สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 23 ธ.ค. 67
สปิ๋วๆๆๆๆ : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 18 - [3 ม.ค. 59, 14:35] ดู: 28,118 - [22 ธ.ค. 67, 06:11] ติดตาม: 15 โหวต: 11
สปิ๋วๆๆๆๆ
M_NANO (69 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
2 ก.ค. 52, 12:29
1
ขอดเกล็ด.....


ขอดเกล็ด....
ปลาเกล็ด...... ปลาเกมส์ ปลากิน เนื้อดีที่ นักตกปลาหลายๆคนมองข้าม เพราะการตกปลาเกล็ดให้ได้แต่ละตัวตามบ่อตกปลานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะตีเหยื่อลงไปโป๊ะ แล้วให้มันลากสาย ปี๊ดดด เหมือนกับ บรรดาปลาสวาย ปลาบึก เพราะนิสัย ของปลาเกล็ดนั้นไม่กินอาหารมูมมามเหมือนกับพวกปลาสวายแต่จะค่อยเล็มเหยื่อกิน และไม่ค่อย รวมตัวเป้นฝูงใหญ่ๆ เหมือนกับพวกปลาหนัง แต่การตกปลาเกล็ดนั้น จัดเป็นความมันส์ แบบฉบับเกมส์ ฟิชที่หลากหลายกว่าปลาหนัง ตั้งแต่การ กินเหยื่อของปลาเกล็ดแต่ละชนิดที่แตกต่าง ลีลาการสู้เบ็ดที่ไม่เหมือนกันในพันธุ์ปลาแต่ละชนิดแล้ว การตกปลาเกล็ด ด้วยอุปกรณ์ขนาดเล็ก ถือเป็นความมันส์ในระดับต้นๆทีเดียว โดยเฉพาะการตกปลาเกล็ดด้วย คันชิงหลิว ถือเป็นสุดยอดวิชา และความคลาสสิกของเกมส์ฟิช เมื่อประมาณ8-10ปีก่อน การตกปลาด้วยคันชิงหลิวค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับเซียนปลาเกล็ดทั้งหลาย แต่ มาระยะหลังๆนี้ ค่อนข้างจะหาดูยาก เพราะเนื่องจากบ่อตกปลาสมัยนี้ ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนรูปแบบกลายเป็นบ่อตกปลาที่เน้นแข่งขัน ซะส่วนมากปลาเกมส์หลักๆในบ่อจึงเน้นไปที่ปลาสวาย ปลาบึก อีกทั้ง การตกปลาเกล็ดด้วยคันชิงหลิว มีข้อจำกัดมาก! มาย ไม่ว่าจะเป็น คันเบ็ดที่ยาวเก้งก้างต้องใช้ที่วางคัน หรือ ข้อจำกัดในการสู้กับปลาในกรณีที่ปลาใหญ่ๆเข้ามาฉวยเบ็ด รูปแบบการตกปลาเกล็ดด้วย คันชิงหลิวจึงเปลี่ยนไป โดย เปลี่ยนจาก คันชิงหลิว มาเป็น คัน สปินนิ่งขนาดเล็ก ใช้รอกและสายขนาดเล็กแต่ ชุดปลายสาย ยังคงใช้ แบบการตกด้วยคันชิงหลิว ซึ่งเป็นการผสมผสาน รูปแบบการตกปลาเกล็ดที่ค่อนข้างลงตัว สะดวก และหวังผลได้ เป็นอย่างดี ซึ่งเรารู้จักการตกปลารูปแบบนี้ว่า การตก แบบ "สะปิ๋ว"

อุปกรณ์ที่ใช้การตกปลาแบบสะปิ๋ว สามารถใช้อุปกรณ์ตกปลาที่มีอยู่ได้ โดยเลือกคันที่มี แอ็คชั่น อ่อนซักหน่อย รอกขนาดเล็กและใช้สาย ขนาดเล็กเพราะปลาเกล็ดส่วนใหญ่แล้วปากจะนิ่ม และขี้ระแวง การใช้คันเบ็ดที่มีแอ็คชั่นแข็งและสายขนาดใหญ่จะทำให้ปลาปากฉีกได้ง่าย อุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กจะทำให้เราสามารถถือคันเบ็ดไว้ในมือได้นานโดยไม่เกิดอาการเมื่อยล้า เพราะการตกปลาเกล็ดนั้น ต้องคอยชิงจังหวะในการวัดเบ็ด ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที สามารถตัดสินได้เลยว่านักตกปลาสามารถวัดเบ็ดติดปลาปลาหรือว่าจะวืด ไม่ได้อะไรเลย ชุดที่เหมาะสมที่สุดในการตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว คือคันที่ยาวไม่เกิน 7ฟุต รอกสามารถจุสายเอ็น ขนาด 4-8 ปอนด์ได้ 80-140 หลาก็เพียงพอ ชุดปลายสาย เป็นสิ่งสำคัญมากในการตกสะปิ๋ว รูปแบบการตกสะปิ๋วนั้นจะแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ

1. การตกแบบ บาลานซ์ คือการตกโดยไม่ใช้ตะกั่วถ่วงสายให้เหยื่อลงไปอยู่บนหน้าดินแต่จะให้เหยื่อลงไปแตะอยู่ที่หน้าดิน การตกรูปแบบนี้ ทุ่นจะสามารถสื่อสารได้เร็วมากเพราะเหยื่อจะเป็นอิสระจากการถ่วงของตะกั่ว อาการต่างๆที่ปลากระทำต่อเหยื่อจะสื่อสารโดยตรงจากทุ่น แต่เนื่องจาก การสื่อนสารที่ไว จึงทำให้การตกแบบบาลานซ์นั้นยากต่อการจับจังหว่ะในการวัด แต่ถ้านักตกปลาเรียนรู้การตกบาลานซ์มากๆแล้วจะสามารถบอกได้เลยว่า ปลาที่มาเล่นเหยื่อเรานั้นเป้นปลาอะไรและกำลังทำอะไรกับเหยื่อที่ปลายของเราอยู่

2. การตกแบบ ไม้ตาย หมายถึงการตกโดยใช้ตะกั่วถ่วงสายให้ตะกั่วแตะถึงพื้น เหยื่อที่เกี่ยวไว้ที่ตัวเบ็ดจะถูกตะกั่วถ่วงลงไปอยู่บนหน้าดิน การตกแบบไม้ตายให้ผลที่สามารถคาดหวังได้ดี เพราะ เหยื่อจะอยู่กับที่ ไม่ถูกกระแสน้ำหรือลมพัดทุ่นให้เคลื่อนย้ายไปใหน การสื่อสารของทุ่นค่อนข้างแน่นอน เพราะทุ่นจะสื่อสารออกมาได้ชัดเจน ในกรณีที่ปลาคาบเหยื่อแล้วยกหัวขึ้นหรือคาบเบ็ดแล้วลาก
ทุ่นชิงหลิว นั้นเป็นหัวใจสำคัญในการตกสะปิ๋ว ทุ่นชิงหลิวที่นำมาดัดแปลง โดนการเอาสลักเสียบใส้ไก่ออกแล้วนำลูกหมุนขนาดเล็กมาใส่แทนจะให้ความสะดวกในการตั้งทุ่นและการเก็บสาย มากกว่า ทุ่นแบบเสียบใส้ไก่ ทุ่นชิงหลิวที่ดี ควรจะมีหางขนาดเล็กแต่มีสีที่เห็นได้ชัด ข้อมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปและมีสีดำขั้นตามข้อต่างๆ วัสดุที่ใช้ทำทุ่นมีหลายชนิด เราสามารถหาซื้อไม้บัลซ่า หางนกยูงหรือขนเม่นมาทำเองได้ แต่ก่อนการออกไปตก เราควร ทำการบ้านโดยการ หาน้ำหนักของทุ่นแต่ละดอกและหาตะกั่วที่ใช้ถ่วงให้เหมาะสมสำหรับทุ่นดอกนั้นๆ เพราะจะได้ไม่เสียเวลาในการ ตั้งทุ่น เมื่อ เตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้ว ต่อไปเราจะพูดถึงการตั้งทุ่นกัน

อย่างที่กล่าวไว้ทีแรกแล้วว่าการ ตกสะปิ๋ว แบ่งรูปแบบการตกออกเป็น 2 ลักษณะคือการตก แบบบาลานซ์ และการตกแบบไม้ตาย การตกแบบไม้ตาย เหมาะสำหรับตกในที่ที่มีลม เพราะตะกั่วจะสามารถ ยืดไม่ให้ทุ่นถูกลมพัดหรือน้ำ พัดพาเอาทุ่นหรือเหยื่อลอยไปจากจุดที่เราตก การตั้งทุ่นสำหรับตกไม้ตายส่วนใหญ่นิยมจะตั้งให้ทุ่นโผล่จากน้ำแค่ 1-2 ข้อเท่านั้นเพราะไม่จำเป็นต้องดูการสื่อสารจากทุ่นมากนัก เมื่อปลาอมเหยื่อแล้วยกหัวขึ้นทุ่นจะลอยขึ้น นั่นหมายความว่าสามารถวัดคันเบ็ดได้เลย แต่การตั้งทุ่นแบบบาลานซ์นั้น นิยมใช้ในที่ที่ไม่มีลมพัด และในที่ ที่น้ำนิ่งๆ การตั้งทุ่น นิยมตั้งให้หางทุ่นโผล่มาเหนือน้ำ2-3ข้อ เพื่อสังเกตอาการต่างๆของทุ่น เพราะการตกแบบบาลานซ์ทุ่นจะสื่อ อาการต่างๆออกมาได้ไว ไม่ว่าจะเป้นการเล็มเหยื่อ หรือ การอม แล้วพ่น เหยื่อ ทำให้นักตกปลาสามารถอ่านอาการของทุ่นแล้วจับจังหวะวัดให้ตัวเบ็ดติดปากปลาได้

