ภาพที่ 1ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการโฆษณาไม่ว่าจะทางไหนมันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่งเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าจำนวนตัวเลขที่สูงๆบางทีมันก็เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจสูงพอสมควร และยิ่งดูมันมีฟีเจอร์อะไรเยอะแยะมากมายเข้ามา มันก็ทำให้ยิ่งดูน่าสนใจ และรู้สึกคุ้มค่าเข้าไปอีก
แต่แน่นอนว่าโฆษณาย่อมบอกแต่ข้อดีของสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นๆอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีบางเรื่องที่เขาไม่ได้บอกมาด้วย และเราก็มักจะเข้าใจผิดไปเองอยู่เรื่อย(บางทีเขาก็บอก แต่บอกไม่หมด) เราจึงรวมเอา 8 หลุมพรางที่มักจะทำให้เราเข้าใจผิดละคาดหวังไปต่างๆนาๆมาให้ลองดูกันครับ
ภาพที่ 2 1. ลำโพงคู่ ระบบเสียงสเตอริโอ
อันนี้เห็นมาบ่อยมากถึงมากที่สุด สมาร์ทโฟนหลายๆตัวก็โฆษณาถึงเรื่องนี้ และแน่นอนครับว่าเขาไม่ได้โกหก เพราะทุกเครื่องที่กล้าโฆษณาแบบนี้ จะมาพร้อมกับลำโพง 2 ตัว แล้วระบบเสียงก็เป็นสเตอริโอจริงๆ ซะด้วย
แต่มันดันวางอยู่ข้างกันซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนครับต่อให้มันมี 10 ตัว หรือระบบ 5.1 อะไรก็ตาม แต่ถ้าลำโพงมันอยู่ใกล้กัน เสียงมาจากทิศเดียวกัน เสียงมันก็ไม่ได้ต่างไปจาก Mono เลย เพราะมันไม่มีทิศทางแม้แต่น้อย
จะมีข้อยกเว้นก็แต่สมาร์ทโฟนที่มีลำโพงวางอยู่ 2 ข้างจริงๆ ยกตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คงจะเป็น HTC One นี่แหละครับ ที่มันยังพอดูมิติซ้ายขวาจริงๆ จังๆ บ้าง
ภาพที่ 3 2. ความละเอียดกล้อง(พิกเซล)
สงครามตัวเลขกันเห็นๆครับข้อนี้ อัดเข้าไปเต็มที่เลยกับตัวเลยจำนวนพิกเซล 8 ล้านบ้าง 13 ล้านบ้าง หลังๆ นี่เริ่มไป 20 ล้านพิกเซลกันแล้ว แต่ก็ยังเห็นมีออกมาบ่นเรื่อยๆ เลยว่ากล้องก็ละเอียดทำไมถ่ายออกมาไม่คม ถ่ายกลางคืนห่ว-ย อย่างนู้นอย่างนี้
แน่นอนครับ ความรู้สึกคนทั่วไปตัวเลขมากกว่าย่อมดีกว่า ซึ่งมันก็จริงส่วนหนึ่งครับ แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมันมีอีกสิ่งที่มักจะไม่ถูกนำมาพูดถึงนั่นคือขนาดของตัวเซนเซอร์ ลองนึกดูนะครับว่าที่ความละเอียดเท่ากัน (จำนวนพิกเซลเท่ากัน) ขนาดของเซนเซอร์ที่ทำหน้าที่ให้ภาพตกลงมากระทบเนี่ย คุณคิดว่าถ้ามันขนาดไม่เท่ากันคุณภาพมันจะออกมาเท่ากันหร๋อ แน่นอนว่าเซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าย่อมทำหน้าที่ได้ดีกว่าอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นอยู่บ่อยครั้งที่กล้องในสมาร์ทโฟนหลายตัวที่ความละเอียดเท่ากัน แต่ภาพที่ได้ออกมาดันต่างกันราวฟ้ากับเหว แถมสมัยนี้ยังมีเรื่องของการประมวลผลภาพ และตกแต่งภาพหลังถ่ายเสร็จแบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยอีก ก็ยิ่งสร้างความต่างเข้าไปได้อีก
ภาพที่ 4 3. Dual-Core, Quad-Core และ Octa-Core
นี่เป็นอีกจุดเลยก็ว่าได้ในการซื้อสมาร์ทโฟนที่หลายๆคนจะดู นั่นคือจำนวนของ Core ใน CPU นั่นเอง ด้วยความคิดที่ว่าจำนวน Core เยอะ มันก็แรงขึ้นสิ จาก 4 เป็น 8 มันก็ต้องแรงกว่า 2 เท่าสิ ซึ่งพูดกันตรงๆ มันก็ไม่ผิดครับ ตามทฤษฎีมันก็เกือบจะเป็นอย่างนั้น
