เข้าไปบึงสำราญมาเห็นแล้วแปลกใจ ตั้งแต่การผสมเหยื่อย ปั้นรำ ตีเบ็ด ชุดสายหน้า ความลึกของทุ่น
เห็นแล้วมีความรู้สึกว่าทำได้ไม่ยาก แต่พอลองปฏิบัติจริงๆ ทำไมมันสุดจะยากไปทุกขั้นตอน พอดีมีพี่ใจดีช่วยแนะนำ
ทุกขั้นตอนให้จึงเริ่มจะพอได้ ถ้าปล่อยเดี่ยวคงจะกินแห้วแน่ๆเลย เลยถามพี่เขาไปว่าการผสมรำฝุ่นนั้นทำอย่าวไร พี่เขา
อธิบายเป็นขั้นตอนดังนี้
แบ่งรำเป็น 2 ส่วน ใช้1ส่วนไว้ผสมนำค่อยผสมอย่าให้เปรียกแล้วค่อย ยี หรือ ปั่นให้เป็นฝุ่น ห้ามขยำ
โดยเด็ดขาดมิฉนั้นรำจะเป็นก้อน ถ้าเปรียกไปให้ค่อยๆเติมรำส่วนที่เหลือแล้วผสมให้รำแห้ง หัวเชื้อต่างแล้วแต่ความเชื่อ
ปั้นรำให้ปั้นก้อนเล็กที่ติดกับตะกร้อให้แนนประมาณ 90% ชั้นที่ 2 70% และชั้นที่3 50% เพราะว่า
ต้องการให้รำชั้นนอกสุด ฟุ้งเพื่อเรียกฝูง และเมื่อเจอชั้นใน ก็จะได้เจอตัวเบ็ด
ชุดสายหน้า ควรใช้ตะกร้อที่เป็น สปริงแข็งๆ และวงสปริงห่างๆ เพราะถ้าสปริงอ่อนและแคบ จะทำให้
ปั้นรำอยากตัวสปริงจะดีดรำออกและทำให้ตีเหยื่อยแตกง่าย สายนำ หรือลีดเดอร์ผูกความให้ยาวเท่าตะกร้อ ตัวเบ็ด
ประมาณ เบอร์ 14 และควรบีบเงี่ยงออกด้วย เงื่อนควรล๊อกไว้ที่หน้าเบ็ด ตั้งตัวหยุดทุ่นหหรือลายสตอปเปอร์ไว้ที่ 3 ม.
การตีเบ็ดนี้เป็นหัวใจที่สำคัญมาก ดูฝูงปลาขึ้น ตีให้ถึงหมายและให้แม่น เหยื่อนต้องลงบริเวณใกล้เคียง
ตลอด อดทนและมีสมาธิเพราะถ้าเหยื่อยลงจุดเดิม ตลอด มีโอกาสปลาเข้าสูง และโอกาสได้ปลา
การวัดเบ็ดสังเกตที่ทุ่น ถ้าจมไปเกิน 5วินาที ควรกรอสายเอ็นให้ตรึงจนมีความรู้สึกว่าเจอตัวปลา
แล้วจึงจะวัดได้ ไม่อย่างนั้นโอกาสหลุดมีสูง เพราะสายเบ็ดจะยังคงตกท้องช้างอยู่
ทริก เมื่อตีเบ็ดออกไปแล้ว ควรดึงสายออกจาก รอกให้เท่ากับความลึกของทุ่น มิฉนั้นมีโอกาสที่ทุ่นจะรั้ง
กับมาและจะผิดหมาย
ท้ายสุด ขอฝากข้อคิด ของอยู่ในนำเอาแน่อะไรไม่ได้หรอกครับ ขอให้ประสบผลสำเร็จและขอขอบคุณ
พี่พงษ์ เจ็กวิทย์ มากที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทานครับ