*****เกร็ดความรู้ ถูกผิดลองดูกันนะครับ จำเค้ามาเล่าสู่กันฟังอีกที
ประเภทของแบตเตอรี่
- แบตฯน้ำ ก็คือแบตฯปกติที่เราเปิดเจอในฝากระโปรงรถนั่นล่ะครับ จะมีจุก(เกลียว)สำหรับเติมน้ำกลั่นโผล่สามารถเอาคีมจับหรือมือหมุนได้ 6 ช่อง(แบตฯ 1 ลูก จะแยกช่องวางแผ่นธาตุเท่าๆกันไม่ว่าขนาดใด 6 ช่อง )
-แบตฯน้ำชนิดแห้ง ดูเผินๆก็เหมือนกับแบตฯน้ำทุกประการ เพียงแต่ตรงจุกสังเกตุจะราบเสมอตัวกล่องแบตฯ ดูแลรักษา(เติมน้ำ)นานครั้งกว่า โดยทั่วไปประมาณ 6 - 12 เดือนแล้วแต่การนำไปใช้งาน และจะรับประกันเป็นระยะเวลานานกว่าแบตฯน้ำ
-แบตฯแห้ง จะไม่มีช่องให้สำหรับเติมน้ำเลย ราคาแพงกว่ากันลิบ ไม่ต้องเติมน้ำ(manternance free) แต่เนื่องด้วยบ้านเราเป็นเมืองร้อน และการใช้งานต้องอยู่ใต้กระโปรงรถซึ่งไม่ต้องบรรยายว่าจะร้อนขนาดไหน จึงมีปัญหาเรื่องของการปูดบวม ทำให้แบตฯเสื่อมสภาพเร็ว บางครั้งกระเทือนจากพื้นผิวจราจรเวลาขับขี่ก็อาจทำให้ตัวแบตฯแตก หรือระเบิดได้ จึงไม่เป็นที่นิยมกันสักเท่าไหร่
.....เวลาเลือกซื้อแบตฯ ให้สังเกตุตัวอักษรที่ต่อท้ายตัวเลขที่ระบุขนาดของความจุกระแสจริงๆจะเป็นอักษร Ah เช่น 75 Ah 90 Ah 120 Ah ประมาณนี้น่ะครับ(ลองสังเกตดีๆมักจะเป็นตัวอักษรเล็กๆ ต่อท้ายรายละเอียดของสินค้าน่ะครับ)
เพราะแบตฯบางยี่ห้อจะมีกลยุทธในการขายโดยแปะชื่อรุ่นเป็นตัวอักษรตัวโตๆ เช่น 90A แต่จริงๆแล้วคุณอาจจะได้แบตฯที่มีขนาดจริงๆแค่เพียง 75Ah
ปล. Ah หรือ A/h ก็ย่อมาจาก Amp / hour = ขนาดของกระแส(หน่วยเป็นแอมป์ )/ ชั่วโมง
และขนาดของแผ่นธาตุ ส่วนมากจะระบุ 15 แผ่นธาตุ 17 แผ่นธาตุ 19 แผ่นธาตุ
ประมาณนี้น่ะครับ ผมว่ายิ่งมากก็น่าจะดี ลองเทียบกับราคาดูความสมเหตุสมผล
และการประจุหรือชาร์ทไฟให้แก่แบตฯครั้งแรกเมื่อนำมาใช้งาน
ปัจจุบันแบตฯใหม่ที่ผลิตออกมาจากโรงงานจะมีการประจุไฟมาให้แล้วไม่จำเป็นที่จะต้องนำมาประจุใหม่ก่อนใช้งาน สามารถนำมาต่อกับขั้วแบตฯของรถได้เลย เมื่อไดร์ชาร์ทของรถปกติดีก็จะทำการประจุไฟให้แก่แบตฯเมื่อมีการขับขี่อยู่แล้ว ต้องอ่านคู่มือที่ติดมาในกล่อง บางยี่ห้อก็ระบุระยะเวลาที่สามารถนำมาใช้งานได้เลยหลังจากประจุจากโรงงานมาแล้ว 3 - 5 -7 เดือนก้ว่ากันไป ตรงนี้ต้องดูวันที่ผลิตหรือบรรจุลงกล่องอีกที
เรื่องไดร์ชาร์ทบางครั้งเข้าใจว่าชาร์ทไฟไม่เข้า บางครั้งสาเหตุก็อาจมาจากสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามนั่นคือ ขี้ตะกรันที่เกาะตามขั้วแบตฯนั่นล่ะครับ เมื่อมีขี้ตะกรันเกาะระหว่างขั้วแบตฯทำให้การจ่ายกระแสของแบตฯไปใช้มันก็ไม่ 100 % เช่นเดียวกับที่เวลาไฟชาร์ทเข้าก็จะไม่ 100% เช่นกัน ดังนั้นเมื่อเวลาใส่ขั้วแบตฯจะเห็นว่าช่างเค้าต้องใส่แหวนรองขั้วแบตฯให้เสมอ จะเป็นแหวนคล้ายผ้าสักหลาดแช่น้ำมันหนืดๆใส่รองกับขั้วแบตฯก่อนที่จะนำขั้ว + - ของรถมาสวมทับ
เล็กๆน้อยเผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าได้ตรงตามความต้องการครับ.