ภาพที่ 1ปี 2450 (รัชกาลที่ 5) หลวงพ่อเงินได้เดินทางมาทางเรือ มาตามทางของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดประสงค์เพื่อมาเยี่ยมเยียน ครูอาจารย์ของท่านที่ "วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม)" วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งพระอาจารย์ส่วนใหญ่ในวัดนี้เป็นพระมอญเสียส่วนใหญ่ ซึ่งวัดนี้สร้างตั้่งแต่สมัยอยุธยามีชื่อเดิมว่า "วัดกลางนา"
ในขณะที่เรือของหลวงพ่อเงิน แล่นผ่าน วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท นั้นเรือของหลวงพ่อเงิน ก็เกิดเครื่องยนต์ดับกระทันหัน ชางเครื่องบนเรือก็ช่วยกันแก้ไข เครื่องยนต์เรือ แต่อย่างไรก็ไม่ยอมติด ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินก็ได้มาบอกกับท่านให้ได้ทราบ
หลังจากหลวงพ่อเงินได้ฟังความจากศิษย์ แล้วก็ได้พูดออกมาลอยๆ ว่า "ท่านศุข นี่สำคัญนักจะนิมนต์เราขึ้นไปฉันเพลด้วยก็ไม่บอก มาสะกดเครื่องเรือเราได้ พวกเอ็งรอข้าอยู่ในเรือนะ เดี๋ยวข้าไป ฉลองศรัทธา เขาก่อนนะ"
พอท่านพูดจบก็กระโดดลงน้ำ เดินบนผิวน้ำ ตรงไปขึ้นที่ท่าวัดปากมะขามเฒ่า แล้วตรงไปยังกุฎิของหลวงปู่ศุข พอหลวงพ่อเงินมาถึงยังกุฎิของหลวงปู่ศุข หลวงปู่ศุขก็ออกมาทักทายหลวงพ่อเงิน พร้อมกับขึ้นมาว่า "นิมนต์หลวงพี่ฉันเพลด้วยกันนะ ท่าน...ผ่านมาไม่ยอมแวะหากันบ้างเลยนะ"
หลวงพ่อเงิน ได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยปากว่า "เผลอแผล็บเดียวท่านศุขนี่ชำนาญวาโยกสิณขึ้นมาก ไอ้เรามันมีจิตถึงกันอยู่ ว่างๆ ก็เข้าสมาธิไป หากันได้นี่"
ทางหลวงปู่ศุข เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็พูดว่า "หลวงพี่ช่างยกยอกันมากไปแล้ว ถึงอย่างไรผมก็ยังตามไม่ทันอยู่ดี"
หลังจากสนทนากันเสร็จ หลวงพ่อเงิน ก็อำลาหลวงปู่ศุข ลงเรือที่หน้าวัด เพราะลูกศิษย์ได้นำเรือมาจอดคอยอยู่แล้ว
นี่คือประวัติเพียงส่วนหนึ่งของพระเกจิชื่อดังทั้ง2ท่านที่เอามาฝากกันครับ
ภาพที่ 2การหล่อในสมัยโบราณนั้นทำกันโดยช่างชาวบ้าน เพราะฉนั้นการเทเนื้อโลหะหล่อองค์พระจึงเต็มองค์บ้างไม่เต็มองค์บ้างอย่างที่เห็นองค์นี้ครับ
ภาพที่ 3เนื้อทองเหลืองผสมทอง(ทองดอกบวบ)
ภาพที่ 4หูหล่อติดในตัว (ปากปลิง) โดยจุดเริ่มต้นของหูเหรียญนั้นเป็นเนื้ออันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวเหรียญ(ด้านหน้า) เสร็จแล้วเขาจะโค้งงอหูไปติดกับด้านหลังของเหรียญ และกดให้ติดแน่นจึงเกิดเป็นปากปลิงเกาะติดอยู่ทางด้านหลังของเหรียญ
แก้ไข 20 มี.ค. 61, 15:21