เมื่อ อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการตกปลาคือ เหยื่อ นิสัยของปลาเกล็ดนั้นส่วนใหญ่แล้วจะอาศัยอยู่บริเวณกลางน้ำถึงหน้าดิน การหากินเหยื่อของปลาเกล็ด จะหากินบริเวณที่มันอาศัยอยู่ อาหารที่ปลาเกล็ดชอบมีทั้ง แพลงตอน ตะไคร่น้ำ สัตว์น้ำขนาดเล็ก ลูกไม้ รวมไปถึงแมลง และตัวอ่อนของแมลง แต่ส่วนใหญ่ที่เรามักจะนิยมใช้ในการตกปลาเกล็ด คือเหยื่อจำพวกรำ หรือขนมปังปั่นเป็นละเอียด เพราะนิสัยของปลาเกล็ดส่วนใหญ่นั้น เมื่อเจอเหยื่อที่ถูกปากมันจะ ดูดพ่น เอาเศษเหยื่อเข้าปาก และตอดเล็มเหยื่อไปเรื่อยๆ เมื่อเหยื่อมีขนาดเล็กแล้วมันถึงคาบเหยื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของปลาในแต่ละที่ด้วย
จะไปนั่งตกตรงใหนดี ??? การตกปลาเกล็ดนั้นไม่ใช่ว่าเราจะเดินถือคันเบ็ดเข้าไปแล้วไปนั่งตกตรงใหนก็ได้ ปลาเกล็ดจะมีอาณาบริเวณอยู่เป็นสัดส่วน และส่วนใหญ่แล้วจะมีพื้นที่ประจำของมัน บริเวณที่เหมาะสมที่จะตกปลาเกล็ด ควรมีลักษณะ ดังนี้
เป็นที่มีร่มเงา สามารถเป็นแหล่งอาศัยของมันได้ เช่น กอไม้ริมน้ำ บริเวณใต้เงาไม้ที่ยื่นลงไปในน้ำ ใต้แพพัก ใต้สะพาน

เป็นที่หาอาหาร เช่นใต้ต้นไม้ที่ยื่นลงไปในน้ำและมีลูกไม้ เช่นต้นไทร ต้นตะขบ บริเวณครัวที่ยื่นลงไปในน้ำ เศษอาหารที่หล่นลงไปในน้ำเป็นอาหารชั้นดีของปลาที่หากินอยู่บริเวณนั้น บริเวณมุมบ่อ เศษอาหารจะถูกลมพัดไปรวมอยู่ที่บริเวณมุมของบ่อ ก็จะเป้นที่อาหารของปลาเกร็ดได้เช่นกัน
พื้นที่ที่ห่างไกลเสียงรบกวน หรือผู้คนพลุกพล่าน ปลาเกล็ดเป็นปลาที่ตกใจง่าย แต่บางครั้งเราจะพบว่าเราสารถตกปลาเกล็ดได้ในบริเวณที่มีคนอยู่เยอะ เพราะความเคยชินของปลาและบางทีมันจะมาหาเศษอาหารที่ตกลงไปในน้ำในบริเวณที่มีคนอยู่เยอะก็ได้
นอกจากบริเวณที่กล่าวมาข้างต้นนี้ นักตกปลาเองต้องเป็นคนที่สังเกตพื้นที่บางแห่ง เป็นที่โล่งแต่อาจจะเป็นที่รวมของปลาเกล็ดก็มีเพราะพื้นที่ใต้น้ำบริเวณนั้นอาจจะเป้นหลุม หรือบริเวณพื้นดินที่เหมาะแก่การหาอาหารของปลา หรือบริเวณที่เค้าให้อาหารปลาบริเวณนั้นก็เป้นหมายปลาที่ดีเช่นกัน
นอกจากบริเวณที่เหมาะสมแก่การตกปลาเกล็ดแล้วปัจจัยสำคัญอีกอย่างของการตกปลาเกล็ดคือเรื่อง ของอุณหภูมิ และสภาพ อากาศ ปลาเกร็ด เป็นปลาที่ต้องการอ็อกซิเจนสูง แต่ไม่ชอบน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ ในวันที่ท้องฟ้าเปิด มีลมพัดเลื่อยๆปลาเกร็ดจะออกหาอาหารและกินได้มากฉนั้นจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการตกปลาเกร็ด และในวันที่อากาศร้อนมีแสงแดดแรงอ็อกซิเจนในน้ำลดปริมาณลงปลาเกล็ดจะขึ้นมาหากินอยู่ในเวณน้ำตื้นริมตลิ่ง...


ขอดเกล็ด 2

ขอดเกล็ด (2)
จากตอนที่แล้วผมได้กล่าวถึงขึ้นตอนพื้นฐานในการเตรียมตัว สำหรับการตกปลาเกร็ดแบบสะปิ๋ว ในตอนนี้ผมจะพูดถึงวิธีการตกปลาเกร็ดในแต่ละชนิดให้เพื่อนักตกปลาได้ทราบเพื่อเป็นแนวทางในการนำไปตกปลากันนะครับ โดยทั่วไปแล้วปลาเกร็ดจะออกหากินไปทั่วบ่อ แต่มันมักจะมีที่อาศัยอยู่ประจำ ทำเลที่เหมาะสมสำหรับตกปลาเกร็ดนั้นผมได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้ว แต่นอกจากทำเลแหล่งที่อยู่ต่างๆเรายังสามารถหามุมตกปลาเกร็ดได้ด้วยการ อาศัยดูการขึ้นเล่นน้ำ การดูฟองอากาศของปลา การขึ้นมาฮุบอากาศเพื่อหายใจ ของปลาแต่ละชนิดซึ่งแตกต่างกันไป เมื่อเราทราบชนิดของปลาแหละแหล่งอาศัยหากินของปลาชนิดนั้นๆแล้ว เราจะได้เลือกใช้เหยื่อและวิธีการตกให้เหมาะสมกับปลาแต่ละชนิด ตามบ่อตกปลาทั่วไปปลาเกร็ดที่พบได้นั่นส่วนใหญ่แล้วจะได้แก่ ปลานิล ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลานวลจัน ปลาซ่ง ปลาเล่ง ปลาไน ซึ่งแต่ละชนิดมีพฤติกรรมการหากิน และการกินเหยื่อที่แตกต่างกัน ปลาตัวแรกที่จะแนะนำให้เพื่อนนักตกปลาได้รู้ในตอนนี้ คือปลานิล

