สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 22 ธ.ค. 67
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 51 - [25 มิ.ย. 52, 12:53] ดู: 22,929 - [22 ธ.ค. 67, 15:47] โหวต: 25
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ป.ประจิณ (232 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
1 เม.ย. 52, 02:22
1
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 1
 

                                                                                                  ชุดตกปลาหานิพพาน
                                                                                                       
                                                                                                หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด

    ขากลับจากสีชังในช่วงสายผมแวะเช็คหมายที่กองปะการังเทียมหน้าแหลมแท่นที่มีอยู่สามกอง  เป็นซากคอนกรีตจากการทุบอาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ บนแหลมแท่น  และนำมาทิ้งไว้หลายปีแล้ว...ก่อนจะสร้างอาคารสวยงามที่เห็นอยู่ในปัจจุบันแทน
 
    ด้วยเป็นช่วงน้ำตาย ถึงจะเป็นกองหินขนาดใหญ่  แต่ก็ไม่มีอะไรมาฉวยเบ็ด  เลยถอนสมอจะวิ่งเข้าบางปะกง  มาถึงหน้าอ่างศิลาเห็นเรือตกปลาจากชลบุรีมาจอดอยู่ที่หลักหอยสองลำ  ซึ่งน่าจะเป็นหมายหากินของไต๋ถิ่นนี้  ผมผ่านมาหลายครั้งเห็นนักตกปลาเช่าเรือมาจอดตกกัน  ขอลองดูสักทีก่อนจะเข้าบ้าน
   
  ระดับน้ำหกเมตร ผมผูกเรือติดกับหลักไม้ไผ่  ห่างจากเรือสองลำพอตะโกนกันได้ยิน...น้ำเริ่มขยับลงนิดหน่อย  เอากุ้งตายเกี่ยวเบ็ดหย่อนลงไป และหันมาจุดไฟต้มมาม่ากิน  พออิ่มก็ตามด้วยองุ่นสด  และส้มอีกสองลูก ปลาก็ฉวยอย่างแรง  พอคว้าคันมันก็ลากเข้าซากไม้ไผ่  จะเหลืออะไรกับสายขนาด 20 ปอนด์  ขาดกระจุย  เป็นอยู่อย่างนี้สองหน  จนคนบนเรือข้างเคียงหันมาถามว่าได้มั๊ย ?
“ขาดหมด...ลากเข้าซากหมด”ผมตอบพร้อมกับถามกลับว่าได้มั้ย?
“สงสัยจะเป็นไอ้คุด...นี่ก็มีลากขาดไป” คนบนเรือลำหนึ่งตอบ
“พี่มาจากไหนล่ะ”
“บางปะกง”
“มาคนเดียวหรือ”
“ใช่...กลับจากสีชัง...ได้ปลาจากแหลมฉบังมา 4-5 ตัว...กุเลา  สร้อยนกเขา ”
“โอ้...ไปไกลจัง...บ้านเราก็มีตัว”
“ขับเรือเล่น...สนุกดี” ผมตอบพร้อมกับเช็คเหยื่อ
      สักพักเรือลำหนึ่งก็ลาจากไปเฝ้าหลักหอย  อากาศเริ่มร้อนจัดในช่วงใกล้เที่ยงวัน  ผิวน้ำเริ่มเป็นลอนระยิบระยับ บอกสัญญาณว่าอีกไม่นานลมตะวันตกเฉียงใต้ก็จะเริ่มพัด  ยิ่งบ่ายยิ่งจัด  เป็นที่รู้กันของชาวประมง...ว่าช่วงหน้าร้อนลมทะเลจะเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน  หน้าฝนถึงจะเรียบ  ยกเว้นช่วงมรสุม...กลับบ้านดีกว่า
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 2
                                                                                                    หน้าแหลมแท่น

