แต่ก่อนนั้น คนที่จะถ่ายภาพจริงๆ จังๆ มักจะต้องใช้กล้องแบบ SLR เป็นหลัก ส่วนกล้องแบบคอมแพคจะเป็น
กล้องถ่ายภาพประเภทเล็งแล้วกดชัตเตอร์อย่างเดียว ทีเหลือจะปรับตั้งอะไรได้ไม่มาก นอกจากระบบแฟลช
หรือระยะชัดที่สามารถปรับได้บ้างเล็กน้อย จนกระทั่งมีกล้องคอมแพคแบบ SLR ขึ้นมา กล้องคอมแพคจึงเริ่ม
มีระบบการทำงานหลากหลายและสามารถปรับตั้งได้มากขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่ยุคดิจิตอลซึ่งกล้องดิจิตอลในช่วง
แรกมีราคาสูงกว่ากล้องฟิล์มมาก ในจำนวนเงินเท่ากัน ผู้ซื้อกล้องสามารถซื้อกล้อง SLR คุณภาพสูงได้ 1 ตัว
แต่กลับซื้อกล้องดิจิตอลคุณภาพล่างๆ ได้ 1 ตัวด้วยเช่นกัน ดังนั้น ผู้ผลิตกล้องจึงพัฒนากล้องดิจิตอลแบบ
คอมแพคให้มระบบการทำงานเพียบเท่ากล้องฟิล์มที่มีระดับราคาใกล้ๆ กัน กล้องดิจิตอลคอมแพคปัจจุบันใน
ระดับราคา 2 หมื่นกว่าบาท มีระบบปรับะระยะชัดต่อเนื่อง ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ 5 ภาพ/วินาที ถ่ายภาพ
ซ้อน มีวัดแสงเฉพาะจุด และทำได้มากมายเช่นเดียวกับกล้องฟิล์มแบบ SLR ที่ระดับราคาใกล้ๆ กัน ดังนั้น
เราคงจะไม่สามารถกล่าวว่า กล้องคอมแพคเป็นกล้องปัญญาอ่อน เพราะกล้องคอมแพคมีระบบประมวลผลที่
ฉลาด ซับซ้อน สามารถใช้งานจริงจังก็ได้ หรือใช้ถ่ายภาพเล่นๆ สนุกๆ ก็ยังได้ในกล้องตัวเดียวกัน
กล้องดิจิตอลแบบคอมแพคในระดับราคา 10,000 บาทกลางๆ ขึ้นไปจะมีระบบถ่ายภาพให้เลือกใช้งานเกือบ
ครบ ทั้งระบบปรับตั้งเอง ระบบโปรแกรมชิฟ ชัตเตอร์อัตโนมัติ ช่องรับแสงอัตโนมัติ ระบบถ่ายภาพคร่อม
อัตโนมัติ ปรับความชัดโดยผู้ใช้ วัดแสงเฉพาะจุด ซึ่งปกติระบบเหล่านี้จะมีในกล้องราคาแพงเท่านั้น ผู้ใช้
สามารถใช้กล้องดิจิตอลคอมแพคถ่ายภาพได้ไม่น้อยหน้ามืออาชีพเท่าไร (กล้องมืออาชีพจะให้ภาพที่คมชัด
รายละเอียดสูง และสีสันดีกว่ากล้องดิจิตอลคอมแพคเท่านั้น ส่วนลูกเล่นและระบบการทำงานแทบไม่ต่างกัน
แล้ว) หากผู้ใช้กล้องดิจิตอลคอมแพคสามารถเข้าใจระบบการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ ในตัวกล้อง ก็
สามารถถ่ายภาพได้ไม่น้อยหน้ามืออาชีพเช่นกัน
สิ่งที่เป็นอุปสรรค์ในการถ่ายภาพสวยๆ จริงๆ อาจจะอยู่ที่ความไม่เข้าใจในการปรับตั้งกล้อง หรือคิดว่ากล้อง
ตัวเองไม่น่าจะทำแบบโน้นแบบนี้ได้ ทั้งๆ ที่จริงแล้วกล้องสามารถทำได้มากมาย ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการถ่าย
ภาพง่ายๆ โดยใช้กล้องดิจิตอลคอมแพคที่จะช่วยให้ผู้ใช้กล้องสามารถได้ภาพสวยงามดังใจมากยิ่งขึ้น