ปลานิล เป็นปลากินเนื้อดี ตกง่าย บ่อตกปลาแทบทุกบ่อจะต้องมีปลานิลปล่อยไว้ นักตกปลาทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดีและอาจจะถือว่าเป็นปลาครูสำหรับตกสะปิ๋วเลยก็ว่าได้ ปลานิลเป็นปลาที่กินเหยื่อได้หลายประเภท ทั้งเหยื่อสด จำพวกไส้เดือน กุ้งฝอย ลูกปลา แมลง ขนมปัง รำ ปลานิลกินได้หมด รวมถึงเหยื่อปลอมก็สามารถตกปลานิลๆได้ ด้วยพฤติกรรมการกินแหลกของปลานิลทำให้มันโตไวและขยายพันธุ์ได้เร็ว จึงทำให้ปลานิลเป็นปลาที่ตกได้สนุก และบางบ่อสามารถนำกลับบ้านได้หมด โดยทั่วไปแล้วปลานิลจะมีขนาดตั้งแต่ 10-30 เซ็นติเมตร และมีน้ำสูงได้ถึง5-6กิโลกรัมแต่ ส่วนใหญ่แล้วเราจะพบปลานิลตามบ่อตกปลา ขนาดประมาณ ไม่เกิน3กิโลกรัม
พฤติกรรมการหากิน และแหล่งที่อยู่อาศัย ปลานิลเป็นปลาที่ขยายพันธุ์ได้เร็วและโตไว มักจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง แต่ในปลาที่มีขนาดเกิน1กิโลกรัม จะแยกไปอยู่ต่างหาก ปลานิลที่มีขนาดใหญ่และแยกฝูงออกมาอยู่ต่างหากมันจะใช้ปากและลำตัวของมันขุดหลุม ไว้เป็นลักษณะคล้ายก้นกะทะ มันจะคอยดูแลหลุมให้สะอาด และขับไล่ปลานิลตัวอื่นๆที่เข้ามาใกล้บริเวณหลุมของมัน ด้วยพฤติกรรมการหวงถิ่นที่อยู่ของมัน เลยทำให้ นักตกปลาบางท่านตกปลานิลขนาดใหญ่ที่ขุดหลุมอยู่นี้ด้วยวิธีการ "หยอดหลุม" ในช่วงเวลาเช้าปลานิลมักจะหากินอยู่ในระดับความลึกต่างๆตั้งแต่ผิวน้ำเรื่อยลงไปถึงหน้าดิน แต่ในช่วงสายๆที่แดดแรงปลานิล จะลงไปหากินอยู่บริเวณหน้าดิน เรา ปลานิลอาศัยอยู่ได้ทั่วบ่อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ่อที่เป็นพื้นทรายปลานิลจะชอบมาก
ในช่วงเช้าถ้าเพื่อนนักตกปลาสังเกตให้ดีดี ในบริเวณที่มีปลานิลอาศัยอยู่จะมีฟอง ขนาดปลายนิ้วก้อย ผุดขึ้นมา ครั้งละ 1 เม็ด ลอยอยู่เหนือน้ำไม่เกิน 5วินาทีแล้วแตกออก แปลว่าบริเวณนั้นมีปลานิลอาศัยอยู่แน่นอน

