... พระชุดหลวงพ่อทองมา ถาวโร ...
ภาพที่ 1หลวงปู่ทองมา ถาวโร เกิดเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๔๔๓ ปีชวด ที่บ้านท่าสี ตำบลท่าสี อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
ในวัยเด็กท่านได้ติดตามพระเณรไปอยู่วัดเสมอ เพราะต้องการศึกษาคาถากันผีตามประสาเด็ก
จนกระทั่งอายุได้ ๑๕ ปี ท่านจึงถูกทาบทามให้เป็นครูชั่วคราว ที่โรงเรียนบ้านเชียงใหม่ ทำการสอนได้ ๓ เดือนจึงมีครูใหม่มาสอนแทน
หลังจากนั้นท่านได้บรรพชา เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๕๙ โดยมีพระอธิการคำแห่งบ้านงิ้วโพธิ์ อำเภอธวัชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์
และจำพรรษา ณ วัดสว่างท่าสี ท่านมีความสนใจหนังสือจารใบลานที่ผูกเป็นมัดๆ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นบทสวดมนต์เป็นส่วนใหญ่
รองลงมาคือนิทานพื้นบ้าน และมีวิชาคาถาอาคมบ้าง ท่านได้เรียนบุพพสิกขาวรรณา สวดมนต์น้อย สวดมนต์กลาง สวดมนต์ใหญ่
เรียนตัวธรรม เรียนเทศน์พระเวสสันดรทำนองอีสานจนสามารถเทศน์ได้ทุกกัณฑ์ เมื่อครบ ๓ ปี ที่วัดสว่างท่าสี
ท่านจึงย้ายสำนักไปเรียนมูลกัจจายน์ จากพระอาจารย์คำภา ที่วัดบ้านใผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
ซึ่งพระเณรนิยมเรียนกันมากในสมัยนั้น เพราะถือว่าเป็นของสำคัญเรียกว่าธรรมะชั้นสูง ถ้าใครเรียนสำเร็จจะมีความรู้แตกฉานมาก
เพราะเป็นการเรียนภาษาบาลีล้วนๆ กับพระอาจารย์คำภา ๑ ปี จึงได้ลากลับและบวชเป็นพระในปี พ.ศ.๒๔๖๓ ณ พัทธสีมาวัดท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ
ภาพที่ 2หลวงพ่อทองมาผ่านการธุดงค์มาอย่างโชกโชน ถึง ๖ ประเทศคือ ไทย ลาว เขมร เวียดนาม พม่าและอินเดีย
ท่านได้ผ่านอุปสรรคนานับประการโดยที่ท่านมีเพียง "ธรรมาวุธ" เพียงอย่างเดียว ทุกแห่งที่ท่านธุดงค์ผ่าน
ท่านจะอบรมสั่งสอนชาวบ้านให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คำสอนจากหลวงปู่ทองมาถือว่าเป็น
ผลงานชิ้นเอกของท่าน ซึ่งท่านเน้นหนักไปในทางให้พระพุทธศาสนิกชน เคร่งครัดไปในทางถือศีลซึ่งแปลว่าปาติ คือการรักษากาย
วาจา ใจของตนให้เป็นอยู่อย่างปกติ ไม่ให้มีความผิดแปลกไปจากความเป็นมนุษย์ได้อย่างปกติ โดยเฉพาะศีล ๕
ถ้าใครรักษาหรือนับถือไม่ได้ ก็เท่ากับนิ้วมือของเราที่มีอยู่ ๕ นิ้ว ถ้าขาดหายไปนิ้วหนึ่งมันก็ไม่ปกติ จะทำอะไรก็ไม่เป็นสุข
"มัวรื่นเริงสรวลสันต์กันทำไม เมื่อเปลวไฟกำลังไหม้โลกนี้อยู่ ความมืดปกคลุมท่านไม่ทันดู ใยไม่รู้หาโคมไฟไว้ส่องทาง"
ภาพที่ 3หลวงปู่ทองมานับว่าท่านเป็นพระผู้เป็นเนื้อนาบุญของชาวพุทธจริงๆ เพราะท่านเป็นผู้มีคุณธรรมเป็นเลิศ
จนชาวบ้านต่างขนานนามให้ท่านว่าเป็น "พระนักบุญแห่งภาคอีสาน" เพราะท่านเป็นผู้ให้ตลอดกาล
