ภาพที่ 1 เมื่อลูกสาวพาแม่ผู้ชราไปกินอาหารค่ำที่ร้านเล็กๆแต่หรูหรา มีแต่คนชั้นสูงมารับประทานอาหาร ที่มีบรรยากาศดูขรึมขลังอลังการ
แม่ของเธอดูสูงวัยและร่วงโรย กินอาหารด้วยมือสั่นเทา จนอาหารหกตกหล่นบนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเป็นดวง ช้อนกระทบจานชาม เสียงดังจนแขกโต๊ะอื่นๆพากันมองอย่างสมเพช
ขณะที่ลูกสาวนั่งข้างๆ ช่วยตักอาหารและพูดกับแม่อย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดูเหมือนเธอไม่สนใจว่าใครจะมองมา
เมื่อแม่กินเสร็จ ลูกสาวซึ่งไม่ได้มีท่าทีอับอายอะไร พาแม่ไปที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ จัดแจงเช็ดรอยเปื้อนจากเศษอาหารบนเสื้อผ้าของแม่หวีผมให้ และช่วยขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทาง
เมื่อพวกเธอเดินออกมา คนทั้งห้องมองมาเป็นตาเดียวกัน สายตาเหมือนจะบอกความหมายว่าไม่อายบ้างหรือที่มาทำรุ่มร่ามในร้านหรูอย่างนี้
ลูกสาวจ่ายค่าอาหารแล้วพาแม่เดินช้าๆผ่านโต๊ะอื่นๆไปยังทางออก
มีชายกลางคนในหมู่แขกร้องบอกลูกสาวว่า
“สาวน้อย เธอทิ้งอะไรไว้หรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ลูกสาวตอบ
“เธอทิ้งไว้แน่ เธอทิ้งแบบอย่างไว้ให้ลูกสาวทุกคน และ สำหรับแม่ทุกคนด้วย”
ชายกลางคนแย้ง คนทั้งร้านเงียบกริบ
“เมื่อเรายังเด็ก เราเลอะเทอะเปรอะเปื้อน และส่งเสียงดังน่ารำคาญกว่านี้หลายเท่า แม่ไม่เห็นเคยอายใคร”
การได้มีโอกาสใส่ใจดูแลพ่อแม่ที่เคยดูแลเรามา น่าภูมิใจที่สุด คุณเห็นด้วยไหม?
***หรือต้องรอให้เค้าไม่อยู่แล้วค่อยไปเคาะข้างโลงเรียกเค้ากินข้าว ตอนมีชีวิตอยู่ไม่เคยพาเค้าไป***