      ผมปลดเชือกออกจากหลัก  ติดเครื่องแล้วผลักคันเร่ง...มุ่งหน้าบางปะกง  มาได้ไม่นานลมก็พัดไล่หลัง  วิ่งตามคลื่นตามลมก็สบายไม่มีปัญหาอะไร  เคยเจอะคลื่นใหญ่ ๆ มาแล้ว...แบบนี้เด็ก ๆ  มาเปียกบ้างเล็กน้อยตอนเข้าปากอ่าว  คลื่นจะเป็นสามเหลี่ยมและสับสน  บางลูกก็โต ถี่ แบบไร้ทิศทาง ผู้ไม่ชำนาญ  จะหลงคลื่น  และทำให้เรือเสียการทรงตัว  อาจล่มได้มากกว่ากลางทะเล  ที่เขาเรียกกันว่า “ล่มปากอ่าว” ก็มีที่มาจากนี่แหละ  ผมขับเรือเก่งยังเป็นเลย  ฮา ฮา !

      พักออกทะเล  กินปลาให้หมดก่อน  ทั้งทำบุญ และเลี้ยงเพื่อนบ้านก็ยังกินได้นานอาทิตย์กว่า  ใช้ทุกส่วนของปลาให้คุ้มกับค่าน้ำมัน 60 ลิตร ถึงราคาขณะนี้จะลดลงมามากกว่าอดีต  แต่ก็นับว่ายังแพงอยู่มาก  เมื่อเทียบกับค่าแรง และปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น ๆ
   
      ผมผ่านช่วงตกต่ำของปี 40 มาได้แทบจะเอาชีวิตไม่รอด  ต้องอาศัยธรรมะเป็นที่พึ่งทางใจ    ถึงจะรอดมาได้จึงไม่ลืมตัว  ตอนนี้ใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง  ของพ่อหลวงนำทาง  และทำทุกอย่าง...เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน...โดยเฉพาะการปลูกป่า  สู้ทะเลกลืนผืนดิน กำลังทดลองอยู่หลายพื้นที่

    ยังไม่ทันฟื้นดีจากวิกฤตปี 40 ก็ต้องมาเจอะกับการล่มสลายของเศรษฐกิจโลก  ที่ดูท่าแล้วน่ากลัวว่าจะรุนแรง  และยาวนานถึง 5 ปี 10 ปีนับต่อจากนี้ไป  นี่แค่เริ่มต้น  ที่เขาเรียกกันว่าเผาหลอก  คนยังตกงานกันเป็นล้าน  แล้วปีหน้าเผาจริง  มนุษย์ผู้เย่อหยิ่งจะอยู่กันอย่างไร ?

   
      นี่ก็เป็นตัวอย่าง...ให้เห็นถึงความโลภของมนุษย์บางกลุ่ม  ซึ่งส่วนมากก็จะเรียนกันสูง ๆระดับ เอ็มบีเอ. กันทั้งนั้น ผมมันแค่มินิ  ได้แต่มองดู เขาผลาญทรัพยากรโลกแบบไม่ยั้งคิด  ทั้งด้วยการใช้  ปั่นราคาเกินความเป็นจริง  หวังร่ำรวยอยู่กลุ่มเดียว  คนอื่นจะเป็นหรือตายอย่างไร เขาไม่สนใจ  สุดท้ายก็เหมือนตึกสูงใหญ่  ที่ดันสร้างกันเข้าไป  โดยไม่คิดถึงฐานรากว่าจะรับน้ำหนักไหวมั๊ย...  พังซิครับ... แล้วใครล่ะที่เดือดร้อน ?

    คิดแล้วเศร้าจิต...ทรัพยากรธรรมชาติ  เป็นของมนุษย์ และสัตว์ทั้งมวล...ที่จะให้ทุกชีวิต...ใช้ได้อย่างมีความสุขเท่าเทียมกัน...แบบพอเพียง...แต่ไม่พอสำหรับความโลภ...ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาล้วนไร้ค่า...ถ้าไม่นำเอามาคิด…แล้วมันเป็นความผิดของใคร... พระเจ้าหรือความโง่เขลาของคน ?
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 3

