พบแม่ลูก 3 ชีวิตสุดรันทดอาศัยเพิงพักในสวนร้างซุกหัวนอน ขอข้าวและน้ำวัดกิน

http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014195

โดย MGR Online

9 กุมภาพันธ์ 2559 09:53 น. (แก้ไขล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2559 10:00 น.)

พบแม่ลูก 3 ชีวิตสุดรันทดอาศัยเพิงพักในสวนร้างซุกหัวนอน ขอข้าวและน้ำวัดกิน

        ราชบุรี - พบแม่ลูก 3 ในตำบลดอนกรวย อำเภอบ้านคา ใช้ชีวิตสุดรันทด ต้องอาศัยเพิงพักในสวนร้างหลับนอน และต้องขอข้าว และอาศัยน้ำทางวัดที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 1 กิโลเมตร มากินประทังชีวิต
     
      ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีครอบครัวรันทด อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คนแม่ลูก ใช้ชีวิตด้วยการอาศัยเพิงพักในสวนร้างหลับนอน และต้องไปขอข้าววัดมากินประทังชีวิต โดยครอบครัวนี้อาศัยอยู่ที่สวนร้างในหมู่ 4 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบ นางดารารัตน์ แซ่ลิ้ม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 8 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี พร้อมลูกอีก 3 คน มี ด.ญ.นัฐฐา แซ่ลิ้ม อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ด.ญ.กุลกันยา แซ่ลิ้ม อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 และ ด.ช.เจษฎาภรณ์ แซ่ลิ้ม อายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.1 โดยทั้ง 4 ชีวิตอาศัยอยู่ในเพิงไม้เล็กๆ ที่สร้างจากเศษไม้นำมาทำเป็นฝาบ้าน และนำป้ายไวนิลมามุงหลังคากันแดดกันฝน ส่วนภายในบ้านใช้ท่อนไม้เล็กๆ มาเรียงกันเป็นที่นอน สภาพนั้นหากฝนตกหนักทั้ง 4 คนแม่ลูกก็ต้องนอนตากฝน ถ้าอากาศหนาวก็ต้องทนนอนหนาวกันไป ไม่มีไฟฟ้าต้องจุดเทียนไข และไม่มีน้ำประปาใช้ ส่วนห้องน้ำต้องอาศัยถ่ายอุจจาระในป่า เวลาจะอาบน้ำก็จะต้องเดินไปอาบที่วัดสนามไชย ซึ่งอยู่ห่างจากเพิงพักประมาณครึ่งกิโลเมตร โดยยังต้องอาศัยข้าวจากวัดมาประทังชีวิต ส่วนเด็กๆ ทั้ง 3 คนนั้นเรียนที่โรงเรียนวัดสนามไชย

พบแม่ลูก 3 ชีวิตสุดรันทดอาศัยเพิงพักในสวนร้างซุกหัวนอน ขอข้าวและน้ำวัดกิน

        นางดารารัตน์ เล่าถึงชีวิตที่แสนจะรันทดให้ฟังว่า เดิมครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านพักภารโรงในโรงเรียนวัดสนามไชย เนื่องจากสามีทำงานเป็นภารโรง แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สามีลาออกจากการเป็นภารโรง และแยกทางกับตนเอง ทำให้ตนกับลูก 3 คน อยู่ที่บ้านพักต่อไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานให้โรงเรียนแล้ว จึงตัดสินใจหอบลูกน้อยออกมาขออาศัยพื้นที่ว่างในสวนร้างของชาวบ้านอยู่ โดยการปลูกเพิงพักหลังเล็กๆ เพื่ออาศัยหลับนอน เวลาจะอาบน้ำก็พาลูกๆ เดินไปอาบที่ห้องน้ำวัด ซึ่งจะอาบแค่วันละครั้งคือ ช่วงเย็น ส่วนอาหารที่กินเลี้ยงชีวิตนั้นตนเอง และลูกจะไม่ค่อยได้กินมื้อเช้า เนื่องจากลูกๆ ต้องไปโรงเรียน ซึ่งพระที่วัดยังไม่ได้ฉันข้าว จึงไม่มีอะไรให้กิน ตนเอง และลูกต้องรอให้พระฉันข้าวอิ่มก่อน ลูกๆ ถึงจะได้กิน เพราะไม่มีเงินซื้อเครื่องครัวในการหุงหาอาหาร
     
      “ตอนแรกก็ออกไปหารับจ้างทำงานตามสวน ถ้ามีคนจ้างก็จะมีเงินมาหาซื้อข้าวให้ลูกกินได้ ถ้าไม่มีคนจ้างก็ไม่มีเงิน ลูกก็ต้องรอกินข้าว และเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนบ้านได้ช่วยพาไปฝากทำงานเป็นภารโรงที่โรงเรียนสายธรรมจันทร์ ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 05.30 น. เพื่อเดินไปทำงาน ไปกลับระยะทางประมาณ 6 กม. ส่วนลูกๆ ก็จะให้ลูกสาวคนโตคอยดูแล และพาน้องๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า ทำให้ชีวิตเริ่มดีขึ้นบ้างพอจะมีเงินซื้อข้าวให้ลูกกิน แต่บางวันก็ยังต้องไปขอข้าววัดมากิน และหากจะดูทีวีก็ต้องเดินไปดูที่ร้านค้าซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ตนนั้นอยากจะมีบ้านที่แข็งแรงกว่านี้เพื่อให้ลูกๆ ได้อยู่ จะได้ไม่ต้องลำบากมานอนเบียดกันบนกองไม้ และเวลาฝนตก หรืออากาศหนาวก็ยังสามารถที่จะอยู่ได้ รวมทั้งอยากให้ลูกได้เรียนหนังสือสูงๆ เพื่อลูกจะได้ไม่ต้องลำบาก” นางดารารัตน์ กล่าว

พบแม่ลูก 3 ชีวิตสุดรันทดอาศัยเพิงพักในสวนร้างซุกหัวนอน ขอข้าวและน้ำวัดกิน

        นายประทีป จำปาศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนสายธรรมจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ที่รับนางดารารัตน์ ไปทำงานเป็นภารโรงที่โรงเรียน กล่าวว่า แม่บ้านของโรงเรียนได้พามาขอทำงานที่โรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็เห็นว่า นางดารารัตน์ มีฐานะยากจน และต้องเลี้ยงดูลูกถึง 3 คน จึงได้รับไว้ และให้ทำงานเก็บกวาดตามอาคาร โดยจ้างเป็นรายวัน เพราะนางดารารัตน์ นั้นไม่มีวุฒิการศึกษาเลย โดยใช้เงินสวัสดิการของโรงเรียน โดยจะจ้างไปจนกว่าจะหมดงบประมาณ และอาจจะหาเงินมาทำการจ้างต่อ ถ้าหมดงบประมาณชุดนี้ก็คงต้องดูต่อไปว่าจะทำอย่างไร ส่วนลูกสาวคนโตที่กำลังจะจบ ป.6 จากโรงเรียนวัดสนามไชย ถ้าต้องการจะมาเรียนต่อที่โรงเรียนสายธรรมจันทร์ ทางโรงเรียนก็ยินดี และจะสนับสนุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนด้วย
     
      ทั้งนี้ หากผู้ที่ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถบริจาคเงินเข้าไปได้ที่ บัญชีของธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ สาขาดำเนินสะดวก ชื่อบัญชี น.ส.ดารารัตน์ แซ่ลิ้ม บัญชีเลขที่ 707-0-24618-8