ไม่ว่าใครจะมีความทุกข์ร้อนใจอย่างไร เมื่อท่านมาหาท่านจะปัดเป่าความอัปมงคล และความเศร้าหมองให้สิ้นไปทุกคน
โดยเฉพาะในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นหมอของหมู่บ้าน หลวงปู่ทองมา ถาวโร
มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ รวมอายุได้ ๙๑ ปี พรรษา ๗๑ และพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๓๕
ภาพที่ 4หลวงปู่ทองมา ถาวโร สำหรับผมนั้นพระเครื่องของหลวงปู่เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านครับ เพราะผมโชคดีที่
มีโอกาสได้ไปกราบไหว้ท่านถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกประมาณปี 2520 ส่วนครั้งที่ 2 น่าจะประมาณปี 2523 จำได้เพราะแม่เล่าให้ฟัง
เพราะน้าท่านหนึ่งในเวบ สนใจพระเครื่องของหลวงปู่ จึงไปรื้อฟื้นความทรงจำกับคุณแม่มาครับ
ภาพที่ 5แม่เล่าว่า ครั้งแรกไปก่อนย้ายบ้านจากบ้านสวนประมาณ 1 ปี ผมจึงต้องมาดูที่โฉนดว่าบ้านผมซื้อเมื่อไร ในโฉนดระบุปี 2522
ก็น่าจะประมาณ 2520-2521 ประมาณนั้นครับ ส่วนครั้งที่ 2 ย้ายบ้านมาได้ประมาณ 1 ปี ก็ต้องเป็นปี 2523-2524 สมัยนั้นยังเด็กมาก
แต่ยังคงจำเรื่องราวไปบางส่วน และที่จำได้อย่างดีคือผมได้ถ่ายรูปกับศาลาของวัดไว้ด้วย แต่หารูปนี้ไม่เจอครับ
ภาพที่ 6พระเครื่องของหลวงปู่ทองมา สำหรับที่บ้านผมนั้น ได้มาจากมือหลวงปู่ทั้งสิ้น ไม่เคยไปหาเช่าบูชามาจากไหน
ได้มาเยอะมากครับ พระเหรียญหน้าแก่ รุ่นปี 18 นี่ได้มาเป็นถุงๆ หลวงปู่แจกเพราะเป็นผู้นำผ้าป่าไปถวาย พระเนื้อผงรูปเหมือนปี 18
นี่ก็เยอะ ก็เอามาแจกให้กับผู้ที่ร่วมทำบุญครับ เยอะมากในสมัยนั้น รูปถ่ายที่ลงไว้นั้นไม่แน่ใจว่า น้าผมเป็นคนถ่ายไว้แล้วเอาไปให้หลวงปู่
ลงจารเองหรือไม่ และยังมีพระบูชาที่เป็นพระพุทธอีกหลายองค์ ที่ผ่านการปลุกเสกโดยหลวงปู่
ภาพที่ 7เหรียญรุ่นนี้เองครับ ที่ไม่นานมานี้พี่ชายได้คล้องไปทำงานแล้วมีคนเกิดขอดู โดนสรุปว่าเก๊ เพราะไม่มีโค๊ด 555..
พี่ชายผมทำหน้ามึนๆ แล้วก็บอกไปว่า เหรียญรุ่นนี้ไปเอามาจากหลวงปู่เองกับมือ มันเก๊ได้ยังไง พระของหลวงปู่ที่บ้านเพียบหมด
ถ้าเก๊ก็เก๊ทั้งบ้าน สงสัยตัวหลวงปู่ก็เก๊ด้วย เพราะได้มาจากหลวงปู่เอง สมัยนี้เค้าดูพระกันที่โค๊ดครับ
ผมยังจำได้ว่าที่ผมไปวัด มีโบสถ์หนึ่งหลัง มีศาลาหนึ่งหลัง และมีกุฏิของพระไม่กี่หลัง ที่นั่นแห้งแล้งกันดารมาก
ผมไม่มีอะไรกินต้องกินข้าวเหนียวจิ้มกับซีอิ้วนะครับ เพราะกินอะไรไม่เป็น ตกเย็นผมได้กินข้าวเหนียวกับไข่เจียว
ลองดูรูปถ่ายหลวงปู่ได้ครับนั่นคือสภาพกุฏิของหลวงปู่จริงๆ พ่อ แม่ และพวกผมขึ้นไปกราบท่านบนนั้น
แล้วจะหาโค๊ดมาตอกเหรียญทำเกลืออะไรไม่ทราบ ของกินยังไม่มี เหรียญตอกโค๊ดน่าเริ่มตอกช่วงหลังๆ แล้วครับ หลังมากๆ ด้วยซ้ำไป
