ภาพที่ 1บทความโดย James1
นักตกปลาด้วยเหยื่อปลอมแต่ละคนต่างก็มีวิธีและเทคนิคเฉพาะตัวในแบบของตัวเอง การตกปลาด้วยเหยื่อปลอมในหมายธรรมชาติหรือบ่อปลาขังก็ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของแต่ละหมาย
ไม่ว่าจะเป็นหมายที่โล่งหรือหมายที่รกร้างและมีพื้นที่ผิวน้ำไม่มากนัก หมายธรรมชาติหลายแห่งสภาพที่ทุรกันดาร ซึ่งอาจจะมีทั้ง สวะ กอหญ้า ต้นไม้กลางน้ำ สตรัคเจอร์ต่างๆ การตีเหยื่อปลอมแต่ละจุดนักตกปลาจึงต้องใช้ประสบการณ์ของตนเองในการเลือกใช้วิธีการตีเหยื่อและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
วิธีการตีเหยื่อแบบต่างๆ และท่าตีทั้งแบบ โอเวอร์เฮด ไซด์คาส หรือพิชชิ่ง เป็นเทคนิคที่จำเป็นมากสำหรับการตีเหยื่อในพื้นที่หรือสภาพหมายที่แตกต่างกัน รวมทั้งการตีเหยื่อในกรณีที่อยู่บนเรือ แต่สิ่งที่จะพูดถึงในบทความนี้คือวิธีการเดินตีเหยื่อปลอมรูปแบบต่างๆ ที่ตัวผมเองมีความถนัดและนิยมใช้บ่อยๆ ตามหมายธรรมชาติ เพราะการเดินตีเหยื่อในบ่อปลาขังนักตกปลาหลายท่านคงมีความถนัดกันมากพออยู่แล้ว
วิธีการเดินตีเหยื่อปลอมที่ผมจะอธิบายต่อไปนี้ไม่ได้เป็นรูปแบบที่ตายตัวว่าต้องตีแบบนี้เท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้ปลา แต่หมายความว่าการเดินตีเหยื่อในหมายที่เราไม่เห็นปลาขึ้นจิบ หรือหมายที่มีสภาพโล่ง หรือมีพื้นที่ในน้ำที่ค่อนข่างโล่ง หรือมีอุปสรรคกลางน้ำ วิธีที่ผมนำมาเสนอนี้ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ท่านอาจจะเลือกเอาไว้ใช้พิจารณาและประยุกต์ใช้กับการตกปลาของท่านก็ได้ครับ
สำหรับท่านที่มีประสบการณ์ในการเดินตีเหยื่อปลอมมากอยู่แล้ว ท่านก็สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันหรืออาจจะนำเสนอวิธีการเดินตีเหยื่อปลอมที่แตกต่างไปจากวิธีที่ผมใช้อยู่ก็ได้ครับ เพราะการตกปลาไม่มีอะไรตายตัว อุปกรณ์และเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ได้ผล จะต้องเหมาะสมกับสภาวะการณ์ในขณะนั้นด้วย
การเดินตีเหยื่อปลอมก็เป็นทริคอย่างหนึ่งที่อาจช่วยท่านได้เช่นเดียวกัน
ภาพที่ 2เป็นการตีเหยื่อรอบทิศทางจากจุดที่เรายืนอยู่ เมื่อตีรอบทิศทางแล้วก็ออกเดินต่อไปในระยะ 10 -15 เมตร และหยุดตีเหยื่อในลักษณะนี้และเดินตีเหยื่อต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ
ภาพที่ 3เป็นการตีเหยื่อจากระยะสั้นและเพิ่มระยะไปเรื่อยๆ จากระยะสั้นโดยอาจจะเริ่มจากระยะ 20 เมตรในไม้แรก และไม้ที่ 2 ก็เพิ่มเป็นระยะ 25 เมตร โดยเพิ่มระยะการตีเหยื่อให้ไกลขึ้นอีกในไม้ต่อๆไป ในจุดเดียวกันเราอาจจะตีเหยื่อลักษณะนี้ 3 - 4 ครั้ง และย้ายจุดตีเหยื่อด้วยการออกเดินต่อไปอีกประมาณ 5 - 10 เมตร เพื่อหยุดตีเหยื่อ และก็เดินตีเหยื่อปลอมในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ
