หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

มาลองทำ"เรือยาง"ใช้เองสักลำกันมั๊ยครับ

ตามเกาะขอบเรือ..ไปด้วยครับผม

เรื่องมันเริ่มมาจากผมเองอยากจะทำเรือยางลำเล็กๆที่สามารถขนขึ้นหลังรถปิคอัพสักคันได้แบบคนเดียวสบายๆ หรือกระทั่งใส่ท้ายรถเก๋งที่เปิดประตูท้ายได้(แฮชแบ๊ค)เพราะบางทีขี้เกียจจะขนเรือยางพับที่อุปกรณ์เยอะเแยะ ไหนจะพื้น4-5ชิ้นหนักไม่ใช่เล่นแล้วก็ตัวเรืออีก20-30กก. คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปสำหรับผม(บางที) แต่ถ้าจะสบายหน่อยก็ต้องต้องลากเทลเล่อแต่บางทีก็ไม่สะดวกเวลาจะแวะไปทำธุระที่อื่นระหว่างทางไป-กลับเพราะต้องคิดเผื่อที่จอดรถสำหรับเทลเล่อด้วย คนลากเทลเล่อก็ต้องคิดตรงนี้เผื่อด้วยแล้วไหนจะต้องเลือกเวลาที่คุณตำรวจไม่ค่อยสนใจเทลเล่อเรามากนักด้วย

ผมไปสะดุดภาพในความเห็นแรกมาจากในอินเตอร์เนทครับ เพราะดูมันได้อรรถรสในการเย่อ(ปลา)ในเรือยางเสียเหลือเกินครับ แต่ภาพนี้ก็ดูชิลๆดี คิดเผื่อสำหรับแม่บ้านหรือน้องๆหนูเอาเรือไปขับเล่นเวลาเรากลับจากตกปลาก็คงจะน่าสนุกสำหรับเขามั่งหละหลังจากที่ต้องนั่งรอเรามาเป็นวัน

เท่าที่ผมหาข้อมูลเรือยางขนาดเล็กที่นิยมนำมาใช้ตกปลากันโดยทั่วไปแบ่งคร่าวๆได้ประมาณนี้ครับ
1. เรือยางแบบดิงกี้(ก็แบบภาพแรกในกระทู้) ข้อดี คือพับเก็บได้ เบา ทรงตัวดีไม่โคลง ผ้ายางที่เอามาทำบวบทนแรงดึงสูงและทนแรงขีดข่วนได้ดี สามารถยืนบนเรือได้เลย นิ่งมาก ความปลอดภัยสูง(สูงอย่างไรเดี๋ยวอธิบายเพราะมันยาว) และที่สำคัญคือเกาะเครื่องยนต์ติดท้ายเรือได้
มีท้องเรือหลายแบบทั้งแบบพื้นสูบลม พื้นปูด้วยแผ่นไม้หรือแผ่นอลูมิเนียม และพื้นแบบท้องไฟเบอร์กล๊าส สมรรถนะการใช้งานเวลาขับขี่ก็ใกล้เคียงกันในสปีดความเร็วที่ต่ำ แต่ถ้าเร็วๆก็ท้องไฟเบอร์ครับดีกว่ามากมาย

ส่วนเรื่องความปลอดภัยที่ผมว่ามีอยู่สูง เพราะตัวทุ่นลม(บวบ) ทำจากผ้าPVCที่นำมาลามิเนทเข้ากับผ้าใยสังเคราะห์ทนแรงดึงสูง ที่สามารถทนแรงขูดขีดและแรงดึงได้ดีมาก และการออกแบบทุ่นยังแยกห้องลมออกเป็น3ท่อนจากกันเมื่อห้องใดห้องหนึ่งเกิดการรั่วซึมหรือเกิดอุบัติเหตุในการใช้งานชนเข้ากับตอไม้หรือของมีคมทำให้บวบใดบวบหนึ่งแตกไปก็ยังเหลืออีก2บวบที่จะช่วยให้เรือยังคงสภาพการลอยน้ำได้ตามปกติเหมือนตอนบวบยังไม่แตกครับ เรียกว่าเหลืออีก2บวบก็ยังตกปลาและขับเรือเล่นได้ต่อ

