาด  ทางที่ดีเราควรใช้ไม้ไผ่นั่นแหละดีที่สุด 
                เมื่อทำการแต่งเรียบร้อยแล้ว  ขั้นตอนต่อไปคือการแช่ในน้ำเกลือ    ขั้นตอนนี้อาจจะยากเสียก่อน  หาท่อเอสล่อน  มาทำรางแช่ให้ได้ตลอดทั้งลำเอาน้ำเกลือ  เข้มข้นใส่ลงไปแล้วนำเอาไม้ไผ่แช่ให้ตลอดทั้งลำ  ทิ้งเอาไว้อย่างนั้นสัก  10  วันให้น้ำเกลือซึมเข้าไปในเนื้อไม้ให้ทั่วจนอิ่มน้ำ 
                ขั้นตอนนี้  เพื่อทำให้ไม้ไผ่รัดตัวแน่นขึ้นอีก  ไม้จะมีสปริงขึ้นอีกเท่าตัว  และยังเป็นการที่ทำให้เนื้อไม้ไม่มีอะไรมารบกวน  เช่น ปลวก  มอด  เป็นต้น 
                เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้แล้วต่อไปก็เอาไม้ออกมาแล้วทำการถ่วง  วิธีการถ่วงนั้นไม่มีอะไรมากหรือยากเย็น  เพียงแต่เราหาที่สูงๆ  ขนาดที่แขวนไม้ไผ่ได้ทั้งลำโดยไม่ติดพื้น  เมื่อได้แล้วก็เอาไม้ไผ่แขวนเข้าให้แน่นหนาแล้วอะไรก็ได้ที่มีน้ำหนักมากๆ  ถ่วงเอาไว้อย่างนั้นหลายๆ  วันจนกว่าไม้จะแห้งสนิท  อย่าใจร้อนเป็นอันขาดให้แห้งจริงๆ  แล้วจึงปลดมาทำการผูกสายใส่เบ็ดนำเอาไปทดลองใช้ได้ 
                สูตรนี้รับประกันได้ว่าคันเบ็ดไม้ไผ่ที่มีประสิทธิภาพเอาไปใช้อย่างแน่นอนไม่ผิดหวัง  แต่เมื่อเห็นขั้นตอนแล้วอาจจะเรื่องมากสักหน่อย  แต่ก็โบราณนะเขาทำกันมา  อย่างนี้แหละ รู้มาก็นำมาเล่าให้ฟัง  เพื่อใครจะนึกอยากลองทำใช้ดู
                จบเรื่องไม้ไผ่ก็หันมาเข้าเรื่องเบ็ดติดรอก  หรือที่เรียกกันเสียจนติดปากเอาจริงๆ  จังๆ  ว่า  เบ็ดฝรั่ง  คันเบ็ดสมัยใหม่นั้นวัสดุทำมาจากส่วนประกอบหลายอย่างนำเอามารวมเป็นเนื้อเดียวกัน  ส่วนประกอบของวัสดุที่เก่าพอจะแยกออกได้ดังนี้ 
                คันเบ็ดรุ่นแรกนั้น  ส่วนประกอบของวัสดุตัวแรกที่ใช้กันที่แรกนั้น  ทำมาจากไฟเบอร์กลาส  ซึ่งก็เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งนั่นเอง    แต่จะนำมาทำเลยไม่ได้ต้องมีตัวประกอบอีกชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่าใยแก้ว  ซึ่งถ้าเอาทั้งสองสิ่งมารวมกันแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม  เหมือนมีสปริงมาติดเอาไว้ในคันเบ็ด  ความแข็งแรงทนทานก็ดีมาก  แต่ขั้นตอนในการผลิตออกมานั้นยากมากต้องอาศัยเครื่องมือ  เครื่องจักรในการทำหลายอย่าง  การผลิตจึงต้องมีการลงทุนมาก 
                แต่เนื่องจากวัสดุทั้งสองนี้มีราคาถูก  จึงมีผู้ผลิตได้ผลิตออกมาจำนวนมากหลายรุ่นหลายยี่ห้อ  จนเกลื่อนตลาดไปหมด  และก็ยังเป็นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าที่มีเงินทุนในการหาซื้อน้อยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  ในด้านราคาของคันเบ็ดที่ใช้วัสดุสองชนิดนี้  ก็มีราคาไม่สูง  ตั้งแต่  หนี้งร้อยกว่าบาทขึ้นไปจนถึงหลักพัน  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ  เช่น  ไกด็  ด้ามจับ  ลาย  สิ่งประกอบเหล่านี้จะสามารถที่จะทำให้ราคาดีขึ้นตามไปด้วย   