การตีเหยื่อลกัษณะนี้เหมาะกับหมายที่เป็นบึง หรือหนองน้ำที่มีพื้นที่เป็นน้ำค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าตีเหยื่อในพื้นที่ทีี่่มีผิวน้ำโล่งน้อย ก็อาจจะเริ่มจากระยะ 5 - 10 - 15 เมตร ก็ได้เช่นกัน
หมายเหตุ อาจจะตีเหยื่อจากระยะสั้นและเพิ่มระยะให้ไกลขึ้น แล้วจึงลดระยะให้สั้นลงมาก็ได้ แล้วจึงค่อยเดินย้ายจุดต่อไป
ภาพที่ 4เป็นการเดินตีเหยื่อเลาะตลิ่ง โดยตีเหยื่อเลาะตลิ่งไปทางด้านใดด้านหนึ่ง 4 - 5 ไม้ แล้วจึงเดินย้ายจุดเพื่อตีเหยื่อในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ
หมายเหตุ การเดินตีเหยื่อ เราอาจจะตีเหยื่อเลาะตลิ่งสลับไปมาซ้ายขวาก่อนที่จะออกเดินย้ายจุดตีเหยื่อก็ได้
ภาพที่ 5เป็นการเดินตีเหยื่อไปยังสตรัคเจอร์หรือเกาะแก่งที่โผล่กลางน้ำ หรือต้นไม้ที่ตายซากอยู่กลางน้ำ โดยตีเหยื่อให้เลยไปเล็กน้อย และย้ายจุดตีให้ทั่วทุกด้านของต้นไม้กลางน้ำนั้น โดยหยุดตีจุดละ 2 - 3 ครั้ง ก่อนที่ย้ายจุดเพื่อเปลี่ยมมุมในการตี โดยย้ายจากจุดเดิมด้วยระยะ 5- 10 เมตร
วิธีนี้เหมาะสมสำหรับการตีเหยื่อปลอมแบบลอยน้ำมากกว่า เพราะเราไม่ทราบว่า เกาะแก่งหรือต้นไม้ที่โผล่กลางน้ำเหล่านั้น บริเวณรอบๆของมันอาจจะมีอุปสรรคใต้น้ำหรือไม่ หากเราใช้เหยื่อปลอมแบบจมน้ำตีเข้าหาสตรัคเจอร์ หรือต้นไม้กลางน้ำเหล่านั้น เราอาจสูญเสียเหยื่อปลอมที่รักของเราได้ เหยื่อแบบ Top water และเหยื่อปลั๊กแบบ Floating ที่ลอยตัวขึ้นเมื่อหยุดกรอสายจะทำให้ลดอัตราความเสี่ยงของการสูญเสียเหยื่อได้
แต่ถ้าจะลองใช้เหยื่อดำกลางหรือดำลึกตีเข้าหาเกาะแก่งเหล่านั้นก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ภาพที่ 6วิธีการเดินตีเหยื่อปลอมแบบผสม โดยนำเอาทุกวิธีมาประยุกต์ใช้ผสมกันไป เพราะในหมายเดียวกันเราอาจจะพบสภาพที่แตกต่างกันคือมีทั้งพื้นที่น้ำที่โล่ง มีทั้งสวะริมตลิ่ง และมีทั้งต้นไม้กลางน้ำ โดยนักตกปลาใช้ดุลยพินิจและประสบการณ์เลือกใช้แต่ละวิธีมาผสมกันเอาเองตามอัธยาศรัย
ภาพที่ 7การเดินตีเหยื่อเหล่านี้เป็นเทคนิคเล็กน้อยที่ผมนำมาเสนอเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องเดินแบบนี้เป็นสูตรสำเร็จจึงจะได้ปลา แต่อาจจะเหมาะกับนักตกปลามือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นและกำลังหัดตีเหยื่อปลอม
ภาพที่ 8การเดินตีเหยื่อปลอมคือการขยายขอบเขตการตกปลาของเราออกไป โดยเฉพาะหมายธรรมชาติ ดังนั้นการเดินตีเหยื่อปลอมนอกจากจะสร้างความหลากหลายและเป็นเทคนิคที่จำเป็นแล้ว ยังสามารถที่จะเพิ่มโอกาสได้ปลาของท่านให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ
James1
ภาพประกอบบทความเป็นภาพจากการออกทริพของผมเองครับ
ภาพที่ 9ภาพที่ 10