ภาพที่ 1?????วันนี้แหล่งตกปลาส่วนใหญ่ กลายเป็นพื้นที่หวงห้าม ของคนในท้องถิ่นเกือบจะทุกที่
ถ้าเรามองย้อนหลังไปเมื่อสักสิบปีที่แล้ว เรามีที่ตกปลาธรรมชาติ ตามเขื่อน ตามอ่างมากมาย
ทั่วภาคเหนือ ผมจำได้สมัยมาอยู่ทางภาคเหนือใหม่ ประมาณ ปี 2533 ทุกเขื่อนทุกอ่าง
ตกปลาได้หมด ไม่มีใครหวง ไม่มีใครเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของ มีปลามากมาย
ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง จับปลาเป็นอาชีพ แต่ปลาก็ไม่เคยหมด
??????จนระยะหลังๆ มีคนตกปลามากขึ้น มีปลาขึนจากน้ำมากขึ้น แต่ผมไม่ได้หมายความว่า
ปลาหมดเพราะคนตกปลานะครับ หลายที่หลายแห่งเริ่มมีนักตกปลาไปตกปลา ค้างพักแรมกันมากขึ้น
มากขึ้น แต่ปลาก็ไม่เคยหมด เพราะส่วนใหญ่เราตกปลากันแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่ทำไมปัจจุบันปลาถึงไม่มีละครับ อะดูกันต่อ
??????ผมจำได้ว่าช่วงที่คนส่วนหนึ่งหันมาตกปลา คนส่วนหนึ่งทิ้งแหมาจับคันเบ็ด คนส่วนหนึ่ง
ทิ้งบ้านทิ้งอาชีพงานประจำมาสร้างแค้มพักแรม ลงข่าย ตามอ่างเก็บน้ำ แม้กระทั่งเขื่อน ก็ยังมี
??????คนส่วนหนึ่งจับปลาเชิงอนุรักษ์ คนส่วนหนึ่งจับปลา แบบล้างเผ่าพันธ์ (ช๊อตปลา)
คนส่วนหนึ่งรู้จักคำว่าพอ คนส่วนหนึ่งบอกว่าลุกค้าสั่งใว้เยอะต้องจับให้ได้มากที่สุด ต่างคนต่างแข่งขัน
ขยันจับปลา ใช้วีธีต่างๆ ให้ปลาเข้าติดข่าย เขย่าโซ่ ฆ้อนกระแทก วางยา สารพัดที่จะทำกัน
เมื่อทุกคนเห็นเป็นเรื่องถูกต้อง ต่างคนก็ต่างทำ ไม่สนใจว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
??????และวันนี้ที่มาถึงเราก็ เห็นอย่างวันนี้แหละ หลายออกทริปแห้ว ตลอด เพราะปลามีน้อย ปลาตื่นข่าย
ทุกคนทำมาหากิน ไม่ว่าเค้าหรอกครับ แต่การทำมาหากิน บางครั้งก็ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้บ้าง ว่าจะยังมีให้หากินกันอีกมั้ย
มีก็น้อยเต็มที ก็ปลาเล็กปลาน้อย พวกท่านก็ไม่เคยคืนชีวิตให้พวกเขาเลย
??????ทุกวันนี้หมู่บ้านเข้าไปดูแล(แบบคนนอกห้ามเข้า พวกเราเท่านั้นที่จะหากินได้) แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
เมื่อคนท้องถิ่นทำเสียเอง บางครั้งยิ่งกว่าครั้งกะโน่นเสียอีก
.......แล้วพวกเรานักตกปลาทุกท่าน เคยคิดจะคืนชีวิตให้พวกเขาบ้างรึป่าว รักปลา รักษ์น้ำ รักษ์ธรรมชาติ
ก็ต้องช่วยกันดูแลนะครับก่อนที่ ทุกอย่างจะเหลือแค่ความทรงจำ และกลายเป็นตำนานไปในที่สุด
รักและห่วงใยทุกชีวิตครับผม
ฅนสันโดษ