สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 27 เม.ย. 67
Luzifer Photo ตอน : พื้นฐานการถ่ายภาพ (ก๊อปเขามาอีกที): SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 >
 กระดาน > อื่นๆ
ความเห็น: 130 - [26 พ.ย. 50, 22:04] ดู: 44,529 - [26 เม.ย. 67, 02:39] โหวต: 14
Luzifer Photo ตอน : พื้นฐานการถ่ายภาพ (ก๊อปเขามาอีกที)
กระทู้: 20
ความเห็น: 429
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 10-10-2550
nattaromn(231 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 101: 21 พ.ย. 50, 00:47
เยี่ยมเลยครับ ได้ความรู้เยอะเลยครับ 
กระทู้: 113
ความเห็น: 14,178
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2550
ความเห็นที่ 102: 21 พ.ย. 50, 10:22


งามใจไปเลยน้องเลิฟ 
กระทู้: 62
ความเห็น: 14,980
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-08-2550
herofluck(1379 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 103: 21 พ.ย. 50, 11:01

 



กระทู้: 115
ความเห็น: 8,588
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 09-02-2550
ความเห็นที่ 104: 21 พ.ย. 50, 11:54
ฝากเลคเชอร์ก่อง เด๋วมาตามเก็บ
มะหวายยยยย ปวดหัวกะงาน ขอเคลียร์ก่อง 
กระทู้: 165
ความเห็น: 12,566
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 02-01-2548
trophy(4982 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 105: 21 พ.ย. 50, 12:56
เอามาเพิ่มให้ครับน้าลู เคยรวบรวมไว้เหมือนกันแต่นานแล้ว  http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=25067 
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 106: 22 พ.ย. 50, 13:13
เยี่ยมคับ 

ก็อปของเขามาลงทั้งนั้นแหละครับ 
ดีครับยอดเยี่ยมครับ โหวตครับ

ขอบคุณค๊าบ 
มาดันไว้ก่องเดี๋ยวลืมอ่านอ่า  ยังไม่ว่างเรยค้าบบ

ค๊าบ หรือจะเอาต้นฉบับ เด๋วผมไรท์ให้ก็ได้นะครับ
เยี่ยมเลยครับ ได้ความรู้เยอะเลยครับ 

เอามาแบ่งปันกันครับ 
งามใจไปเลยน้องเลิฟ


ฝากเลคเชอร์ก่อง เด๋วมาตามเก็บ

ได้เลยคร๊าบ 
เอามาเพิ่มให้ครับน้าลู เคยรวบรวมไว้เหมือนกันแต่นานแล้ว 

จัดไปเลยครับน้าเต่า

ปล. ขออภัย ถ้าไม่ได้ลิงค์ครบทุกกระทู้ (เพราะหาไม่เจอ) มีอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยแนะนำด้วยคร๊าบ 
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 107: 22 พ.ย. 50, 13:19
 [q]ระบบวัดแสง (Light Metering)[/q]

ในกล้องดิจิตอลจะมีระบบวัดแสงเช่นเดียวกับกล้องใช้ฟิล์ม ระบบวัด
ระบบวัดแสง (Light Metering)


ในกล้องดิจิตอลจะมีระบบวัดแสงเช่นเดียวกับกล้องใช้ฟิล์ม ระบบวัดแสงทำหน้าที่ควรคุมปริมาณแสงที่จะตกลง
Image Sensor ให้เหมาะสมในแต่ละภาพ ทำให้ได้ภาพที่สว่างพอดี (Normal Exposure) ไม่มืดดำ (Under
Exposure) หรือขาวสว่าง (Over Exposure) เกินไป ระบบวัดแสงของกล้องดิจิตอลจะมีอยู่ 2-ลักษณะคือ ใช้
Sensor สำหรับวัดแสงโดยตรง โดยจะมี Light Sensor แยกออกมาสำหรับควบคุมปริมาณแสงโดยเฉพาะ กับ
ใช้ Image Sensorในการกำหนดความมืดสว่างของภาพแทน Light Sensor
การปรับตั้งระบบวัดแสงของกล้องดิจิตอล สามารถทำได้โดยเข้าไปที่ Menu>Metering
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 108: 22 พ.ย. 50, 13:19
ระบบวัดแสงของกล้องดิจิตอลแบ่งออกเป็น 4 ระบบใหญ่ ๆ ให้เลือกใช้งานคือ

1. ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ (
ระบบวัดแสงของกล้องดิจิตอลแบ่งออกเป็น 4 ระบบใหญ่ ๆ ให้เลือกใช้งานคือ

1. ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ ( Average Light-Meterting) เป็นการวัดแสงโดยการเฉลี่ยความสว่างของวัตถุใน
ภาพทั้งหมด แล้วใช้ค่าเฉลี่ยที่ได้ในการเปิดรับแสง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพตามแสง ไม่มีส่วนมืดหรือสว่าง
มากเกินไป ใช้งานได้ดีกับภาพทิวทัศน์
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 109: 22 พ.ย. 50, 13:21
2. ระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลางภาพ (Center-weight Average-Light-Metering) คล้าย ๆ กับระบบเฉลี่ยทั้ง
ภาพ
2. ระบบวัดแสงเฉลี่ยหนักกลางภาพ (Center-weight Average-Light-Metering) คล้าย ๆ กับระบบเฉลี่ยทั้ง
ภาพ แต่มีการเน้นความสำคัญในบริเวณกลางภาพมากกว่าส่วนอื่นๆ ทำให้วัตถุที่อยู่กลางภาพมีผลต่อการวัดแสง
มากกว่าส่วนอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีสภาพแสงไม่ยุ่งยากมากนัก ไม่มีส่วนมืดหรือสว่างมากจนเกินไป
ใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพบุคคล หรือถ่ายภาพตามแสงได้ดี
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 110: 22 พ.ย. 50, 13:26
3. ระบบวัดแสงแบ่งพื้นที่ (Multi-segment Light-Metering) ระบบนี้จะมีการแบ่งพื้นในช่องมองภาพออกเป็น
ส
3. ระบบวัดแสงแบ่งพื้นที่ (Multi-segment Light-Metering) ระบบนี้จะมีการแบ่งพื้นในช่องมองภาพออกเป็น
ส่วนเล็ก ๆ ตั้งแต่ 64 ถึง 1000 ส่วน แต่ละส่วนจะวัดแสงในพื้นที่ของตนเอง แล้วนำค่าแสงมาประมวลผลเพื่อหา
ความเปรียบต่าง ความสว่างของพื้นที่จุดสนใจ ความสว่างของพื้นที่ส่วนใหญ่ เพื่อวิเคราะห์ลักษณะภาพที่ควรจะ
เป็น และกำหนดค่าการเปิดรับแสงออกมา เป็นระบบวัดแสงที่ทันสมัยและชาญฉลาดมากที่สุด เหมาะกับการถ่าย
ภาพในทุกสถานะการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพบุคคล ภาพเคลื่อนไหว ภาพกลางคืน ภาพมีความแตก
ต่างของแสงมาก ๆ สามารถวัดแสงได้แม่นยำ เหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็ว หรือผู้ใช้ไม่ชำนาญ
ในด้านการวัดแสงมากนัก
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 111: 22 พ.ย. 50, 13:28
4. ระบบวัดแสงเฉพาะจุด (Spot Light-Metering) เป็นการวัดแสงจากพื้นที่ส่วนกลางภาพเท่านั้น เหมาะสำหรับ
4. ระบบวัดแสงเฉพาะจุด (Spot Light-Metering) เป็นการวัดแสงจากพื้นที่ส่วนกลางภาพเท่านั้น เหมาะสำหรับ
ผู้ที่ชำนาญในการถ่ายภาพมาก ๆ ใช้งานยาก แต่มีความแม่นยำสูงมากหากใช้งานได้ถูกต้อง
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 112: 22 พ.ย. 50, 13:29
5. ระบบวัดแสงเฉพาะส่วนกลางภาพ (Partial Light -Metering) คล้ายระบบวัดแสงเฉพาะจุด วัดแสงเฉพาะ
ส่วนกลางภาพ แต่พื้นที่ใหญ่กว่าแบบเฉพาะจุด ให้ความแม่นยำสูง แต่ใช้งานยากพอ ๆ กับระบบเฉพาะจุด
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 113: 22 พ.ย. 50, 13:30
หากกล้องดิจิตอลที่ใช้งาน มีระบบถ่ายภาพแบบปรับตั้งเอง หรือ Manual, M ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ใช้สามารถปรับตั้ง
ค่าความเร็วชัตเตอร์ และขนาดช่องรับแสงได้ด้วยตนเอง ผู้ใช้จะทราบได้อย่างไรว่าปริมาณแสงที่มีอยู่ในขณะ
นั้น หากตั้งความเร็วชัตเตอร์ค่านี้ จะต้องใช้ค่าช่องรับแสงเท่าไรเพื่อให้ภาพที่ได้พอดี ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
หน้าที่ในการหาค่าความเร็วชัตเตอร์ หรือขนาดช่องรับแสงนี้เป็นหน้าที่ของเครื่องวัดแสง ผู้ใช้ต้องตั้งความเร็ว
ชัตเตอร์ที่ต้องการใช้งาน ทำการวัดแสง และดูสเกลวัดแสง ถ้าสเกลวัดแสงอยู่ในทางแสดงว่าแสงน้อยเกินไป
ต้องเปิดช่องรับแสงกว้างขึ้น (ตัวเลข F-Number น้อย) เพื่อให้สเกลวัดแสงมาอยู่ที่ตรงกลางหรืออยู่ในระดับ 0
คือ พอดี หรือผู้ใช้อาจจะตั้งขนาดช่องรับแสงที่ต้องการก่อนก็ได้ แล้ววัดแสงดูสเกล จากนั้นปรับความเร็ว
ชัตเตอร์ให้ได้สเกล 0 แทน
การวัดแสงจะกระทำต่อเมื่ออยู่ในระบบถ่ายภาพแบบปรับตั้งเองเท่านั้น หากเป็นระบบถ่ายภาพอัตโนมัติต่างๆ
การวัดแสงและการปรับตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ หรือขนาดช่องรับแสง หรือทั้งสองส่วนจะเป็นแบบอัตโนมัติตาม
ระบบการทำงานที่เลือกใช้
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 114: 22 พ.ย. 50, 13:31
 [q]การตั้งระบบชดเชยแสง (Exposure Compensation)[/q]

กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่ตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนระ
การตั้งระบบชดเชยแสง (Exposure Compensation)


กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่ตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนระดับมืออาชีพ จะมีระบบชดเชยแสงอยู่ด้วย เพื่อควบคุมความ
มืดสว่างของภาพ แม้ว่ากล้องตัวนั้นจะไม่สามารถเลือกระบบวัดแสง หรือระบบถ่ายภาพได้ก็ตาม ระบบชดเชย
แสงจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ระบบชดเชยแสงต่อเนื่อง สำหรับควบคุมความสว่างของแสงต่อเนื่อง และแสง
ธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์ แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนท์ แสงจากไฟทังสเตน ซึ่งถือเป็นแสงที่ส่องสว่างเป็น
เวลานานต่อเนื่อง และระบบชดเชยแสงแฟลช สำหรับควบคุมความสว่างของแฟลชให้ได้ตามที่ต้องการ การใช้
ระบบชดเชยแสงของกล้องดิจิตอลใช้งานได้ง่ายมาก โดยอาศัยดูภาพจากจอ LCD ถ้าภาพมืดเกินไปให้เพิ่ม
ปริมาณแสง และถ้าแสงน้อยเกินไปให้ลดปริมาณแสงลง แต่การดูภาพจากจอ LCD อาจจะไม่แม่นยำมากนัก ถ้า
ใช้ควบคู่กับระบบ Preview หรือ Postview จะทำงานได้แม่นยำกว่า
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 115: 22 พ.ย. 50, 13:34
การเข้าสู่ระบบชดเชยแสง ส่วนใหญ่จะเข้าที่ Menu > Exposure Compensation หรือเครื่องหมาย +- > ตั้งค่าชด
การเข้าสู่ระบบชดเชยแสง ส่วนใหญ่จะเข้าที่ Menu > Exposure Compensation หรือเครื่องหมาย +- > ตั้งค่าชดเชยแสง หรือกดปุ่มชดเชยแสงแล้วหมุนวงแหวนเลือกค่าชดเชยแสงก็ได้

การชดเชยแสงจะกระทำเมื่อการทำงานของระบบวัดแสงไม่สามารถให้ภาพได้ดีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เช่น ภาพมืด
เกินไปหรือสว่างเกินไป จากที่ต้องการ หาก

1.ภาพมืดเกินไป มักเกิดจากการถ่ายภาพย้อนแสง มีวัตถุสว่างในภาพมาก ๆ ทำให้ระบบวัดแสงทำงานผิดพลาด
ภาพมืดกว่าที่ต้องการ ผู้ใช้กล้องต้องเพิ่มค่าแสง โดยการชดเชยแสงไปทาง + ภาพจะสว่างขึ้น

2. ภาพสว่างเกินไป มักเกิดจากวัตถุมีสีเข้ม หรือฉากหลังมีสีเข้มกว่าตัวแบบ ทำให้เครื่องวัดแสงทำงานผิด
พลาด ภาพสว่างกว่าที่ต้องการ ผู้ใช้กล้องต้องลดปริมาณแสงลง โดยการชดเชยแสงไปทาง - ภาพจะมืดลง
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 116: 22 พ.ย. 50, 13:35
วัตถุขาวให้ปรับแสงไปทาง +

วัตถุมีสีเข้มมาก ให้ปรับไปทาง -
วัตถุขาวให้ปรับแสงไปทาง +

วัตถุมีสีเข้มมาก ให้ปรับไปทาง -
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 117: 22 พ.ย. 50, 13:36
การชดเชยแสงจะมากหรือน้อยขึ้นกับความต้องการให้ภาพเป็นอย่างไรเป็นสำคัญไม่มีค่าตายตัวหรือข้อ
กำหนดในการใช้งาน ซึ่งเมื่อใช้งานระบบชดเชยแสงไปนาน ๆผู้ใช้จะเริ่มรู้ว่าควรชดเชยแสงเท่าไรในภาพนั้น
ๆ แต่ถ้าไม่ต้องการใช้ความชำนาญ ให้ใช้ระบบถ่ายภาพแบบ Preview ซึ่งกล้องจะแสดงภาพที่ถ่ายได้ก่อน
บันทึกลงการ์ด หากภาพเป็นที่พอใจค่อยบันทึกลงการ์ด แต่ถ้าไม่พอใจ สามารถปรับเปลี่ยนค่าชดเชยแสง
เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการได้ จะได้ภาพที่มีความสว่างดังใจ ส่วนกล้องที่ไม่มีระบบ Preview อาจจะต้องถ่าย
ภาพ บันทึกลงการ์ด แล้วค่อยดูภาพ หากไม่พอใจก็ต้องลบภาพทิ้งแล้วถ่ายภาพใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะเสียเวลา
มากกว่า

ระบบชดเชยแสงแฟลชจะแยกออกจากระบบชดเชยแสงต่อเนื่อง สามารถเข้าไปใช้ระบบนี้ได้โดยการเข้าที่
Menu > Flash >Exposure Compensation หรือ +- การใช้งานเหมือนการใช้ระบบชดเชยแสงต่อเนื่อง แต่
ให้ดูที่แสงแฟลชแทนว่าแสงแฟลชมากหรือน้อยเกินไป ไม่ใช่ดูภาพทั้งภาพ

ข้อจำกัดของระบบชดเชยแสงแฟลชก็คือ หากแสงแฟลชน้อยเกินไปเพราะแฟลชอยู่ห่างจากวัตถุมากเกินไป
แม้จะชดเชยแสงแฟลชเพิ่ม ภาพก็จะไม่สว่างขึ้น เพราะเกินกำลังการทำงานของแฟลช
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 118: 22 พ.ย. 50, 13:38
 [q]ระบบถ่ายภาพคร่อมค่าการเปิดรับแสง (Bracketing)[/q]

ระบบถ่ายคร่อมค่าการเปิดรับแสงจะมีอยู่ในกล้อ
ระบบถ่ายภาพคร่อมค่าการเปิดรับแสง (Bracketing)


ระบบถ่ายคร่อมค่าการเปิดรับแสงจะมีอยู่ในกล้องดิจิตอลเกือบทุกรุ่นเช่นเดียวกับระบบชดเชยแสงสามารถเข้าสู่
ระบบถ่ายภาพคร่อมได้โดยการเลือก Menu > Bracketing หรือเข้าไปที่ระบบถ่ายภาพคร่อมโดยตรง ซึ่งมักจะ
แยกออกเป็นระบบถ่ายภาพต่างหากที่ระบบการทำงานหลัก สัญลักษณ์จะเป็นสี่เหลี่ยมสามอันซ้อนกัน เป็นขาว
เทา และดำ

เมื่อเข้าสู่ระบบถ่ายคร่อม กล้องจะให้เลือกค่าการถ่ายคร่อม เช่น +-0.3 EV หมายถึงจะถ่ายภาพทั้งหมด 3 ภาพ
โดยมีค่าการเปิดรับแสง น้อยกว่าที่วัดแสงได้ 0.3 EV ตามค่าการวัดแสง และมากกว่าที่วัดแสงได้ 0.3 EV เป็น
ต้น จากนั้นกล้องจะเก็บภาพทั้ง 3 ภาพเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถไปเลือกภายหลังได้ว่าภาพใดให้สีดีที่สุด
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 119: 22 พ.ย. 50, 13:39
ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง


พรุ่งนี้ครับ 
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 120: 26 พ.ย. 50, 21:35
อิอิ

หลังจากที่ดองมาหลายวัน

ช่วงนี้งานเข้าบ่อยเหลือเกิน

วันนี้จึงได้ฤกษ์ ได้ รปภ.(ยาม)

มาโพสต่อสักที

กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 121: 26 พ.ย. 50, 21:39
ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง


เป็นระบบถ่ายภาพหลาย ๆ ภาพต่อเนื่องกัน ซึ่งมักจะมีในกล้องดิจิตอลราคาปานกลางถึงราคาสูง ใช้ในการถ่าย
ภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันหลายๆ ภาพ สามารถเข้าสู่ระบบถ่ายภาพต่อเนื่องได้โดยการเข้าไปที่ Menu >
Continue จะมีรูปสี่เหลี่ยมหลายรูปซ้อนกัน หรืออาจจะมีปุ่มตั้งระบบถ่ายต่อเนื่องอยู่ที่ตัวกล้องโดยตรงก็ได้
ระบบถ่ายภาพต่อเนื่องของกล้องแต่ละรุ่นจะทำงานไม่เหมือนกัน ซึ่งผู้ใช้ต้องอ่านรายละเอียดให้เข้าใจด้วย เช่น
กล้องบางตัวถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 1 ภาพ/วินาทีต่อเนื่องกัน 3 ภาพ บางตัวได้ 5 ภาพ/วินาทีต่อเนื่องกัน 5 ภาพ
บางตัวได้ 5 ภาพ/วินาทีต่อเนื่องกัน 20 ภาพ แต่ต้องตั้งความละเอียดแค่ 1 ล้านพิกเซลเท่านั้น ฯลฯ จึงควร
ศึกษาระบบการทำงานของกล้องที่ตนเองใช้เอาไว้ด้วย
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 122: 26 พ.ย. 50, 21:42
ระบบถ่ายภาพซ้อน (Multiple-Exposure)


เป็นระบบที่ทำให้สามารถถ่ายภาพหนึ่ง ซ้อนลงไปบนอีกภาพหนึ่งได้ เช่น ซ้อนดวงจันทร์บนวิวกลางคืน ซึ่งการ
ซ้อนจะดูแนบเนียนเสมือนจริงมากน้อยขนาดใดนั้น ขึ้นกับลักษณะภาพที่ซ้อนกัน การเข้าสู่ระบบถ่ายภาพซ้อน
โดยการเข้าไปที่ Menu > Multiple-Exposure หรือไปที่ปุ่มเลือกระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง ระบบถ่ายภาพซ้อนมัก
จะอยู่ที่ปุ่มนี้ด้วย
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 123: 26 พ.ย. 50, 21:47
 [q]ระบบแฟลช[/q]

กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะมีแฟลชขนาดเล็กในตัว ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีในระยะไม่เกิน 3-4
ระบบแฟลช


กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะมีแฟลชขนาดเล็กในตัว ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีในระยะไม่เกิน 3-4 เมตร หากไกลกว่า
นั้นปริมาณแสงแฟลชจะไม่เพียงพอ ต้องใช้แฟลชภายนอกซึ่งมีขนาดใหญ่และให้ความสว่างสูงกว่าติดตั้งเข้าไป
ที่ฐานเสียบแแฟลช ส่วนกล้องดิจิตอลราคาประหยัดอาจจะไม่มีฐานเสียบแฟลชที่ตัวกล้อง ทำให้ไม่สามารถใช้
แฟลชภายนอกเข้ามาช่วยได้ ยกเว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ตาแมว ลักษณะเป็นตัวเสียบเข้าที่ฐานของแฟลช
ภายนอก เมื่อแฟลชที่ตัวกล้องทำงานตาแมวจะทำให้แฟลชนอกตัวกล้องทำงานไปพร้อมกับแฟลชที่ตัวกล้อง
ด้วย

โดยทั่วไป การเปิดระบบแฟลชของกล้องดิจิตอล จะมีปุ่มกดที่ตัวกล้องให้แฟลชทำงาน จากนั้นจึงเข้าเมนูของ
ตัวแฟลช เลือกระบบการทำงานของแฟลช ซึ่งมักจะมีให้เลือกดังนี้

1. Auto ระบบแฟลชอัตโนมัติ ทำงานเมื่อแสงไม่พอ หากแสงพอแฟลชจะไม่ทำงาน โดยปกติจะตั้งแฟลชไว้ที่
Auto

2. Force Flash แฟลชทำงานตลอดเวลาแม้แสงจะพอหรือไม่พอ ใช้เมื่อถ่ายภาพย้อนแสง หรือต้องการให้
แฟลชทำงานเป็นกรณีพิเศษ

3. Red-eye reduction แฟลชแก้ตาแดง ใช้ถ่ายภาพบุคคลในที่มืดมาก ๆ ซึ่งม่านตาจะเปิดกว้าง โอกาสที่จะ
เกิดจุดสีแดงในดวงตามีมาก แฟลชจะทำงาน 2-ครั้งหรือมากกว่าแสงแฟลชครั้งแรกแสงจะถูกส่องสว่างออกมา
เพื่อให้ม่านตาหรี่ลง-ส่วนแสงแฟลชครั้งสุดท้ายจะเป็นการถ่ายภาพจริง ๆ

4. OFF สำหรับปิดแฟลชไม่ให้แฟลชทำงาน เพื่อเก็บบรรยากาศของแสงตามความเป็นจริง

5.Slow-sync ใช้แฟลชร่วมกับความเร็วชัตเตอร์ต่ำ เพื่อเก็บบรรยากาศของแสง ไม่ให้ฉากหลังมืดเกินไป ใช้
ความเร็วชัตเตอร์ต่ำร่วมกับแฟลช ต้องระวังการสั่นไหวของกล้อง
กระทู้: 11
ความเห็น: 1,687
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 11-03-2550
รัฐ(162 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 124: 26 พ.ย. 50, 21:49
ไม่เข้าใจอ่ะ งง ว่าแต่ว่ามีเลนส์ส่องทะลุเสื้อผ้าบ้างป่าวอ่า ฝากซื้อหน่อยจิ
กระทู้: 122
ความเห็น: 14,847
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 29-08-2548
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 125: 26 พ.ย. 50, 21:49
ระบบปรับความชัด


ภาพที่ดีควรมีจุดสนใจคมชัด ดังนั้นผู้ใช้กล้องควรปรับความชัดที่จุดสนใจให้ชัดทุกๆ ภาพ
ระบบปรับความชัดของกล้องดิจิตอลจะเป็นแบบปรับความชัดอัตโนมัติแบบทีละภาพเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้ใช้
กล้องดิจิตอลในระดับมือสมัครเล่นส่วนใหญ่ต้องการความสะดวก เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่นิ่ง ใน
สภาพแสงไม่น้อยเกินไปนัก ในที่สลัวอาจจะมีปัญหาในการปรับความชัดบ้าง ต้องเอาไฟส่องหรือหาวิธีเพิ่มแสง
ตรงตำแหน่งจุดปรับความชัด เพื่อให้กล้องสามารถปรับความชัดได้ส่วนกล้องดิจิตอลแบบ SLR หรือกล้อง
ดิจิตอลรุ่นสูงอาจจะมีระบบปรับความชัดโดยผู้ใช้ให้เลือกใช้งาน สามารถปรับความชัดได้ทั้งแบบทีละภาพ
สำหรับวัตถุที่อยู่นิ่ง และแบบต่อเนื่อง สำหรับวัตถุเคลื่อนไหว รวมทั้งมีระบบดักระยะชัดและเปลี่ยนตำแหน่งปรับ
ความชัดตามการเคลื่อนที่ของวัตถุ
ระบบปรับความชัดอัตโนมัติอาจจะมีปัญหาบ้างในสภาพแสงน้อย ๆ วัตถุไม่มีความเปรียบต่าง ถ่ายภาพผ่านลูก
กรงหรือกระจก ให้ใช้ระบบปรับความชัดด้วยมือ หรือปรับระยะชัดที่วัตถุอื่น ๆ ที่มีระยะใกล้เคียงกันก็ได้
ในกรณีที่ถ่ายภาพในระยะใกล้มากเกินไปจนไม่สามารถปรับความชัดได้กล้องจะขึ้นสัญลักษณ์แสดงการเตือนว่า
ไม่สามารถปรับความชัดได้ เช่น เป็นเครื่องหมายตกใจ หรือคำว่า AF กระพริบหากกล้องมีระบบมาโครให้เปิด
ระบบมาโคร โดยเข้าไปที่ Menu หรืออาจจะเป็นปุ่มรูปดอกไม้
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 >
siamfishing.com © 2024