การตกปลานิลสามารถตั้งทุ่นได้ทั้งแบบ บัลลานซ์ และไม้ตาย แต่ที่ได้รับความนิยมคือการตั้งทุ่นแบบ ไม้ตาย เพราะปลานิลตามบ่อตกปลานั้นมีอยู่มากโดยเฉพาะปลาเล็กๆ มักจะมาตอดเหยื่อ การตั้งทุ่นแบบบัลลานซ์ทุ่นจะสื่อ อาการออกมาไวมาก บางครั้งปลาเล็กที่ตอดและคาบเหยื่อไม่ทันเข้าปาก ทุ่นจะจมทำให้นักตกปลาวัดวืดบ่อยครั้งฉนั้นการตั้งทุ่นแบบไม้ตายจะใช้ได้ดีกว่าเพราะได้จะช่วงจังหวะที่ปลาคาบเหยื่อเข้าปากแล้วยกหัวขึ้นหรือช่วงที่ปลาคาบเหยื่อแล้วพาสายออก นักตกปลาสามารถวัดได้ทันที อีกกรณีนึงคือปลานิลขนาดใหญ่ๆ มักจะเอาหาง หรือ ลำตัวพัดบดไปที่เหยื่อให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆก่อน แล้วค่อยดูดกิน ในช่วงที่มันเอาหางหรือลำตัวพัดเหยื่อนี้ทุ่นจะออกอาการ โยกแกว่ง ถ้านักตกปลาวัดในช่วงนี้ ตัวเบ็ดมักจะเกี่ยวหางหรือท้องของปลา
ปลานิลถึงจะเป็นปลาเกมส์ที่สู้เบ็ดไม่หวือหวาเท่าไรแต่ ก็จัดเป็นปลาเกมส์ที่ตกสนุก และกินอร่อย สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด
ปลาเกร็ดพื้นฐานที่เรารู้จักและหาตกได้ง่ายๆอีกตัวนึงคือ
ปลาตะเพียน ปลาตะเพียนเป็นปลาเกมส์ที่คุ้นเคยสำหรับนักตกปลาอีกชนิดนึงเพราะหาตกตามบ่อตกปลาทั่วไปได้ ปลาตะเพียนที่พบในบ้านเรามีด้วยกันอยู่ 2ชนิด คือ ปลาตะเพียนขาว และปลาตะเพียนหางแดง แต่ที่พบทั่วไปตามบ่อตกปลาคือปลาตะเพียนขาว ลักษณะโดยทั่วไปของปลาตะเพียน จะมีลักษณะป้อมแบน ปากเล็กสั้น มีเกร็ดขนาดใหญ่ ลำตัวด้านบนสีอมเขียวปนเทา ด้านล่างสีขาวเงิน คลีบหางมีสีส้ม หางเป็นแฉกจึงว่ายน้ำได้รวดเร็วปราดเปรียว และสามารถกระโดดได้สูง ปลาตะเพียนตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ลักษณะป้อมแบนกว่าตัวผู้จะมีลักษณะลำตัวเรียวปลาตะเพียนจึงถือว่าเป็นปลาเกมส์ที่เร้าใจและตกได้ง่ายอีกชนิดนึง ขนาดโดยทั่วไปจะมีความยาว 8-35 เซ็นติเมตร และมีน้ำหนักสูงถึง 5กิโลกรัม อาหารของปลาตะเพียนได้แก่ เศษซากพืช พืชน้ำ ตะไคร่ สาหร่าย ลูกไม้ รำ ขนมปัง รวมไปถึง เมล็ดพืช และสัตว์น้ำขนาดเล็ก
พฤติกรรมการหากิน และแหล่งที่อยู่อาศัย ปลาตะเพียนเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วชอบว่ายน้ำไปเป็นฝูงหากินได้ทั้งบริเวณผิวน้ำจนถึงหน้าดิน บริเวณที่มีปลาตะเพียนอาศัยอยู่ จะมีปลาตะเพียนขึ้นน้ำให้เห็น โดยทั่วไปแล้วปลาตะเพียนจะชอบอาศัยอยู่บริเวณที่มีน้ำไหลเวียน หรือบริเวณที่มีกอหญ้าหรือไม้เถาเลื้อยขึ้นอยู่ริมน้ำ ใต้ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมน้ำก็เป็นแหล่งอาหารของปลาตะเพียนอย่างดีเพราะปลาตะเพียจะมาอาศัยคอยเก็บกินลูกไม้ที่หล่นลงสู่น้ำ

การอ่านทุ่น อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าปลาตะเพียนเป็นปลาที่ปราดเปรียว การกินเหยื่อของปลาตะเพียนนั้น ถ้าเป้นปลาเล็กมักจะโฉบเหยื่อแล้วลากสายทันที บ่อยครั้งที่หย่อนเหยื่อลงไปแล้วปลาตะเพียนเข้างับเหยื่อแล้วพาสายวิ่ง แต่ในปลาตะเพียนขนาดใหญ่ มักจะ จิกหัวลงตอดเหยื่อ 2-3ครั้ง ถ้าเหยื่อถูกปาก มันจะอมแล้วยกหัวขึ้น อาหารของทุ่นจะ ตอกสั้นๆ2-3ครั้งแล้ว ตะถอนขึ้นทันที ในช่วงนี้เพื่อนนักตกปลาสามารถวัดให้คมเบ็ดฝังในปากปลาตะเพียนได้เมื่อปลาตะเพียนโดนเบ็ดแล้วมันจะพาสายวิ่งออกโดยเร็ว สลับกับการขึ้นตีน้ำ

ปลาตะเพียนเป็นปลาเนื้อดีอีกชนิดนึง แต่ ผู้คนไม่นิยมรับประทานกันเพราะว่าก้างค่อนข้างเยอะ เมนูเด็ดของปลาตะเพียน ได้แก่ ปลาตะเพียนบั้งถี่ๆแล้วทอด และปลาตะเพียนต้มส้ม อร่อยมาก ครับ




