ภาพที่ 1
เซียมซี หมายถึง ใบแจ้งผลการเสี่ยงทาย เขียนเป็นคำกลอน คนที่เสี่ยงเซียมซีจะสั่นกระบอกติ้วจนติ้วหลุดจากกระบอก ๑ อัน ดูว่าไม้ติ้วนั้นมีเลขอะไรกำกับ แล้วไปเลือกเอาใบเซียมซีหมายเลขนั้นมาอ่าน ในบางที่เช่นศาลเจ้าจีน การเสี่ยงเซียมซีอาจไม่ได้จบลงแค่นั้น แต่เมื่อได้ติ้วมาแล้ว จะต้องเสี่ยงไม้ปวยประกอบด้วย ว่าติ้วเซียมซีนั้นเป็นของตนหรือไม่ โดยการโยนไม้ปวย ซึ่งเป็นไม้ทรงพระจันทร์เสี้ยวขนาดเท่ากัน ๒ อัน ไม้ปวยต้องคว่ำอันหนึ่ง หงายอันหนึ่ง ติ้วเซียมซีที่เสี่ยงได้จึงเป็นของตน ถ้าไม้ปวยหงายหรือคว่ำทั้ง ๒ อัน ก็จะต้องเริ่มสั่นกระบอกติ้วใหม่
เซียมซีอาจจัดเป็นวรรณกรรมได้ประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นในประเทศจีนไม่น้อยว่า ๑,๐๐๐ ปี ในสมัยราชวงศ์ซ้อง แล้วแพร่เข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน แต่คงมีขึ้นในศาลเจ้าของคนจีนก่อน และใบเซียมซีก็เขียนเป็นภาษาจีน ต่อมาใบเซียมซีจึงได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในรูปร้อยกรองประมาณ ๔-๖ บทต่อใบ
มีหลักฐานว่า นายเปลี่ยน แซ่ซ้อง ได้แปลใบเซียมซีภาษาจีนเป็นภาษาไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ในเวลาต่อมา ใบเซียมซีจีนก็ได้รับการแปลเป็นหลายสำนวนโดยกวีนิรนาม รูปแบบการแต่งเซียมซีมีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีเนื้อหาเกี่ยวกับชะตาชีวิต โชคลาภ ความรัก ความเจ็บไข้ ลูกหนี้ คดีความ บุตร ของสูญหาย การพบปะญาติมิตรใบเซียมซีหนึ่งชุดมีราว ๒๘ ๓๖ ใบ จัดสัดส่วนเป็น ๔ ประเภท คือ มีใบเซียมซีลักษณะดีมาก ๑ ๒ ใบ ดี ๘ ๙ ใบ ดีปานกลาง ๙ ๑๐ ใบ และไม่ดีประมาณ ๘ ๙ใบ
ขอบคุณข้อมูลจาก : kapook.com
เรียบเรียงและโพสต์โดย natthasorn