ผมว่า ต้องแก้กฎหมาย สำหรับ เยาวชน ซะใหม่ครับ ( บางข้อ )
ปัญหาส่วนใหญ่ ที่เกิด คือการ เอาทรัพย์สินจากในรถ และ ที่ติดตัวผู้บาดเจ็บ หรือผู้ตาย ไปเที่ยวเตร่ ส่วนน้อยครับ ที่ทำโดยคึกคนอง
สังเกตไหมครับ พฤติกรรมเลียนแบบ ทั้ง ขโมยรถ ซื้อขาย เสพย์ สิ่งเสพติด ต่างๆ เยาชน มักตกอยู่ใต้อิทธิพล สิ่งเหล่านี้ ให้ลุมหลง มัวเมา ผู้ใหญ่ก็ เป็นต้นเหตุหลายๆ อย่าง ทั้งเลียนแบบพฤติกรรม และ การปล่อยปละ ละเลย ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตลอดจนไม่เข้มงวดกฎหมายบางครั้ง ( เช่น การขี่ย้อนศร ของ มอเตอร์ไซด์ เป็นต้น ) ผู้ใหญ่บ้านเรา แก้ไข ปัญหาไปกันคนละทิศคนละทาง ไม่ประสานกัน ไม่หารือร่วม ต่างฝ่ายต่าง คิดแตกต่าง ลำบากครับที่จะ ประสานได้ ในแนวเดียวกัน ( รู้ๆ กันอยู่ ขณะนี้ ตำรวจ เองยังมีปัญหา ภายใน ที่แก้ไม่รู้จักจบ ต่างคน ต่างอยากได้ตำแหน่งดีๆ แข่งขันสุดฤทธิ์ เพื่ออะไร เราๆ ท่านๆ ก็รู้ กันอยู่.. แต่ คนดีๆ ก็ยังมีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี แต่คงหาโอกาสยากครับ )
แค่ไล่จับ แค่ขับรถตรวจ ส่งสายลงไป ผมว่า คงแก้ได้ แค่ป้องปรามแหละครับ ตราบใด ที่ยังไม่สามารถสร้างจิตสำนึกให้ แก่เยาวชน ได้แล้วละก๊อ... คงยากครับ
กฎหมายแรงๆ แค่ ยา แค่ขู่ครับ แต่ การสร้างสำนึก มันต้องสร้างกัน แต่แรกๆ ครับ มาสร้างตอนหลังๆ คงยากครับ ก็ ต้องจับ ต้องลงโทษ กันไปไม่รู้จบ
จากผลสำรวจ ประชาชนส่วนใหญ่ เลิกขับรถกลางคืนไปหลายๆ คน เพราะกลัว แต่พวกที่ยังต้องใช้ถนน ในยามกลางคืน ก็ ต้องระวังกันไปครับ ไม่รู้ ว่าจะถูกเล่นงานเข้าวันไหน
ตราบใดที่ พวกเค้ายังไม่เคยสูญเสีย บุคคลในครอบครัวของเค้าเอง ด้วยการกระทำแบบนี้ ยากครับ ที่จะรู้สึก คงต้องรอให้ กฎแห่งกรรม เล่นงาน พวกเค้าเอง..
สื่อน่าจะ ผลิต รายการสะท้อนให้ เห็นมากๆ นะครับ ถึง ผลกระทบ ไม่ใช่แค่ เสนอข่าวไปวันๆ เกิดที่นั่น ที่นี่ ที่โน่น...
เสนอ ไปเลยครับ ว่า คนที่ตาย บาดเจ็บ สูญเสีย หลังจากนั้น แล้ว เค้าเจอกับอะไร อยู่อย่างไร เป็นอย่างไร ให้ดูหลายๆ ครั้ง ช่วยกัน บอกกล่าว ถึงการก่อเหตุแบบนี้ ว่า หากทำแล้ว จะมีผลเช่นไร ทั้ง ก่อนก่อ และ หลังจากเกิด...
สังคมเรา มันหนักข้อขึ้นทุกวันแล้วครับ....
ผู้ก่อเหตุ เริ่มอายุ น้อยลงทุกทีๆ....