แต่กลับมาที่การใช้งานจริงนิดนึงครับ เพราะการที่จะใช้งานเจ้าพวก Core ต่างๆ ที่ยดกันมาเต็มที่นี้ให้ได้เต็มประสิทธิภาพนั้น เราแทบจะนับครั้งได้เลยมั้ง เพราะแอพพลิเคชั่นทั่วไปอย่าง Chrome, Face-book หรือ Line มันไม่ได้ต้องการการประมวลผลหรือคำนวนอะไรมากมายขนาดนั้น จากผลสำรวจจะเห็นว่าจริงๆแล้วแอพพลิเคชั่นส่วนมากในโลกนี้ใช้ CPU แค่ 2 Core มันยังทำงานได้เลย อ่ะถ้าอยากให้ลื่นๆ แถมให้เป็น 3 Core เลย แค่นั้นก็พอแล้ว
เคยสังเกตไหมครับทำไม iPhone มาจนถึงยุคนี้ที่เค้าไปกันถึง Octa-Core กันแล้ว ทำไม Apple ยังใช้แค่ Dual-Core นั่นแหละครับ เพราะเขาดูมาแล้วว่าแค่นั้นมันก็พอแล้ว
แล้วพวกที่มี 8 Core ส่วนที่เหลือจะเอาไปทำอะไรหล่ะครับ นอกจาก Stand By กินไฟเล่นๆ
แต่ ok ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ จะเล่นเกมกราฟฟิคสุดโหดบนสมาร์ทโฟนจัดไปครับ 8 Core คุณใช้คุ้มค่าแน่นอน แต่เตรียมใจกับความร้อน และอัตราการกินแบตแบบบ้าคลั่งได้เลย แถมเครื่องพังไวแน่นอน เพราะอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ไม่ถูกกับความร้อนแน่นอนอยู่แล้ว
ภาพที่ 5 4. Dual SIM
มีประโยชน์ครับอันนี้ ถ้ามันใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพนะ แน่นอนถ้ารองรับ LTE หรือ 3G ทั้ง 2 ซิม แถมทำงานพร้อมกันได้เต็มระบบ มันจะมีประโยชน์อย่างมาก ต่อการใช้งาน แต่หลายๆครั้งเราจะเห็นว่าสมาร์ทโฟนหลายๆตัวที่มาพร้อมกับ 2 ซิม มันจะไม่เขียนบอกว่ามันรองรับแค่ LTE/3G+2G เท่านั้น นั่นคืออีกซิมที่ใส่เพิ่มเข้าไปใช้ได้แค่ 2G ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องความเร็วเน็ตครับ อืดลืมโลก
เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออ่านดีๆ ครับ ที่จริงเขาก็มีบอกนะ แต่แค่ไม่บอกให้เราเห็นกันง่ายๆ แค่นั้นเอง
ภาพที่ 6 5. รอมน้อยๆ ไม่เป็นไรเรามีช่อง MicroSD ให้
มุกนี้เห็นบ่อยครับ ซื้อมือถือมารอม 4 GB บ้าง 8 GB บ้าง ดีขึ้นมาหน่อยก็ 16 GB บ้าง ส่วนมากแทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้จะรองรับการใส่ MicroSD Card เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูล ซึ่งมันช่วยให้ใครหลายๆคน เลือกที่จะไม่ใส่ใจกับจำนวนรอม เพราะคิดว่า เดี๋ยวเอาการ์ดไปใส่เพิ่มก็ได้สบายๆ
อันที่จริงมันก็ถูกครับ มันทำได้ แต่มันจะเก็บได้เพียงแค่ รูป ไฟล์เพลง หรือวิดีโอเท่านั้นนะครับ การลงโปรแกรมยังคงต้องลงบนรอมเท่านั้น ยิ่งใน Android 4.4 KitKat ขึ้นไป จะห้ามไม่ให้ย้ายโปรแกรมที่ลงไว้ไปใส่ไว้บน MicroSD เหมือนกับที่เคยทำได้ในเวอร์ชั่นก่อนๆ แล้วยิ่งแย่ใหญ่
เพราะฉะนั้นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในปัจจุบันที่มาพร้อมกับ KitKat และมีรอมแค่ 4 GB ต่อให้ใส่ MicroSD Card ได้ก็อย่าหวังจะลงโปรแกรมให้เยอะนักเลยครับ ได้ไม่กี่แอพหรอก
ภาพที่ 7 6. จอสว่างสู้แสงแดดสบายๆ