                                                                                                    เรืออีแปะลำนี้...ย้อนอดีตให้ผม

      ผมพักรบ  หลบมาซ่อมเรืออีแปะลำเก่า ๆ ขนาด 3 วา 2 ศอก ที่ซื้อมาใหม่  นั่งทำ นอนทำ ถึงเที่ยงคืนอยู่เกือบเดือนก็เสร็จสมดังใจปรารถนา  นี่คือมาตรการต่อต้านน้ำมันแพง ค่าแรงถูก  และลดการใช้พลังงานน้ำมันลง  โดยไปขุดเอาเครื่องยนต์ฮอนด้า ขนาด 5.5 แรงม้า สมัยทำนากุ้งเมื่อ 15 ปีที่แล้วมาใช้...ขณะรอซ่อม  เลยไปถอยเครื่องขนาดเดียวกันยี่ห้อไทเกอร์ ของจีนแดงมาใช้ด้วยอีกตัว  พร้อมกับไปเอาเครื่องเจโล่  โรแทก  สมัยพ่อ  เก่ากว่า 50ปี มาซ่อมไว้เล่นอีกสองตัว…เพื่อสลับสับเปลี่ยนกันตามความเหมาะสมของระยะทาง  และน้ำหนักบรรทุก  คิดว่าจะบุกถึงแปดริ้ว...ผลจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน...ลูกผู้ชาย... เรือพายกับสายน้ำ

      เรือลงน้ำวันแรก  ก็ทดลองวิ่งไปท่าสะอ้าน  สะพานมอเตอร์เวย์  ทำความเร็วได้ 7-9 ไมล์ทะเล    ไปกลับใช้น้ำมัน 2 ลิตร...เข้าท่า...สุดประหยัด...ขากลับลมเริ่มแรงในช่วงเที่ยง  ในแม่น้ำคลื่นยังขนาดนี้  ถ้าออกทะเลจะไหวมั้ย  ทดสอบขับสู้กับคลื่นขนาดครึ่งเมตรหน้าการไฟฟ้าดู...พอรับได้เปียกบ้างเล็กน้อย...อย่ากระนั้นเลย...ลองออกปากอ่าววิ่งไปหน้าชลบุรีดูซิว่าจะเป็นอย่างไร ?

  แผนการทดสอบเรือก็เริ่มขึ้นในช่วงบ่าย กะว่าจะไปนอนค้างคืนด้วย  ลงน้ำมัน ลังน้ำแข็ง  เสบียง อาหารแห้ง ถูกใส่ลงเรือเพียบจนเมียแซวว่า “ ดูท่าจะไปหลายวัน” เราไม่ตอบ...ถึงแผนการทดสอบคราวนี้ “อย่าลืมน้องปลา...มาฝากเด้อ”

      ลงจากเฉลียงหน้าบ้านร่ำลาเมียจ๋า...ว่าจะไปหลายวัน...พร้อมกับหันหัวเรือออกจากท่า...คลื่นลมก็ไม่ยอมซา...กลับโหมหนักกว่าเดิม...ถึงปากอ่าวก็ต้องส่ายหน้า...คลื่นลูกแล้ว ลูกเล่า...สูงราว ๆ  เมตร ซัดซาดหัวเรือ  ข้าวของเปียกหมด  เรือแข็งน้ำใช้ได้  แต่คนสู้ได้ไม่กี่น้ำก็ต้องถอดใจ...หันหัวเรือกลับมาทิ้งสมอข้างเกาะนกอย่างเดียวดาย...แล้วก็โทรบอกเมียจ๋า...ให้หุงข้าว  ทอดปลา  เดี๋ยวสามีสุดที่รัก...จะกลับบ้านแล้ว...ไปไม่ไหว...นี่ก็ล่มปากอ่าวเหมือนกัน...พรุ่งนี้จะเอาเรือเร็วออก...ลำนี้มันเหมาะสำหรับ ในแม่น้ำ  ถ้าจะออกทะเลก็ต้องเรียบจริง ๆ  คลื่นไม่เกิน  50 เซนติเมตร...ถึงจะซิ่งไปได้...อีกบทเรียนหนึ่ง
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 4

                                                                                                        ดูลูกคลื่นกับหัวเรือประมง

      นอนพักผ่อนก่อนหนึ่งคืน  เหนื่อยกับเรือมาหลายวันแล้ว  แขนขาเริ่มชา  ปวด  ต้องใช้ยานวดแผนโบราณ  กว่าจะนอนหลับก็เที่ยงคืนกว่า  จิตใจที่ฟุ้งซาน  ถึงแผนการต่าง ๆ ที่จะไปในวันพรุ่งนี้  ด้วยไม่อยากเดินทางไกล  จะผลาญน้ำมันเสียมากกว่าได้ปลา  ทดสอบหมายใกล้บ้านจากฐานข้อมูลที่เก็บไว้ดีกว่า  วางกติกา  น้ำมันไป-กลับต้องไม่เกิน 1 ถังขนาด  20-25 ลิตร  ระยะทางวิ่ง 20-30 ไมล์  แค่นี้ก็คลุมพื้นที่อ่าวบางปะกง หน้าชลบุรี  อ่างศิลา  เขาสามมุข  ปากร่อง  ถึงคลองด่านแล้ว  เลือกเอาว่าจะไปเส้นทางไหน  วนได้ไม่มากนัก  ถ้าคิดจะประหยัด... ก็ต้องวัดใจตัวเอง

      เสบียง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกถ่ายย้ายลงเรือเร็วในช่วงเช้า...หัวเรือแล่นออกทะเลอีกครั้ง...พื้นน้ำที่ราบเรียบ  ผิดกับเมื่อเย็นวาน...นี่แหละ ! สวรรค์ของนักเล่นเรือ  ต้องรีบไปก่อนที่จะสาย  เพื่อค้นหาหมายที่คาดไว้ในลายแทง  เส้นทางหาดบางแสน  ระยะทางกำลังดี

    มาถึงหมายกลางทาง  ที่เคยโดนปลาไอ้คุดลากเข้าต่อไม้ไผ่ขาดหมด  แต่ช่างนี้น้ำตาย  จะไหลอีกทีก่อนค่ำ  เฝ้าอยู่พักหนึ่ง ไม่มีอะไรมาฉวย  ก็ย้ายไปอีกสองหมาย  วนดูซากเก่าจากจอซาวเดอร์  ก็น่าสนใจ  หมายบริวเณหน้าเมืองชล  อ่างศิลาควรมาตอนช่วง 1-5 ค่ำ  น้ำจึงจะไหลกำลังดี  ขณะที่ข้างนอกน้ำจะแรง  ด้วยเป็นลักษณะอ่าวปิด และน้ำไม่ลึกมากนักระดับ  2-6 เมตรเท่านั้น

        ใกล้จะเที่ยงลมตะวันตกเฉียงใต้ก็พัดมาอีกครั้ง  ขับเรือหลบลมมาหน้าอ่างศิลา  เห็นเครื่องจักรขนาดใหญ่  เรือขนหิน  ดูแล้วคงกำลังสร้างท่าเรือแห่งใหม่  แต่ใหญ่  ยาวออกมานอกชายฝั่งกว่าของเดิมมาก  นี่น่าจะเป็นแหล่งตกปลาชายฝั่งแห่งใหม่ในอนาคต  ระดับน้ำ 3-4 เมตร  ดูแล้วพอได้  แต่ที่ดีคือบังลมฝ่ายใต้ได้สนิท
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 5
                                                                                                 
                                                                                                          บ้านเรียวเซียว

  ขับผ่านหน้าศาลเจ้าแม่สามมุข  มาแหลมแท่น  ลมก็เริ่มแรงขึ้น  ที่นี่มีเสาเหล็กมากมาย สำหรับผูกทุ่นกั้นขยะของชายหาดบางแสนยาวเป็นกิโลเมตร  ตลอดชายหาด  นับว่าเป็นทำเลทองอีกแห่งหนึ่งสำหรับตกปลา  จอดเรือ  ด้วยว่าเรืออวนลากจะไม่เข้ามาบริเวณนี้  ฝูงปลาน่าจะหลบมาอาศัย  ได้อย่างปลอดภัย  อย่างน้อยปลาสาก  สร้อยนกเขา กุเลา  ไอ้คุดน่าจะหาตัวได้  ตามซากเสาต่าง ๆ เหล่านี้...ระดับน้ำ 8 เมตร...สีน้ำก็สวยใส 

