ภาพที่ 1
การประดิษฐ์หม้อหุงข้าว และ หม้อหุงข้าวเริ่ม มีการจำหน่ายขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1956 ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ของครัวเรือนที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวญี่ปุ่น อย่างล้นหลาม
วิวัฒนาการของหม้อหุงข้าว ก็มีการพัฒนาเติบโตไปตามยุคสมัย จากวิธีดั้งเดิมที่สุด หม้อหุงข้าว มีชื่อเรียกว่า คามาโดะ ปรากฏในยุคสมัยโคฟุน (ประมาณ ค.ศ. 300-710) คามาโดะ เป็นเตา ธรรมดาๆ ที่สร้างจาก ดิน และ เสริมด้วยเศษอิฐ ที่แตกหรือหัก แล้ว มาหลอมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และ ทนทานต่อความร้อน โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มทั้งข้าว แกง หรือ ซุป ต่างๆ มีข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่เลย คือ คามาโดะนั้น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมา ในสมัยนารา-เฮอัน (ค.ศ.710-794) วิวัฒนาการ ของหม้อหุงข้าว ก็ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น โอกิ-คามาโดะ มีแนวคิดให้ถูกสร้างขึ้นให้ใช้งานกลางแจ้ง มีภาชนะ แยกส่วน สำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่า ฮากามะ ซึ่งเป็นสิ้นส่วนภาชนะที่ใช้สำหรับทิ้งลงไปในหลุมที่ ถูกขุดไว้ด้านล่างโดยมี กองฟืนสำหรับหุงต้ม กลบไว้อีกที
กลางทศวรรษ 1920 ญี่ปุ่นเริ่มมีการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าว ที่ใช้ไฟฟ้าขึ้นเป็นครั้งแรก สำเร็จในปี 1940 โดยบริษัท ที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง มิตซูบิชิ อิเลคทริก เป็น หม้อหุงข้าวที่มีหม้อ และ ใช้ขดลวดนำความร้อนขดอยู่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ดูใกล้เคียงกับหม้อหุงข้าวในปัจจุบันที่สุด
กระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม ปี 1956 บริษัท โตชิบา ก็ได้นำหม้อหุงข้าวที่ทำงานอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคำนวณเวลานั่งเฝ้า และทำการวางจำหน่ายทั้งหมด 700 เครื่อง ผลคือโตชิบาประสบความสำเร็จในการตลาดครั้งนี้ พอเริ่มรู้ทิศทางและความต้องการดีแล้ว โตชิบาก็เริ่มผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอัตโนมัติ เพิ่มอีก 200,000 เครื่อง ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ซึ่งใน 4 ปี ต่อมาหม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็เป็นที่แพร่หลายไปเกือบครึ่งประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://guru.sanook.com/