ขอดเกล็ด 3

เป็นไงกันบ้างครับจาก2ตอนที่แล้วหวังว่าพอจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับเพื่อนนักตกปลาไว้ใช้เป้นแนวทางในการออกตกปลาแบบสะปิ๋วบ้างไม่มากก็น้อย ในตอนที่แล้วผมได้กล่าวถึงปลาเกร็ดที่หาตกได้ง่าย คือ ปลานิล และปลาตะเพียน กันไปแล้ว ในตอนนี้ผมจะแนะนำต่อเลยนะครับ สำหรับปลาเกร็ดตัวต่อไป คือปลายี่สกเทศ
ปลายี่สกเทศนั้นจัดเป็นปลาเกร็ดที่ตกสนุกมากอีกชนิดนึงเพราะปลายี่สกเทศมีการสู้เบ็ดที่ดุเดือด เมื่อโดนเบ็ดจะวิ่งพุ่งออกไปสลับกับการขึ้นตีน้ำ ปลายี่สกเทศเป็นปลาที่ปรับตัวได้ดี โตไว ตามบ่อตกปลาต่างๆจึงนิยมนำปลายี่สกเทศมาปล่อยไว้เป็นปลาเกมส์ ลักษณะทั่วไปของปลายี่สกเทศ คือจะมีลำตัวยาวแบนข้าง ค่อนข้างกลม ส่วนหัวมีขนาดใหญ่ ปากงุ้มมีร่องรอบปาก ด้านบนมีสีน้ำเงิน ปนเทา ข้างลำตัวสีออกเงินและจะขางลงในวงเกร็ดสีออกชมพูส้ม คลีบต่างๆสีมีชมพู สวยงาม เมื่อโตเต็มที่ปลายี่สกเทศ สามารถมีน้ำหนักได้ถึง20กิโลกรัม แต่ พี่พบส่วนใหญ่แล้วจะหนัก ประมาณไม่เกิน 15กิโลกรัม พฤติกรรมและแหล่งที่อยู่อาศัย เดิมทีแล้วปลายี่สกเทศนั้นได้นำสายพันธุ์มาจากประเทศอินเดีย กรมประมงได้เพาะพันธุ์และนำไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามเขื่อน และอ่างเก็บน้ำต่างๆ มักจะมีพันธุ์ปลายี่สกเทศปล่อยไว้ ปลายี่สกเทศชอบอาศัยอยุ่ตามพื้นที่ที่เป็นกรวดทราย เพื่อหากิน แพลงตอน ตะไคร่น้ำ และพืชน้ำขนาดเล็ก ในบริเวณที่มีปลายี่สกเทศอาศัยอยู่มักจะเห็นมันขึ้นตีน้ำในช่วงเช้าเสียงดัง ตามบริเวณที่มีร่มเงา ใต้แพ ใต้สะพาน หรือซั้งไม้ในน้ำ เป็นแหล่งที่อาศัยอย่างดีของปลายี่สกเทศ เราสามารถสังเกตบริเวณที่มีปลายี่สกเทศอยู่ได้ด้วยการสังเกตฟองของปลายี่สกได้ด้วยเช่นกัน ฟองของปลายี่สกเทศนั้นจะคล้ายกับฟองของปลาไนคือจะมีขนาดใฟญ่แล้วค่อนเล็กลงแต่จะมีจำนวนแค่2-3ฟองเท่านั้น

การตกปลายี่สกเทศนั้นสามารถตกได้ด้วยการตั้งทุ่นแบบไม้ตายและบาลานซ์เช่นกัน เหยื่อที่ใช้ตกปลายี่สกเทศมักจะมีส่วนผสมของรำหรือ ขนมปัง ที่มีความนุ่มปลายี่สกจะใช้การดูดพ่นเหยื่อจนมีขนาดเล็กแล้วถึงจะอมไว้ในปาก เมื่อปลายี่สกเทศพบเหยื่อแล้วมันจะว่ายวนรอบเหยื่อก่อนเราอาจจะสังเกตเห็นอาการของทุ่นเอนไปมา จากนั้นมันจะเข้าเล็มเหยื่อแล้วจิกหัวตอดแรงๆในจังหวะนี้ทุ่นจะตอกแรงๆ 2-3ครั้ง แล้วมันถึงจะเม้มเหยื่อเข้าปากและยกหัวขึ้น ทุ่นจะถอนขึ้นอย่างรวดเร็วให้เพื่อนนักจกปลาวัดในจังหว่ะนี้เบ็ดจะเกี่ยวในปากปลาอย่างแน่นอน และในบางครั้ง เบ็ดจะเกี่ยวปากขงปลาในตอนที่มันตอดเหยื่อ เมื่อปลายี่สกโดนเบ็ดมันจะกระโดดพุ่งตัวออกไปอย่างแรง และว่ายหา สิ่งกีดขวางใต้น้ำทันที เพื่อนนักตกปลาต้องระวังและควบคุมปลาให้ดี เบรกต้องเซ็ทไว้ค่อนข้างอ่อนซักหน่อย ในส่วนที่เหลือเพื่อนนักตกปลาต้องใช้ทักษะและชั้นเชิงในการควบคุมปลาด้วยตัวเองนะครับ
ปลาตัวต่อไปที่จะกล่าวถึงคือปลานวลจันทร์ครับ ลักษณะทั่วๆไปนั้นคล้ายกับปลายี่สกเทศ ลำตัวกลมแบนข้างยาวเรียว หัวเล็กและมาเกร็ดสีเงินขนาดเล็ก ที่พบทั่วไปมีขนาด 3-7 กิโลกรัม ปลานวลจันทร์นั้นอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงปลานวลจันทร์นั้นกินอาหารได้หลายประเภทตั้งแต่สัตว์น้ำขนาดเล็ก สาหร่าย จะไคร่น้ำ ลูกไม้ ปลานวลจันทร์กินได้หมดแต่ถ้าเป้นปลานวลจันทร์ขนาดใหญ่จะพิถีพิถันในกสนกินอาหารมากกว่าปลาตัวเล็กๆครับ พฤติกรรมและแหล่งที่อยู่อาศัยของปลานวลจันทร์นั้นๆ มักจะว่ายออกหาอาหารกันเป็นฝูง โดยการคุ้ยเขี่ยหาอาหารอยู่บริเวณหน้าดิน การหาหมายปลานวลจันทร์เราสามารถหาได้โดยการดูฟองปลา ซึ่งจะคล้ายกัยปลายี่สกเทศ แต่จะขึ้นปลายจุดกว่าเพราะปลานวลจันทร์อาศัยอยุ่รวมกันเป็นฝูงแต่ปลานวลจันทร์ จะไม่ขึ้นเล่นน้ำโผงผางเหมือนปลายี่สกเทศครับ