    มองทำเลต่าง ๆ แล้ว  น้ำไหลลงจะแทงมาทางหัวเขาสามมุข  ผ่านหน้าแหลมแท่น  บริเวณกลุ่มเสาเหล็กสี่ห้าต้นนี้  มีกองซากอยู่มากใต้น้ำ  มีทุ่นเก่า ๆ  หลายใบให้ผูกเรือด้วย  จึงตัดสินใจเอาตรงนี้เป็นที่ทดสอบ หลังพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว...ว่าน่าจะดี...นอกนั้นเป็นหน้าที่ของธรรมชาติ...ที่จะให้อะไรให้กับเรา

  ผ่านมาหลายชั่วโมงลมก็ทวีกำลังแรงขึ้นในช่วงบ่ายแก่ ๆ  จะย้ายหมายหลบลมเข้าข้างเขาก็ทำได้  แต่ก็ห่วงเรื่องปลา  และเวลากลางคืนที่จะตกหมึก  มีปลาไอ้คุดเด็ก ๆ มาฉวยเบ็ดหนึ่งตัว  เริ่มใจชื้นขึ้น...เดี๋ยวพี่มันคงมา  แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า  สวนน้ำสวนลมอย่างนี้นอนดีกว่า  นั่งมากชักจะเวียนหัว  หัวเรือขยับขึ้น-ลงส่ายไปมา  ยิ่งกว่าชิงช้าสวรรค์  แต่ก็เพลินดี  คนบนหาดมากมาย  จะมีใครสักกี่คน...จะมาทนลำบากได้อย่างนี้  เขา สั่งหอย ปู  ปลา นอนกินอยู่บนเตียงผ้าใบ ดื่มเหล้า  จิบไวน์ เขาก็บอกว่าสบายดี...ไม่เห็นจะต้องมาตกปลา  ลงทุนก็แพงกว่า ...บาปกรรมก็มาก...กว่าจะได้กินของดี !

    นั่งนึกนอนนึกจนค่ำมืด  ดึก  ปลาก็ไม่ฉวยสักที  นี่ขนาดกุ้งเป็นที่อ๊อกมาให้  หรือว่าไม่ชอบจะเอาหมึกเป็น  มันหายากแสนเข็ญ... เมื่อก่อนมันไม่ได้เป็นอย่างนี้  หลังเที่ยงคืนน้ำเริ่มขยับขึ้น  ลมก็เบาลงตามน้ำตามลม  ขยับเรือย้ายหมายมากองปะการังเทียม 2 ก็ใกล้ตีสามพอดี  ซากกองหินขนาดใหญ่ทิ้งมาหลายปี  แต่ก็แปลกใจไม่มีอะไรฉวยเบ็ดสักที

หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 6

                                                                                                          สุดเสียวกับปลาเรียวเซียว

  รอจนสว่างก็ไม่ได้อะไร  จึงถอนสมอออกสำรวจหมาย  ตามซากโป๊ะ  หลักหอยมาทางปากร่อง  เห็นซากโป๊ะเก่าที่ถูกทิ้งไว้  ถัดออกไปถูกสร้างขึ้นใหม่  ทำเลสวยดี  ผูกเชือกกับหลัก  หย่อนเบ็ดตามหลัง  ปลาก็ฉวยทันที  สุดแสนดีใจเป็นของแปลกใหม่ที่ไม่เคยตกได้สักที  ปลาเรียวเซียวแสนสวย... มาได้อย่างไร ?  ข่าวจริงวงในไม่มีใครพบมาหลายปี  คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว  เห็นแต่ในหนังสือสารคดี  เจ้ามากี่ตัว  จะส่งขึ้นสวรรค์  ไปอยู่วิมานฉิมพลี  รออยู่ตั้งนานไม่มีผู้ติดตาม  เลยย้ายหมายหนี