อาจจะเกิน 10 ปีหลังจากที่เหรียญชุดนี้สร้างขึ้นมา
ภาพที่ 8เหรียญกลมปี 19 เหรียญนี้น้องชายผมคล้อง เป็นเหรียญประสบการณ์ของน้องผมเอง สมัยเด็กน้องไม่สบายไปหาหมอ หมอฉีดยาไม่เข้าครับ
ต้องถอดเหรียญออกจากคอ แล้วค่อยฉีดถึงจะฉีดเข้าได้ เย็นวันนั้นคุณหมอที่โรงพยาบาลตามคุณพ่อมาที่บ้าน แล้วมาขอเหรียญ
รุ่นนี้ไปใช้คุณพ่อก็ให้ไปครับ คุณหมอบอกว่าเกิดมาเคยแต่ได้ยินว่าคล้องพระทำให้ฉีดยาไม่เข้า วันนี้เพิ่งได้พบกับตัวเอง แกเล่าว่ากดเข็มเท่าไหร่
ก็กดไม่ลงหนังยุบแต่เข็มไม่ทะลุเข้าเนื้อ จนปัญญาต้องเรียกคุณพ่อเข้าไปดู พอคุณพ่อถอดเหรียญนี้ออกจากคอน้องผมจิ้มปุ๊บเข้าปั๊บ
คุณหมอจึงตามมาถึง เพื่อมาเอาเหรียญรุ่นนี้ไป
ภาพที่ 9ส่วนอีกครั้งน้องผมไปนั่งเล่นที่หลังบ้าน แม่ตามไปดูก็ตกใจ น้องนั่งเล่นงูอยู่ครับ งูเขียวหางไหม้ เอามือจับเล่น
เขี่ยเล่นอยู่ จับแกว่งบ้าง เล่นตามประสาเด็ก แต่กลับงูนอนนิ่งไม่ไหวติง ทีแรกคุณแม่คิดว่างูตาย แต่พอน้องปล่อยมือ
งูตัวนั้น เลี้อยหนีไปอย่างรวดเร็วแม่เล่าด้วยความตกใจ ถ้าน้องโดนงูกัดคงจะแย่ เพราะไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร
คงจะเป็นเมตตาของหลวงปู่ที่ช่วยน้องผมไว้ หนึ่งเหรียญประสบการณ์ของที่บ้านจริงๆ ครับ
ภาพที่ 10เหรียญรูปไข่ปี 19 สมัยก่อนเหรียญนี้ก็เยอะครับ แจกจ่ายไปคนไปใช้กันทั่วไป คงจะเป็นเพราะอยู่ในบ้านไม่ค่อยสนใจกัน ค้นบริเวณไหนก็เจอแต่
พระของหลวงปู่ครับ ไม่ได้เก็บแบบพระสะสมจึงมีสภาพที่สวยน้อยไปนิด ผมจำได้ว่ายังมีเหรียญรุ่นนี้อีกหลายเหรียญแต่ก็ยังหาไม่เจอ
คงจะอยู่ที่บ้านแม่หรือไม่ก็อยู่ที่พี่ชายผม ไว้ต้องตามกลับไปเอามา
ภาพที่ 11พระเครื่องของหลวงปู่ดีมากครับ น่าใช้และราคาไม่ได้สูงอะไรมากมาย ส่วนพุทธคุณนั้นเกินมูลค่าเยอะมาก เหรียญนิยมมากๆ นั้นราคาก็สูงขึ้น
ของปลอมก็มีมาก ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องที่พี่ชายผมเล่ามานะครับว่า เหรียญไม่โค๊ดนั้นเก๊ คนที่พูดมานั้นคงไม่รู้ว่า
ในสมัยหนึ่งบ้านผมพระเครื่องของหลวงปู่ทองมาเยอะกว่ายาพาราในบ้านเสียอีก ของบางชิ้นเค้าเองอาจจะไม่เคยเห็นของจริงๆ ด้วยซ้ำไป
พอดีน้า sharp101 สนใจสอบถามมาจึงนำมาลงไว้ให้ชมครับ Mr.maku....///
ภาพที่ 12สั่งลาด้วยพระรูปเหมือนเนือผงติดจีวรปี 18 เป็นอีกชิ้นหนึ่งที่ได้มาพร้อมๆ กันทั้งหมด ในชุดพระหลวงปู่ทองมา สมัยก่อนเป็นถุงๆ เลยครับ
องค์นี้ผมเพิ่งเจอมาตะกี้ จึงเอามาถ่ายรูปให้ชมกันครับ พระส่วนใหญ่ต้องไปค้นอีกครั้งที่บ้านแม่ เพราะตอนนี้ผมหาไม่เจอครับ
ภาพที่ 13องค์นี้กะว่าจะเอาไปเลี่ยมเก็บไว้ให้คุณนายท่านใช้ครับ เพราะเป็นพระขนาดเล็กน่ารัก เหมาะกับคุณผู้หญิง
แต่รับรองว่าพุทธคุณไม่ได้ด้อยกว่าพระองค์ไหนของหลวงปู่เลยครับ Mr.maku....///