การอ่านทุ่น เราสารถตกได้ทั้งการตั้งทุ่นแบบไม้ตายและบาลานซืครับ แต่ที่ได้ผลมากคือหารตั้งแบบบาลานซ์ เพราะ เมื่อเจอเหยื่อมันจะค่อยๆตอดเล็มเหยื่อเบาๆ อาการของทุ่นจะมีการจะขยับเพียงเบาๆ และช้าๆ มันจะเล็มเหยื่อไปเรื่อยๆ จนเหยื่อมีขนาดเล็กแล้วมันถึงจะกลืนเหยื่อแล้วค่อยๆว่ายไปช้าๆ อาการของทุ่นจะค่อยๆจมลงอย่างเนิบๆในจังหวะนี้ให้วัดได้ทันทีครับ
ปลานวลจันทร์จัดเป็นปลาที่ขี้ระแวงมากชนิดนึงตัวเบ็ดที่ใช้ตกควรจะมีขนาดเล็ก

ขอดเกล็ด 4 (ตอนจบ)

ปลาไน หรือปลาปุ้มปุ้ย เมื่อก่อนปลาไนถือว่าเป็นปลาเกล็ดรับแขกตามบ่อตกปลาต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้ปลาไนตามบ่อตกปลาหาตกได้ยากเต็มที โดยเฉพาะปลาไนขนาดใหญ่ๆนั้นพบได้ยากมากตามบ่อตกปลา ปลาไนเป็นปลาที่ตกสนุกอยู่รวมกันเป็นฝูง หากินอยู่แต่เฉพาะหน้าดิน กินเก่ง ถึงจะมีรูปร่างอ้วนป้อมแต่สู้เบ็ดได้ รุนแรง ปลาไนมีอยู่หลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบเกล็ดเต็มตัว ไม่มีเกล็ด และ แบบที่ใเกล็ดเฉพาะบางส่วนแต่ที่พบในบ้านเรา จะเป็นปลาไนแบบที่มีเกล็ดทั่วตัว ขนาดทั่วไป ประมาณ20-75 เซ็นติเมตร น้ำหนักที่พบโดยทั่วไปประมาณ 2-7กิโลกรัม ปลาไนเป็นปลาที่มีอายุยืน และน้ำหนักสูงได้ถึง30กิโลกรัม
พฤติกรรมและแหล่งที่อายุอาศัยของปลาไน ปลาไนจะมีกิจวัตรประจำวันของมันที่ต้องปฏิบัติทุกวันคือ ในช่วงเช้ามันจะออกกำลังกายโดยการว่ายไปเป็นฝูงและผุดขึ้นเล่นน้ำ หลังจากนั้นจะออกหาอาหารเช้ากิน ในช่วงบ่ายปลาไนจะว่ายไปพักผ่อน และว่ายกลับมาในเส้นทางเดิมอย่างนี้ทุกวัน ปลาไนชอบหากินอยู่ใกล้ๆตลิ่ง อาหารของปลาไนจำพวกแพลงตอน ตะไคร่น้ำ และพืชน้ำ เราสามารถหาหมายปลาไนได้จากการสังเกตบริเวณที่มันขึ้นเล่นน้ำ หรือดูได้จากฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเฉียงๆ ลักษณะของฟองปลาไนจะผุดขึ้นมาเป็นชุดง3-5ฟองลักษณะฟองจะใหญ่แล้วค่อยๆเล็กลง

การอ่านทุ่น ปลาไนเป็นปลาที่หากินอาหารโดยการดูด พ่น ปากปลาไนนั้นสามารถยืดยาวออกมาได้ การดูด พ่นของปลาไนนั้นจะรุนแรงมากอาการของทุ่นจะตอกลงแรงๆ ในตอนนี้เพื่อนนักตกปลาอย่าเพิ่งวัดนะครับ อดใจรอให้ปลาไนดูดเหยื่อเข้าปากและพาสายออกไปทุ่นจะจมลง หรือรอให้ปลาไนอมเหยื่อแล้วลอยตัวขึ้นมาแล้วค่อยวัดแต่กรณีหลังนี่ไม่ค่อยพบเท่าไรเพราะปากของปลาไนอยู่ในมุมต่ำมันเลยมักจะไม่ค่อยอมเหยื่อแล้วลอยตัวขึ้น แต่ถ้าทุ่น ค่อยๆถอนขึ้นมา2-3ข้อ ก็สามารถวัดได้เลยครับ เมื่อโดนเบ็ดทีแรกปลาไนมักจะกระโดดแล้วพาสายมุดลงอย่างรุนแรง เพื่อนักตกปลาจำเป็นต้องใช้ความสามารถบังคับปลา เพื่อไม่ให้ มันมุดเข้าสิ่งกรีดขวางใต้น้ำ
ปลาซ่ง ปลาเกมส์ที่เพื่อนนักตกปลายหลายๆคนคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตกปลาซ่งด้วยสะปิ๋ว แต่จริงๆแล้วปลาซ่งนั่นตกไม่ยาก เพราะปลาซ่งเป็นปลาที่หากินตลอดทั้งวันแต่ที่สำคัญคือ ต้องรู้แหล่งที่มันหากิน และปลาซ่งนั้นเป็นปลาที่มีลักษณะนิสัยในการกินที่สวนทางกับรูปร่างและปากอันกว้างของมัน ปลาซ่งนั้นหลายๆท่านอาจจะเรียกว่าปลาจีนซึ่งรวมไปถึงปลาเล่งซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับปลาซ่งจนบางท่านคิดว่าปลาซ่งกับปลาเล่งนั้นเป็นปลาชนิดเดียวกัน ในส่วนที่แตกต่างของปลาซ่งกับปลาเล่ง คือ หัวปลาซ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาเล่ง ปากมีขนาดใหญ่กว่าปากล่างยื่นออกมากกว่าปากบน ตาอยู่บริเวณปลายมุมปาก มีเส้นข้างลำตัวอย่างเห็นได้ชัด ปลายหางโค้งมน แต่ปลาเล่งหางจะเป็นแฉกค่อนข้างแหลม

