ขอบคุณค่ะน้าตี้ ผืนป่าใต้สุดยอดจริง ๆ ค่ะในเรื่องของความสมบูรณ์เมื่อได้ขึ้นไปมองจากบนที่สูง
แทบไม่เห็นรอยแหว่ง หรือ โหว่ เหมือนในพื้นที่อื่น ๆ เลยค่ะ
----------------------------
สิ้นแสงสุดท้าย โจ้ถามพี่วาว่า
เหลืออีกกี่เนินคะ
อีกเนินนึงโจ้
ระหว่างที่พูดเนี่ย วิชาโรยตัวของลุงหมูได้ขุดมาใช้ด้วยค่ะ
สนุกมากเพราะเจ้าอุ๊เหมาลื่นซะดินถล่มลงไปทั้งแถบก่อนหน้าที่เราจะเดินมาถึง 555+
รูดกิ่งไผ่ลงมาตามทางที่เกือบตั้งฉากเป็นเมตร หันหลังลงเกาะรากไม้ลงมาเรื่อย ๆ
ไปจับเอาต้นหนามฟ้าแลบ ด้วยความที่มันมืดจนมองไม่เห็นอะไร
คันคะเยอ และ ยิบ ๆ ที่ฝ่ามือไปหมดเลย
สุดท้าย อีก 1 เนินที่พี่วาบอกนั้นไม่มี ก็เพราะเรามาถึงที่พักแล้ว เห็นฟลายชีทกางอยู่ลิบ ๆ ที่สันเขา
เราจะถึงผาเหยียบเมฆที่จะเป็นที่พักของเราในคืนนี้ แต่เส้นทางก็ยังคงชันและแคบมาก ๆ อยู่ดี
ที่นี่ เรามองเห็นไฟในเมืองนครเปิด แสงจากรถยนต์วิ่งเป็นสาย แลเห็นแหลมตะลุมพุกอยู่ไกล ๆ
จากยอด 1600 ม. มาถึงผาเหยียบเมฆ 1350 ม. เราใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ( ถึงตอน 1 ทุ่ม)
อาจจะดูห่างกันไม่มากนัก แต่อยากรู้ว่าทำไมถึงเดินกันเป็นชั่วโมง ก็ขอเชิญพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