หลังจากที่ Samsung Galaxy S5 ออกมาพร้อมกับจอ Super AMOLED แบบใหม่ที่ให้ความสว่างได้ถึง 700 nit สู้แสงแดดสบายๆ ไร้กังวลเรื่องการใช้งานกลางแดด ซึ่งแน่นอนครับว่ามันเป็นข้อดี
แต่พอเอาเข้าจริง ในชีวิตประจำวันแสงแดดที่เราเจอมันไม่มีทางแรงได้ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แถมชีวิตประจำวันเรา คงไม่บ่อยครั้งนักที่จะออกไปยืนใช้สมาร์ทโฟนกลางแดดแรงสุดๆขนาดนั้น
หลายคนอาจจะมองว่ามีไว้ดีกว่าไม่มี อันนี้จริงครับ แต่มันก็ต้องดูเงินที่เราต้องจ่ายไปเพื่อแลกมาด้วย ถ้ามันไม่ได้หนักหนาหรือสู้ไหวก็จัดไปอย่าให้เสีย แต่ถ้าไม่ มองข้ามมันไปหน่อยก็ได้ แล้วก็ทำใจไม่ก็เอามือบังๆ เอาตามเดิมต่อไป
ภาพที่ 8 7. Dual LED Flash
แทบจะเป็นมาตรฐานไปแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนสมัยนี้ ที่จะมาพร้อมกับ Dual LED Flash ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกมันก็คือ 2 หลอดมันต้องดีกว่าหลอดเดียวสิ
ก็เกือบถูกครับ ถ้ามันเป็น 2 หลอดแบบคนละสีที่เวลาใช้จะเปล่งแสงออกมาเพื่อผสมกันให้ได้แสงสีตามความเหมาะสม เพื่อความสวยงาม อันนั้นถือว่า OK ใช้ได้มีประโยชน์ (ถ้ามันไม่ผสมจนเละ อย่างที่เจอกันบ่อยๆ)
แต่ถ้ามันเป็นหลอดสีเดียวกัน 2 ตัวแทบจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากทำให้แสงที่ออกมาตีวงกว้างออกไปอีกหน่อยนึง (นิดเดียวจริงๆ) เพราะการใช้ 2 หลอดที่เหมือนกันมันไม่ได้ช่วยให้แสงพุ่งไปได้ไกลขึ้นเลยแม้แต่น้อย เพราะกำลังของมันก็เท่าดิม ไม่ได้ทำให้ถ่ายรูปตอนกลางคืนดีขึ้นสักเท่าไหร่ อย่างมากก็ทำให้ได้แสงเป็นวงกว้างขึ้นแค่นั้น
ภาพที่ 9 8. เครื่องบาง หรูหราดูดี แต่แบตเตอรี่น้อยโครตๆ
หลังๆนี่เริ่มแข่งเรื่องเครื่องบางกันมากขึ้นเรื่อยๆในหลายบริษัท ซึ่งจะเห็นว่าตอนนี้ไปถึงระดับ 5 มม. กันแล้ว แต่แน่นอนว่าความบางไม่ได้ได้มากันง่ายๆต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง
อย่างแรกคือราคา สมาร์ทโฟนที่บางๆส่วนมากราคามักจะสูงเกินกว่าที่สเปคระดับนั้นควรเป็นเนื่องจากชิ้นส่วนหลายอย่างต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงทำให้มันเล็กลง
อันดับต่อมาที่ชัดเจนและกวนใจสุดๆคือเรื่องของแบตเตอรี่ เพราะเครื่องมันบางขนาดนั้น จะเอาแบตเตอรี่ไปใส่ไว้ตรงไหนได้
ความร้อนก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนไม่ได้คิดถึง การที่ทำให้มันเล็กหมายความว่าพื้นที่ทุกส่วนมีค่าต้องทำให้เหลือช่องว่างน้อยที่สุด ทำให้ชิ้นส่วนทุกชิ้นอยู่ชิดกันมาก ลองนึกถึงสภาพคุณไปยืนเบียดๆกับคนเยอะๆสิ คุณจะร้อนไหมหล่ะ
และยังมีเรื่องความคงทนและอื่นๆอีกมากมายที่ต้องแลกกัน ซึ่งข้อดีมีอยู่นิดเดียวคือ เท่ห์ และพกพาง่าย (หรือเปล่า?)
หมดไปแล้วนะครับ ทั้ง 8 ข้อ ในที่นี้ต้องขอบอกว่าอันนี้ไม่ได้มีเจตนาทำให้ไขว้เขว่หรือว่าร้ายใครทั้งสิ้นนะครับ เพียงแค่อยากให้ทุกคนระวัง และศึกษาให้มากกว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนสักตัวหนึ่ง เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่ตรงใจ ในราคาที่คุณพอใจนั่นเอง
ที่มา..เครดิต PhoneArena
แก้ไข 8 มี.ค. 58, 01:00