ภาพที่ 1หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ฮาราคีรี คือพิธีการฆ่าตัวตายอย่างมีเกียรติของซามูไร ที่คนทั่วไปไม่สามารถกระทำพิธีนี้ได้ ฮาระ แปลว่า ท้อง ส่วน คิริ ก็หมายถึงตัด ฮาระคีริ ก็คือ การตัดท้อง หรือการคว้านท้องนั่นเอง ....ในอดีตซามุไรจะมีสังกัดขึ้นอยู่กับเจ้านายคนใดคนหนึ่ง หากเจ้านายเสียชีวิตหรือพ่ายแพ้ในการต่อสู้ เหล่าซามุไรก็จะไร้สังกัดและกลายเป็น โรนิน ซึ่งถือว่ามีสถานะต่ำต้อยมากในสังคม เนื่องจากซามุไรที่ดีต้องรำลึกอยู่เสมอและหาทางตอบแทนบุญคุณ ถือว่าเป็นความดีสูงสุด ไม่เพียงแต่เจ้านายเหนือหัวเท่านั้น แต่รวมไปถึงบุคคลทั้งหลายที่มีพระคุณด้วย
ซามูไรต้องกล้าหาญไม่เกรงกลัวและสามารถเผชิญกับความตายทุกเมื่อ เพราะพวกเขาจะได้รับการสั่งสอนว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยงและไม่มีตัวตนแท้จริงที่ถาวร ชีวิตทุกชีวิตเกิดมาเพื่อใช้กรรม และซามูไรต้องอยู่อย่างผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรี พวกเขายินยอมตายได้ทุกเมื่อเพื่อรักษาเกียรติ ดีกว่าอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี
ในพิธีฮาราคีรินั้น ผู้ทำพิธีจะนั่งอยู่บนเสื่อตาตามิ เบื้องหน้ามีดาบสั้นที่ผู้ทำพิธีต้องใช้มันแทงเข้าไปในท้องของตัวเองด้านซ้ายแล้วกรีดผ่านมาทางด้านขวา สมัยก่อนมีการทำฮาราคีริ สามรูปแบบตามลักษณะของตัวคันจิ ให้เป็นเลข หนึ่ง สอง และสาม
แต่สมัยต่อมาพิธีฮาราคีริ ลดความเจ็บปวดลงไปเยอะเมื่อผู้ทำพิธีใช้เพียงดาบไม้ไผ่เป็นสัญลักษณ์ของการคว้านท้องก่อนจะร้องขอให้เพชฌฆาตเป็นผู้ลงดาบที่คอแทนเขา
...มีเรื่องเล่ากี่ยวกับฮาราคีรีที่น่าสนใจอยู่สองเรื่องด้วยกัน....
เรื่องแรก คือ สตรีสวยชาวญี่ปุ่นนางหนึ่ง วัย 21 ปี แต่งงานกับทหารหนุ่มญี่ปุ่นได้ไม่นาน สามีหนุ่มก้ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปสมรภูมิ สามีเป็นห่วงภรรยาของตนมาก ดังนั้น ภรรยาจึงฆ่าตัวตายโดยฮาราคีรีเพื่อไม่ให้สามีต้องเป็นห่วง จะได้ออกไปรับใช้ประเทศชาติได้เต็มที่
เรื่องที่สอง คือ เป็นเรื่องของนักโทษชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ได้รับความกรุณาจากผู้คุมนักโทษให้ออกไปเยี่ยมบ้านได้ เมื่อไปเยี่ยมบ้านแล้วก็ไม่ได้กลับมาตามเวลาที่กำหนดให้ไป ผู้คุมนักโทษก็ได้ออกไปตามให้กลับมา ต่อมา นักโทษผู้นั้นก็กลับมาสารภาพผิด ซึ่งผู้คุมนักโทษก็ยกโทษให้ แต่นักโทษผู้นั้นสำนึกผิดและละอายใจมาก จึงได้ฆ่าตัวตาย โดย ฮาราคีรี
จากตัวอย่างทั้งสองเรื่องนี้ จะเห็นว่า คนญี่ปุ่นนั้น รักชาติ รักเกียรติยศ รักษาสัจจะ ยิ่งกว่าชีวิตของตนเองซะอีก
สมัยก่อนฮาราคีริจะทำได้แต่เพียงซามุไรเท่านั้น แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ชาวญี่ปุ่นคลั่งชาติหลายคนก็ใช้วิธีนี้จบชีวิตของตัวเองเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นการตายที่สมเกียรติดังชายชาตินักรบ อันเป็นการแสดงออกถึงความบริสุทธิใจและรอบผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดพลาดนั่นเอง..
ขอบคุณข้อมูลจาก www.oknation.net / รู้มากนะเราอ่ะ
เรียบเรียงและโพสต์โดย natthasorn