ยินดีครับ ยาวหน่อยนะครับ

2.เรือยางแบบทุ่นลอยคู่ หรือ FLOT TUBE ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจที่ผมอยากจะลองทำใช้ดู ทุ่นคู่ทำให้ลอยน้ำได้ดี ขนย้ายง่าย เบา คล่องตัวในน้ำเนื่องจากขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเกาะมอเตอร์ทรอลิ่งได้ด้วย
แต่ผมยังไม่ถูกใจในแง่ของความปลอดภัยและความทนทาน เนื่องจากทุ่นลมเป็นลักษณะทุ่นคู่แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด ถ้าหากทุ่นใดทุ่นหนึ่งเกิดรั่วเหลือเพียงทุ่นเดียว คนที่ยืนในภาพก็ต้องลงไปแช่ในน้ำแล้วเกาะทุ่นที่เหลือรอคนมาช่วยรับรองเลยว่าไม่สนุกแน่
ผมเลยขอผ่านก่อนแบบนี้ถึงจะทำง่ายมากก็เหอะ

3. เรือยางแบบเรือล่องหรือเรือพาย เรือยางประเภทนี้ราคาไม่แพงมากสามารถซื้อหาได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆทั่วไป น้ำหนักเบามาก ขนย้ายง่ายสุดๆพับเล้วยัดใส่ถังสีได้สบายๆ ลอยตัวในน้ำได้ดี
ส่วนความปลอดภัยก็ดีพอๆกับราคาเรือครับเพราะผ้าใบที่ใช้ผลิตเรือค่อนข้างบางและทนแรงดึงได้ต่ำ ดูๆไปเหมาะกับการนำมาเล่นสนุกๆแบบชั่วครั้งชั่วคราวมากกว่านำมาใช้งานแบบสมบุกสมบัน อันนี้ผมก็ขอผ่านไว้ลูกอยากเล่นค่อยไปหาซื้อตามห้างเอาดีกว่า

4.เรือยางขนาดเล็กแบบที่4นี่ก็เป็น FLOT TUBE คล้ายๆกับแบบที่ 2. แต่ขนาดจะเล็กกว่าข้อดีข้อเสียก็คล้ายๆกัน แต่ที่แน่ๆขากับไข่อาจจะต้องแช่น้ำนานเกินไปผมเลยขอผ่านอีกเหมือนกัน

5. เรือยางคายัก เรือยางแบบนี้ใช้งานได้ดีครับ คล่องตัวมาก พายก็ง่าย แต่ไม่เหมาะเลยที่จะนำเกาะเครื่องยนต์ และที่ผมไม่ชอบมากๆเลยคือยืนทรงตัวในเรือยากมากๆจะตกน้ำเอาง่ายๆ อ่อที่สำคัญบวบลมก็มีแค่2ทุ่นลมแยกจากกันถ้ารั่วไปบวบนึงเหลืออีกแค่บวบเดียงก็คิดดูเอาเองละกันครับว่าคุณจะทำอะไรต่อไปหลังจากที่เหลือแค่บวบเดียวขณะอยู่ในน้ำห่างฝั่งไป 1 กม. ผมก็ขอผ่านครับแบบนี้

สรุปว่าผมแลือกจะทำเรือยางไว้ใช้เองตามแนวทางที่ 1. ครับตามภาพเป็นรูปตัวอย่างเรือยางท้องไฟเบอร์บวบ PVC ปลายท้ายแหลม(ดินสอ) ดูขนาดแล้วไม่น่าจะยาวเกิน2.5ม.
จากนั้นผมก็เริ่มไปเตรียมของหละครับ

ตอนเริ่มทำผมใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบมาแบบนี้ครับ กะจะทำหัวแหลมๆ ความยาวรวมทั้งลำแค่240ซม.
ตอนหลังคิดไปคิดมาไม่เอาละแก้ทรงหัวเรือใหม่จะเป็นแบบไหนลองดูตอนท้ายๆนะครับ

เริ่มจากการตัดผ้าทำบวบเรือก่อน โดยตัดตามแบบที่ออกแบบไว้ ผ้าที่ใช้ทำบวบจะเป็นผ้า PVC หนา 0.9มม.เกรดเดียวกับที่เรือล่องแก่งใช้งานกันดังนั้นรับรองทนทานแน่นอน