      มาโป๊ะปากร่อง  เห็นทำเลสวยระดับน้ำ 4 วา ก็ขอลองอีกที  จอดได้ไม่นาน  มีปลากุเลาขนาดกลาง  มากล่าวสวัสดี  มาแค่สองตัว  น้ำก็หยุดไหล  ลมก็เริ่มแรง  ต้องรีบกลับบ้านก่อนถึงช่วงบ่าย  คลื่นจะลูกใหญ่เกินความพอดี  เดี๋ยวจะมาใหม่  ยังติดใจขอสำรวจอีกที  มีโป๊ะแนวนอกออกไปน้ำลึก 5 วา…เซียนแถวคลองด่าน...เขาว่ามีปลาเข้าดี

      จะใครที่ไหน...คุณหวอคลองด่าน...นักเล่นเรือเร็วตกปลาด้วย...ชวนไปฟังการเล่าขานจากไต๋ตึ๋งตัวจริง...ทำมาหากินออกตกเบ็ด...หาปลามาขายก็อยู่ได้สบาย...ช่วงนี้มีปลาสีขนขนาด 3-4 ตัวโล...ใกล้ถึงช่วงมันเข้า...ตกแค่ช่วงเช้า 60-70 โล... แล้วเอามาขายโลละ 25 บาท...พอมีกำไร  ก็ของมันชอบให้ไปทำอย่างอื่น ๆ มันไม่สนุก  ถึงจะหาตัวยากต้องออกเรือไปไกล  บางครั้งก็ไม่ได้สมดังใจ  ก็ทะเลไทยมันเปลี่ยนไปทุกปี  ผมพูดเสริมว่า...ด้วยภาวะโลกร้อน แผ่นดินก็ทรุด ถ้าไม่รีบแก้ไข  คลองด่านก็จะจมธรณี  เท่าที่มองเห็นก็ทรุดไปกว่าเมตร...แล้วจะทำอย่างไรกันนี่ ?

          พักอยู่หลายวัน  เฝ้าแต่หมายใกล้บ้านด้วยเรืออีแปะ  ก็ผมมันมีเพื่อนแยะ โทรมาแต่ละครั้งไม่หนีเรื่องตกปลา  ให้หากุ้งเป็นว่าจะออกรอบตอนเย็น  ผมนึกว่าจะชวนไปตีกอล์ฟทุกที  คนมันไม่ชอบ  เพราะใจมันไม่รักดี    มันชอบทะเล และป่าเขา  แต่ให้ไปนอนดู  อยู่ในโรงแรมหรู  ผมกลับอึดอัด  ปฎิเสธทุกที  ขอนอนลอยเรือไปตามลำน้ำ  ปรับธาตุสูง-ต่ำ ให้สมดุลกัน...ชีวิตก็มีความสุขแบบชีววิถี 
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 7
                                         
                                                                                                        โป๊ะน้ำ 4 วา

    กลางเดือนมีนา  แรม 5 ค่ำเดือน 4  ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่นดินใหญ่  ก็พัดมาสั่งลาพอดี  เป็นครั้งสุดท้าย  มีพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่  ต้องรีบลักไก่ก่อนที่จะสาย  คลื่นลมเรียบ  ตามความตั้งใจหมายน้ำ 5 วา...น่าจะมีปลา  ตามที่ไต๋ตึ๋งว่า ขอไปลองอีกที

    เตรียมเรือลงแต่เช้าในช่วงน้ำขึ้น  กว่าจะเสร็จก็บ่าย  ไม่ใช่ของง่าย ๆ ก่อนจะออกหมายต้องเช็คทุกอย่างให้ดี...ทอดแห่หากุ้งเป็นในช่วงน้ำลง  โดยเอารำข้าวอ่อยหน้าท่าเรือ...ทอดแต่ละครั้งก็ได้ 10-20 ตัว  มีกุ้งตายอยู่ส่วนหนึ่งแล้ว  พอสี่โมงเย็นน้ำก็เริ่มขึ้น  อากาศกำลังสบาย จึงได้เวลาออกเรือ

