... ปรกจ้อยหลวงปู่คร่ำ พระของคุณนายครับ ...
ภาพที่ 1ชาววังหว้าและหมู่บ้านใกล้เคียงเรียกนามท่านว่าท่านพ่อคร่ำท่านมีอายุ ๑๐๐ ปีบริบูรณ์ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๐ พรรษา๘๐
นับเป็นพระเถระที่มีพรรษาสูงสุดของเมืองไทยรูปหนึ่ง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ศรัทธาของประชาชนทั่วประเทศ
หลวงปู่คร่ำเป็นพระภิกษุที่มีบุญญาบารมีเป็นที่ปรากฏแก่ประชาชนมาเป็นเวลานานแล้ว ท่านมีคุณูปการแก่สังคมหลายวงการ
อย่างกว้างขวางทั้งฝ่ายศาสนจักรและ อาณาจักรทั้งในจังหวัดระยองและจังหวัดอื่นๆและเป็นปูชนียบุคคลที่ได้รับการเคารพและคารวะศรัทธา
เป็นอย่างสูงจากชาวพุทธทั่วประเทศ เห็นได้จากงานพุทธาภิเษกที่สำคัญที่จัดในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามอันเป็น
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง หลวงปู่จะได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีเกือบทุกครั้ง
เนื่องจากมีผู้ให้ความเคารพศรัทธาหลวงปู่คร่ำจำนวนมากต่างพากันยึดหลวงปู่เป็นสรณะในยามที่ต้องเผชิญกับภาวะคับขัน
ทั้งยังขอพรบารมีจากท่านช่วยบันดาลใช้ประสบโชคลาภ ประสบความสำเร็จสมปรารถนา มีความสุขสมหวังในชีวิต
จึงมีผู้ให้สมญานามท่านว่า เทพเจ้าของชาวระยอง บ้าง ท่านพ่อแห่งฝั่งทะเลตะวันออก บ้าง เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก
รวมความว่าหลวงปู่คร่ำเป็นพระที่อยู่ในใจของทุกคน
ภาพที่ 2เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี หลวงปู่ได้อุปสมบทที่วัดวังหว้าเมื่อวันจันทร์ แรม ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง
ตรงกับวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับฉายาว่า ยโสธโร แปลว่าผู้ทรงไว้ซึ่งยศหรือผู้ดำรงยศ
พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสังฆการบูรพทิศ (ปั้น อินทสโร) เจ้าคณะแขวงแกลงวัดราชบัลลังก์
พระกรรมวาจารย์ คือพระใบฎีกาหลำ ปัญญายิ่ง รองเจ้าคณะแขวงแกลง วัดพลงช้างเผือก
พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเผื่อน เจ้าอาวาสวัดวังหว้า หลวงปู่คร่ำมุ่งศึกษาด้านพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ
ความเป็นมาของพุทธศาสนาและหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยนั้นวัดวังหว้ายังไม่มีสำนักสอนธรรม
หลวงปู่ต้องไปเรียนที่วัดพลงช้างเผือก และสอบได้นักธรรมตรีและโทเป็นลำดับนอกจากเรียนรู้พระธรรมวินัยเป็นพื้นฐานแล้ว
ท่านยังศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณและตำรับยาสมุนไพรจนมีความรู้ความสามารถนำไปใช้บำบัดรักษาช่วยเหลือชาวบ้านได้เป็นอย่างดี
ในสมัยที่ยังไม่มีสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลดังเช่นทุกวันนี้ วิชาที่หลวงปู่ชำนาญเป็นพิเศษ คือ
กรรมวิธีต่อและประสานกระดูกอันเกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ
มีผู้มารับการรักษาที่วัดวังหว้าเป็นประจำและหายกลับไปทุกคน จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว
การศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคม หลวงปู่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ พระครูนิวาสธรรมสาร (หลวงพ่อโต)
วัดเขากะโดนและวัดเขาบ่อทอง ซึ่งหลวงพ่อโตเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐานชำนาญการธุดงควัตร
เป็นผู้มีพลังจิตรแก่กล้าและวิทยาคมขลังเป็นเลิศ หลวงปู่คร่ำได้ร่ำเรียนด้วยอุตสาหะพากเพียรจนมีความรู้ความชำนาญ
ในวิชาอาคมหลายด้านเมื่อกลับมาที่วัดวังหว้าก็ได้ฝึกฝนพลังจิตเจริญสมาธิภาวนาโดยตลอดมิได้ขาด ในกาลต่อมาหลวงปู่
ได้ใช้วิทยาคมที่ได้ฝึกฝนร่ำเรียนมานั้นให้เป็นประโยชน์ ต่อญาติโยม และบุคคลทั่วไปนานัปการ จนชื่อเสียงเกียรติคุณขจรไกล
ไปทั่วเมืองไทยและต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่หลวงปู่ยึดมั่นโดยตลอดคือ กตัญญุตาการรำลึกถึงคุณของบูรพาจารย์
ภาพที่ 3หลวงปู่คร่ำ วัดหวังว้า ได้สร้างวัตถุมงคลออกมามากมายหลายต่อหลายชิ้น เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่คร่ำ ราคาไล่เลี่ยสูสีกับเหรียญหลวงปู่ทิม
ราคาค่อนข้างสูงและเป็นที่ต้องการมากในท้องที่ ที่เค้าเรียกกันว่า "เหรียญหน้าบาก" โดยมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง ตามชื่อเลยครับ
ช่วงปี 2530 ในระหว่างนั้น ผมเชื่อว่าผู้ที่นืยมพระเครื่องหรือผู้ที่ชอบไหว้พระ ไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่คร่ำ
ในช่วงนั้นวันธรรมดามีผู้คนหลั่งไหลไปกราบไหว้หลวงปู่อาบน้ำมนต์และเจิมหน้าผากวันละเป็นร้อยๆ คน
ช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ วันละเป็นพันๆ คน
ผ้ายันต์พัดโบก : หนึ่งในสุดยอดเครื่องรางของหลวงปู่ ในละแวกจังหวัดระยอง ชลบุรี ตราด จะหาดูผ้ายันต์แบบนี้ได้ง่ายมาก
เพราะเดินเข้าไปในร้านค้าส่วนมากเราจะเห็นผ้ายันต์พัดโบกนี้
ผ้ายันต์นี้มีวิธีการใช้นะครับ มีวิธีการติดตั้ง คือ ต้องห้อยสองชายบนปล่อยชายล่างให้เคลื่อนไหวได้ และติดตั้งในจุดที่มีลมพัดผ่าน
จะหน้าบ้านหรือในบ้านก็ได้ นี่คือคำว่า พัดโบก ครับ ชายล่างจะต้องเป็นอิสระขยับเข้าและออกได้ นัยว่าพัดสิ่งที่เป็นมงคลเข้าบ้าน
และพัดสิ่งไม่ดีออกจากบ้านไป เมื่อลมเข้าบ้านผ้ายันต์จะสะบัดเข้า เมื่อลมพัดออกก็จะสะบัดออก เป็นแบบนี้ตลอดเวลา
ใครที่เอาใส่กรอบไว้เอาออกเถอะครับ เป็นการติดตั้งผ้ายันต์พัดโบกที่ไม่ถูกวิธีครับ ของปลอมเยอะมากนะครับ จะเช่าหาให้ดูสักนิดนึงครับ
มีทั้งของปลอมแบบแท้ๆ คือเกิดมาปลอม และของแท้แต่ไม่ทันด้วยนะครับอันหลังนี่ดูยากมาก ขอให้เช่าหาจากที่มาที่ดีครับ เพราะกรณีหลัง
ดูไม่ได้ครับ เพราะบล็อคเดียวกับของแท้ ตอนนี้ราคาต่อหนึ่งผืน 1500-2500 บาทโดยประมาณ
ภาพที่ 4ปรกจ้อย 8 รอบ ชิ้นนี้เป็นของคุณนายผมเองครับ (แต่ผมขอแบ่งจากพรรคพวกมา) คุณนายท่านเห็นแล้วโดนทันที ชอบทันที
แล้วยังมาถามผมอีกว่าทำไมไม่เลี่ยมมาเลยละ โห ... น้ำตาจะไหล เอาไว้ก่อนเถอะคร้าบบบ
ก็ตั้งใจจะเก็บมาไว้ให้แฟนผมอยู่แล้ว ตอนนี้เค้าห้อยปิดตาฝังพลอยหลังยันต์ห้าพิมพ์เล็ก ที่ไม่นานมานี้เซียนพระกลุ่มหนึ่งบอกว่า
ไม่มีในสารบบหลวงปู่ทิม เอาไว้ผมจะถ่ายรูปมาให้ดูกันพอเพลินๆ นะครับ วันนี้เรามาดูปรกจ้อยแปดรอบกันก่อนครับ
ปรกจ้อยนี้สร้างในปี 2536 เป็นพระชุดแปดรอบ พระชุดนี้มีเหรียญเสมากับเหรียญหยดน้ำที่ราคาเริ่มขยับขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นเบาๆ ทุกปี
ตอนนี้ราคายังน่าเก็บมากนะครับสำหรับพระชุดนี้เอาไว้ใช้ก็ดี เอาไว้แบ่งพรรคพวกก็ได้ ดีกว่าเอาเงินฝากแบงค์ครับ
สำหรับปรกจ้อยนี้ผมขอแบ่งแบบหักคอเพื่อนมาห้าพันบาทในสมัยนั้นหลายปีแล้ว ราคาค่อนข้างแรงนะครับ
เพราะเนื้อนี้มีไม่กี่องค์เท่านั้น กัดฟันเลือดกลบปากเลยครับ ฮ่าๆๆๆ ... Mr.maku