พฤติกรรมการหากินของปลาซ่งนั้น ปลาซ่งขนาดใหญ่จะรวมตัวกันและแยกฝูงออกจากปลาซ่งขนาดเล็ก มักจะลอยตัวนิ่งๆอยู่บริเวณกลางน้ำ และชอบมาหากินอยู่บริเวณริมตลิ่ง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าปลาซ่งมีพฤติกรรมการกินเหยื่อที่แตกต่างจากลักษณะของตัวและปากอันกว้างของมันคือมันจะใช่การดูด พ่นๆอาหารที่มันกินโดนการใช้เหงือกเป็นตัวกรองเศษอาหารแล้วค่อยกิน และมันมักจะลอยตัวนิ่งๆในการกินอาหารจนกว่าอาหารที่มันกินนั้นหมดหรือมันอิ่มมันถึงจะว่ายไปหากินที่อื่นต่อ ปลาซ่งนั้นเป็นปลาที่ขี้ระแวงและตกใจง่าย ในการเลือกทำเลที่จะตกปลาซ่งนั้นต้องดูพื้นที่ที่สงบ เงียบไม่มีผู้คนพลุกพล่านจึงจะเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับตกปลาซ่ง ข้อสุงเกตอีกอย่างสำหรับการหาหมายปลาซ่งคือ การดูฟองอากาศของปลาซ่ง ฟองอากาศของปลาซ่งนั้นจะมีขนาดประมาณปลายน้ำก้อยเมื่อผุดขึ้นสู่ผิวน้ำแล้วจะแตกตัวช้า เมื่อเพื่อนนักตกปลาเห็นฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาประมาณปลายนิ้วก้อยแล้วภายใน10วินาทีถ้าฟองอากาศนั้นไม่แตกให้สันนิฐานว่าเป้นฟองอากาศของปลาซ่งแน่นอน

สำหรับการตกปลาซ่งด้วยสะปิ๋วนั้น นิยมตกด้วยการตั้งทุ่นแบบ บาลานซ์ การกินเหยื่อของปลาซ่ง เมื่อ เจอเหยื่อที่มันสนใจแล้ว มันจะค่อยๆเข้ามาดูดพ่นเอาเศษเหยื่อที่ตกอยู่รอบๆเข้าปากเพื่อเป็นการชิมดูก่อนว่า เป้นเหยื่อที่ถูกปากมันหรือเปล่า อาการของทุ่นจะมีการตอกเพียงเบาๆ เมื่อเหยื่อนั้นถูกปากมันจะค่อยช้อนเอาเหยื่อนั้น มาไว้บนปากล่างที่ยื่นยาวออกมา อาการของทุ่นในตอนนี้ จะหนุนขึ้นมาสูงจากเดิมที่ตั้งไว้ ในตอนนี้ถ้าเพื่อนนักตกปลาเห้นทุ่นหนุนขึ้นมาอย่าเพิ่งวัดเพราะเบ็ดจะไม่เกี่ยวปากปลา และเมื่อปลาซ่งช้อนเอาเหยื่อมาไว้บนปากล่างของมันแล้ว มันจะดูด และ พ่นเหยื่อ ในจังหวาะนี้ทุ่นจะตอกอย่างชัดเจน ในจังหวาะที่ปลาดูดเหยื่อทุ่นจะตอกลงและพ่น ทุ่นจะหนุนขึ้น ให้เพื่อนนักตกปลารอจังหว่ะที่ทุ่นตอกลง ให้วัดเบ็ดทันทีจังหว่ะนี้เป็นจะเกี่ยวปากของปลาซ่งแน่นอน ครับ เมื่อ ปลาซ่งโดนเบ็ดในช่วง10วินาทีแรกมันจะช็อคให้รีบตั้งคันเบ็ดให้สูง แล้วดึงให้หัวมันพ้นน้ำปลาจะช็อคและไม่มีแรงสู้เบ็ดแต่ถ้าปล่อยจังหว่ะดังนี้ไปแล้วปลาซ่งจะวิ่งออก และสู้เบ็ดอย่างดุเดือด ครับ การเย่อกับปลาซ่งแนะนำใหตั้งเบรกให้อ่อนซักนิดเพราะปากของปล! าซ่งนั่นนิ่มและกว้าง เบ็ดขนาดเล็กที่ใช้ตกสะปิ๋วอาจจะบาดปากมันและทำให้เบ็ดหลุดจากปากได้
ปลาซ่งเป็นปลาที่ค่อนข้างจะอ่อนแอฉนั้นเมื่อตกปลาซ่งได้แล้วให้เพื่อนักตกปลาพยายามรีบปล่อยลงน้ำนะครับ ไม่เช่นนั้นแล้วปลาซ่งจะตายได้ง่ายครับ
 
 
 
 
สปิ๋วๆๆๆๆ
ภาพที่ 2
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=18336