ตามชมครับ

เรือลำนั้ใช้ผ้าจำนวน9ชิ้นหลัก และพวกซีมเทปกันรั่วซึมอีกนิดหน่อย ผมไม่อธิบายตอนตัดผ้าตามแบบนะครับเรื่องมันยาว  และค่อนข้างซับซ้อน
อธิบายเป็นชิ้นๆตามภาพดังนี้ครับ
1. ชิ้นบวบหัวเรือ(ผมเรียกกางเกงในเพราะรูปทรงมันคล้ายๆกัน)
2. ชิ้นบวบหัวเรือฝั่งขวา
3. ชิ้นบวบท้ายเรือฝั่งขวา
4. ชิ้นบวบหัวเรือฝั่งซ้าย
5. ชิ้นบวบท้ายเรือฝั่งซ้าย
6. ชิ้นกรวยท้ายเรือฝั่งขวา
7. ชิ้นกรวยท้ายเรือฝั่งซ้าย
8. ชิ้นกั้นห้องลมขวา
9.ชิ้นกั้นห้องลมซ้าย
โดยทุกชิ้นต้องนำมาติดกาวเข้าด้วยกันโดยจะต้องมีผ้าซีมเทปหนา0.5มม.ความกว้าง3.5ซม.อีก1ชิ้นเป็นตัวเชื่อมชิ้นงานทุกส่วนเข้าด้วยกันครับ ส่วนกาวที่ใช้เราหาซื้อตามร้านที่รับซ่อมเรือยางได้เลยครับ ราคาแต่ละที่แตกต่างกันเล็กน้อย

ถ้าอธิบายเรื่องตะเข็บบวบทั้งลำผมขอแยกออกเป็น2ส่วนคือ
1. ตะเข็บสีส้ม คือตะเข็บตามแนวขวางของบวบ
2. ตะเข็บสีเขียว คือตะเข็บตามแนวยาวของบวบ

หลักการออกแบบบวบของผมคือลดรอยตะเข็บตามแนวยาว(สีเขียว)ให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อลดโอกาสการรั่วซึมในอนาคตเมื่อกาวเริ่มเสื่อมสภาพ
ขั้นตอนต่อไปคือการต่อตะเข็บทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยซีมเทปและกาวครับ ชิ้นงานที่จะทากาวจะต้องสะอาดโดยต้องทำความสะอาดด้วยคลีนเนอร์ให้ดีก่อนทากาวครับ

การติดซีมเทปก็ต้องเลื้อกติดที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของผ้าก่อน เส้นสีขาวนั่นคือซีมเทปครับ

ต่อผ้าเข้าด้วยกันให้ครบทุกบวบ

ตามติดเลยครับแบบเนี้ย จะไม่ให้คลาดสายตา 

ทำชิ้นกรวยท้ายเรือครับอันนี้เคยอธิบายไว้ในกระทู้เก่าๆแล้วครั้งนึง

ซีมเทปด้านในกรวยต้องรีดให้สนิทที่สุดครับ ชิ้นงานปลายดินสอผมใช้เป็นวัสดุไฟเบอร์กล๊าสซึ่งจะแข็งแรงทนทานไม่ยืดหดตัวและยึดเกาะกับกาวและผ้าได้ดีกว่ากรวยแบบยางที่เรือจีนนิยมใช้กัน

มาเลยครับ ยินดีมาก

อย่ากระพริบตาเชียวนะครับ

ผมเน้นที่รอยต่อทุกรายละเอียดครับเพราะเราทำใช้เอง และผมเองใช้เรือยางมานานพอจะรู้ว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนของเรือยางที่ต้องกำจัดซะก่อน

แผ่นกั้นนี่คือห้องลมตามหมายเลข 8 และ9ในความเห็นที่14 ครับ ขอบอกว่าทำยากมากๆชิ้นนี้ และมันสำคัญกับตัวเรือมากด้วยเพราะมันเกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยของตัวเรือ  เมื่อเรือรั่ว 555
จากในภาพอธิบายคร่าวๆว่าความกว้างของครึ่งวงกลมที่เห็นจะเท่ากับระยะเส้นผ่าศูนย์กลางของบวบเรือครับส่วนความสูงของครึ่งวงกลมจะเท่ากับระยะครึ่งนึงของเส้นผ่าศูนย์กลางบวบพอดี

จะเห็นชิ้นเศษผ้าเล็กๆที่ผมปิดไว้ตามมุมอันนี้สำคัญมากช่วยกันรั่วซึมได้มาก