    ทะเลแสนสวย  วิ่งตามลมเหนือที่พัดมาแผ่ว ๆ  ครึ่งชั่งโมงก็ถึงหมาย  ที่ได้กุเลาไปคราวที่แล้ว จอดเรือข้างโป๊ะ  แล้วก็หย่อนเบ็ด  เสียงฝูงปลาแตกซู่ ตามแนวไม้หอย  เห็นกุเลาขึ้นสอยไล่กัดลูกปลา  ขนาดไม่เบา 4-5 กิโลกรัม  ดูแล้วคงมีความหวัง...เห็นกันจะ ๆ  ไม่ได้เดาเอานา  รอแล้วรอเล่า  มันก็ไม่ยอมมาฉวย  พิงกายนอนเอียง  คอยฟังเสียงปลานักล่า
   
      นกนางนวล  ที่เกาะยอดเสา  ร้องกันไปมา  ใยเจ้าไม่นอนเหมือนเราตอนนี้...มัวทำอะไรหว่า  มีหมึกตัวเล็กกระโดดลงเรือ  ผมเลยเอามาเกี่ยวเบ็ดตกปลา  ไม่นานนักปลากระเบนขนาดเบอร์ห้า  ก็ถูกอัดขึ้นมา ก่อนจะปล่อยลงน้ำ  พร้อมกับย้ำว่า...ดูให้ดี ๆ ก่อนจะกินเหยื่อ...อย่านึกว่าปลอดภัยทุกครา...รอจนสว่างก็ไม่มีความคืบหน้า...กาแฟสักแก้ว...ตามด้วยมาม่า...ก็ได้กำลังวังชากลับคืนมา

หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 8
                                                                                                              ตัวเดียวก็หายเสียว


  เริ่มมองหาหมายไปที่ไหนดีหว่า...มองเห็นรำไร...ปลายไม้ไผ่สีขาวตัดพื้นทะเลสีเขียว...ดูว่าเป็นแนวสุดท้าย  ที่ระดับความลึก 5 วา  คงจะดีกว่าในช่วงน้ำลง  ขยับเรือย้ายหมายวิ่งไปแค่ห้านาที  น้ำใสสวยมาก  เป็นทำเลที่ดี  ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย  ซากเก่าล้อมรอบ เหมือนภูเขาใหญ่  น้ำไหลด้านหน้า  ซากที่ผุพังนอนรับใต้ล่าง  เป็นบ้านอยู่อาศัย  สถานที่ปลอดภัย  น่าจะมีปลา  เกี่ยวกุ้งส่งเบ็ดมาเหนือยอดกอง  เตรียมไว้รออีกคัน  รอกก็ร้องเสียงหลง  คันโค้งวูบลง  ก่อนปลาจะลากเข้าพงซากไม้  รีบอัดขึ้นมา  โอ้ ! แม่ เมียจ๋า  ไอ้คุดนี่หว่า  ปลาที่ตามหาดูด้วยสายตา  เกือบ 2 กิโล...รออีกไม่นานปลาสร้อยนกเขาก็ตามมา...จวนจะเที่ยงวัน  ลมเริ่มแปรปรวน...กุเลาใจกล้าก็ขึ้นมาอีกตัว...
         
  ผมไม่ได้เล่ามั่ว...แต่กว่าจะได้มา...ต้องใช้ความกล้า...และความอดทน... สุดท้ายก็หายเสียว...เมื่อได้ปลาเรียวเซียวและไอ้คุดมา...ฮา...ฮา

                                                                        .................................. จบ ........................................................


       
หายเสียว...กับปลาเรียวเซียวและไอ้คุด
ภาพที่ 9
                                                                                                          ปลาสร้อยนกเขาก็มี...กุเลาก็ตามมา
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024
siamfishing.com/content/view.php?cat=article&nid=15557