                การเลือกซื้อไม่ควรที่จะเน้นสิ่งประกอบที่กล่าวมา  การเลือกที่ดีที่สุดนั้น  ควรเลือกอันที่มีความคงทนแข็งแรงในการใช้งานนั่นแหละเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด 
                พอสรุปได้ว่า  คันเบ็ดชนิดนี้จัดอยุ่ในระดับชั้นดีแต่ราคาย่อมเยาว์  เหมาะสำหรับคนสตางค์น้อย 
                ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งวัสดุตัวต่อมามีชื่อในทางวิยาศาสตร์ว่า  (GRAPHTE)  แกรไฟต์  วัสดุชนิดนี้  มีความพิเศษในตัวของมันเอง  คุณภาพดีเหนือกว่า  ไฟเบอร์กลาสมาก  แต่ตัวของมันเองนั้น  ไม่สามารถที่จะนำมาประกอบได้เลยต้องมีส่วนประกอบอย่างอื่นอีกจึงสามารถที่จะทำเป็นคันเบ็ดขึ้นมาได้  ส่วนประกอบเหล่านั้นได้แก่  ใยสังเคราะห์ และไฟเบอร์กลาสชนิดแผ่น และวัสดุต่างๆ 
                ปกติแล้วตัวแกร์ไฟต์เองนั้นมีความเราะในตัวมาก  แต่เมื่อนำมาผสมกับวัสดุดังกล่าวแล้ว  จะมีประสิทธิภาพมาก  และเป็นคันเบ็ดที่มีน้ำหนักเบา  สปริงตัวได้ดีกว่าไฟเบอร์กลาส  แต่รู้ไหมว่าราคามันแพงกว่า  คันระดับแรกมาก  แต่ก็ยังมีผู้ผลิตที่ค่อนข้างที่จะรู้ใจในด้านตลาดหวังจะเอาใจนักนิยมแกร์ไฟต์  ก็เอาเนื้อแกร์ไฟมาผสมน้อยๆ  แล้วเขียนข้างคันว่าในคันเบ็ดนี้มีส่วนผสมของแกร์ไฟต์อยู่ก็เลยเป็นที่ถูกใจกันไป 
                ค้นประเภทนี้จะมีอยู่สองลักษณะ  คือถูก  กับแพง  การเลือกซื้อนั้นควรที่จะต้องพิจารณากันก่อน  ว่าการเพิ่มเงินอีกหน่อยกับลดเงินลงหน่อยอันไหนจะได้เนื้อคันเบ็ดที่ดีกว่ากัน 
                ค้นแกร์ไฟต์  นั้นมีอย่างดีชนิดพิเศษเลยก็มี  เรียกกันว่า  100  เปอร์เซ็นต์เลยแต่ราคานั้นไม่ต้องห่วงหลักหมื่นทั้งนั้น  ใครที่มีสตางค์ก็น่าหาซื้อเอาไว้ใช้นะเพราะคุณภาพยอดเยี่ยมดีไปเสียทุกอย่าง  แต่ต้องระวังหน่อยเวลาไปตกอาจจะโดนเพื่อนยืมเอาไปใช้ก่อน หรือเวลาฝนตกฟ้าร้อง  อย่าออกไปยืนกลางแจ้งมากนัก  เพราะ  แกร์ไฟต์  เป็นสื่อที่ล่อฟ้าได้ดีเยี่ยมเลย 
                อีกตัวหนึ่งที่เป็นวัสดุที่แพงมากกว่า  ตัวแกร์ไฟต์อีกก็คือ  โบรอน  ไอ้ตัวนี้นะแพงมาก  ไม่แน่จริงก็อย่าไปหาซื้อมาเล่นเลย  แพงกว่าแกร์ไฟต์  อีก  2-3  เท่าเลยนิยมกันในพวกคนมีสตางค์  แต่ไม่ค่อยพบการผลิตมากนัก  เพราะสาเหตุที่ว่าขั้นตอนการผลิตนั้นยุ่งยากสลับซับซ้อน  และที่สำคัญก็คือ  เนื้อวัสดุมีราคาแพงนั่นเองจึงไม่เหมาะกับการลงทุน 
                ที่กล่าวมานี้คือส่วนประกอบที่ควรจะเลือกและพิจารณาในการเลือกซื้อหามาเป็นเพื่อนคู่มือของนายพราน  ถ้าเป็นเราๆ  ที่มีสตางค์น้อย  ควรจะเลือกเอาอย่าแรกเอาไว้ก่อน  แต่ก็เลือกเอาที่ดีๆ  หน่อย  อย่างแรกมีให้เลือกกันอย่างจุใจอยู่แล้วในตลาดบ้านเรา  เดี๋ยวนี้มองดูแล้วสวยๆ  ทั้งนั้น 
                ในส่วนประกอบชนิดอื่น  อย่างที่กล่าวมาแล้ว  เช่น  ด้ามจับ  ที่ร็อกรอก  REEL  SEAT  1ไกด์  GUIDE  ที่ดี่ที่สุดต้องเลือกอย่างที่แข็งแรงที่เรียกว่าสองขานั่นแหละดี